
วันที่ 7 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านต่างสะเทือนใจภาพ นางสุดี สร้อยมุกดา อายุ 47 ปี ยังนั่งเฝ้าซากบ้านของตัวเอง ที่บ้านเลขที่ 18 หมู่ที่ 4 บ้านหนองม่วง ต.นิ คม อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ หลังจากเมื่อคืนที่ผ่านมา ได้เกิดไฟไหม้บ้านของตัวเองจนวอดหมดทั้งหลัง คนที่พบเห็นต่างสงสารเอาด้ายมาผูกแขนเพื่อเป็นกำลังให้สู้ชีวิตต่อ
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 20.00 น.คืนที่ผ่านมา หลัง พ.ต.ต ขัตติยะ เพชรกล้า สารวัตร(สอบสวน)สภ.สตึก อ.สตึก จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งเหตุเพลิงไฟ บ้านเรือนประชาชน ได้ปร ะสานรถดับเพลิงพื้นที่ใกล้เคียงเข้าไปให้การช่วยเหลือ แต่ทำได้แค่ระงับไม่ให้ลามไปบ้านเรือนหลังอื่น เนื่องจากเป็นบ้านไม้ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงอย่างดี
นายเสถียร สร้อยมุกดา อายุ 50 ปี สามีเจ้าของบ้าน คนเดียวที่อยู่ในที่เกิดเหตุ ให้การกับตำรวจด้วยท่าทีคล้ายมึนเมาว่า ช่วงนั้นตนนั่งฟังเพลงอยู่หลังบ้านชั้นล่าง ได้ยินเสียงคล้ายระเบิดดังขึ้น 2 ครั้ง แต่ไม่สนใจเพราะคิดว่าไม่มีอะไร เพียง 5 นาที ได้เกิดไฟลุกไหม้อยู่ชั้นสองอย่างรวเร็ว จึงแจ้งให้ผู้ใหญ่บ้านทราบ
ขณะที่นางสุดี สร้อยมุกดา เจ้า ของบ้านเสียใจร้องไห้ตั้งแต่กลางคืน พร้อมกับตัดพ้อกับชีวิตว่า ตน เองเป็นพนักงานของโรงพยาบาลสตึก และเป็นคนเดียวในบ้านที่ทำงานหาเลี้ยงครอบครัว สามีเอาแต่ดื่มเหล้าไม่ทำงาน
ตอนเช้าวันเกิดเหตุเวลาประมาณ 05.00 น.เห็นสามีซื้อเหล้าขาวมานั่งดื่ม ขณะที่ตนกำลังแต่งตัวไปทำงาน ความรู้สึกตอนนั้นเหมือนตนกับสามีสวนทางกัน จึงทะเลาะกันในตอนเช้า พอตกเย็นมาทราบข่าวว่าไฟไหม้บ้าน และคาดว่าสามีน่าจะนั่งดื่มสุราจนเมาเลยไม่สน ใจว่าจะเกิดอะไรขึ้น
นางสุดี เล่าด้วยว่า ตอนนี้ชีวิตไม่รู้จะเดินไปอย่างไร ทรัพย์สินภาย ในบ้านถูกไฟไหม้เสียหายไปทั้งหมด ไม่มีแม้ชุดใส่ไปทำงาน ห่วงแต่ลูกชายคนเล็กที่กำลังเรียนอยู่ปีสุดท้ายมหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง ส่วนลูกอีกคนอายุ 28 ปีเรียนจบแล้ว แต่ยังไม่มีงานทำ ไม่รู้จะเดินต่อไปอย่างไรหลังจากนี้.
Discussion about this post