
วันที่ 9 ส.ค.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จ.นครพนมสถานการณ์แม่น้ำน้ำโขงยังคงต้องเฝ้าระวังอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดวัดที่จุดวัดน้ำเขตเทศ บาลเมืองนครพนม วัดได้ 10.43 เมตร เพิ่มขึ้นจากเมื่อวานนี้ 97 เซนติเมตร ห่างจากจุดวิกฤติล้นตลิ่งประมาณ 1.5 เมตร ส่งผลให้ลำน้ำสาขาต่าง ๆเช่น ลำน้ำอูน ลำน้ำสงครามลำ ที่ไหลผ่านพื้นที่ อ.นาหว้า อ.ศรีสงคราม และ อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ก่อนไหลระบายลงสู่แม่น้ำโขง เริ่มได้รับผลกระทบมีปริมาณน้ำสะสมสูงเกินกว่าที่จะรับได้และเอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มแล้วเป็นบริเวณกว้าง ขณะที่ลำน้ำอูนที่ไหลลงสู่แม่น้ำสงครามที่บริเวณบ้านปากอุน ก็หนุนสูงถึงแม้เจ้าหน้าที่จะยกบานประตูระบายน้ำขึ้นสูงสุดทุกบานแล้วก็ตาม
โดยเฉพาะพื้นที่ อ.ศรีสงคราม ล่าสุดได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำไหลระบายลงน้ำโขงช้า ทำให้ลำน้ำอูน และลำน้ำสงคราม มีปริมาณน้ำล้นตลิ่ง เกินความจุประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ ส่งผลให้น้ำเอ่อท่วมพื้นที่ลุ่มที่เป็นพื้นที่การเกษตรของชาวบ้าน กว่าหนึ่ง หมื่น ไร่ หากไม่มีฝนตกลงมาซ้ำอีกในสัปดาห์นี้ และน้ำลดระดับลง คาดว่าจะได้รับความเสียหายเพียงบางส่วน
ด้านสถานการณ์น้ำท่วมในประ เทศเพื่อนบ้าน ก็เริ่มคลี่คลายลง โดยกระแสน้ำเริ่มลดระดับลงมาแล้วโดยทางการลาวได้เร่งส่งเจ้าหน้าที่ ลงพื้นที่เพื่อให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยในครั้งนี้อย่างเร่งด่วนแล้ว โดยหลังจากที่เกิดฝนตกหนักติดต่อกันนานกว่าหนึ่งสัปดาห์ก็เกิดน้ำป่าไหลหลากดินโคลนถล่มในหลายพื้นที่หลายเมืองโดนฝนถล่มจนน้ำท่วมสูงเช่นที่เมืองนากาย เมืองคูนคำ และเมืองหินบูน ต่างประสบกับอุทกภัยอย่างหนักหลายหมู่บ้านถูกน้ำท่วมสูงและถูกตัดขาดจากโลกภาย นอก และไม่มีกระแสไฟฟ้าใช้ ขณะนี้ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ลาวได้เร่งนำสิ่งของช่วยเหลือลงพื้นที่เพื่อให้การช่วยเหลือประชาชนที่ประสบภัยเบื้องต้นแล้ว แต่การเดินทางยังคงเป็นไปด้วยความยากลำบากเนื่องจากถนน ถูกน้ำท่วมและเต็มไปด้วยดินโคลนปกคลุมเป็นระยะทางหลายสิบกิโลเมตร ส่วนใหญ่ยังคงต้องใช้สัญจรทางเรือเท่านั้น ซึ่งก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล โดยประชา ชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังคงได้รับความเดือดร้อนอย่างหนัก และไม่สามารถติดต่อสื่อสารกับโลกภายนอกได้เนื่องจากกระแสไฟฟ้าถูกตัดขาดและขาดแคลนอาหารและน้ำดื่มอย่างหนัก.
Discussion about this post