เทศบาลเมืองนครพนม บูรณาการ ศบภ. มทบ.210 กรอกกระสอบทรายสำรองเตรียมรับมวลน้ำหากเกิดจริงตามคาดการณ์

นายโชคดี มังคละคีรี รองนายกเทศมนตรีเมืองนครพนม เปิดเผยว่า จากที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติได้มีประกาศที่ 14/2566 เรื่องเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ซึ่งจากการคาดการณ์ในพื้นที่จังหวัดนครพนม มีด้วยกัน 6 อำเภอ และหนึ่งในนั้นคืออำเภอเมืองนครพนม ประกอบกับจากการติดตามสถานการณ์น้ำในพื้นที่เทศบาลเมืองนครพนม พบว่าระดับน้ำมีความใกล้เคียงกับที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติคาดการณืไว้ โดยระดับน้ำ เช้าวันนี้ 10 สิงหาคม 2566 สถานีอุตุนิยมวิท ยาวัดได้ 10.87 เมตร สูงขึ้นจากวานนี้ 44 เซนติเมตร และตำกว่าจุดวิกฤตอยู่ที่ 1.13 เมตร

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับสถานการณ์ที่อาจจะเกิดหากน้ำในแม่น้ำโขงสูงเกิน 12 เมตร นอกจากการติดตั้งเครื่องสูบน้ำไว้ตามประตูระบายน้ำที่ตั้งอยู่ตามจุดต่าง ๆ ตลอดริมแม่น้ำโขงในพื้นที่รับผิดชอบของเทศบาลเมืองนครพนมที่มีด้วยกัน 6 จุดแล้ว นายนิวัต เจียวิริยบุญญา นายกเทศมนตรีเมืองนครพนม ยังได้มอบหมายให้มีการประสาน พลตรี สถาพร บุญชู ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 210 เพื่อขอการสนับสนุนกำลังพลของศูนย์บรรเทาสาธารณภัย มณฑลทหารบกที่ 210 มาช่วยในการกรอกกระสอบทรายจำนวน 3,000 กระสอบไว้ใช้งานโดยกระสอบทรายชุดนี้จะใช้เป็นตัวช่วยเสริมในเรื่องโครงสร้างของบานประตูระบายน้ำให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้น สามารถรองรับแรงกระ แทกของมวลน้ำได้มากยิ่งขึ้น เพราะหากปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงถึง 12 เมตร ตามที่กองอำนวยการน้ำแห่งชาติคาดการณ์ ทางเทศบาลเมืองนครพนมจะมีการปิดประตูระบายน้ำทันทีและเดินเครื่องสูบน้ำที่มีการติดตั้งไว้แล้วอย่างเต็มกำลัง รวมถึงจะมีการกรอกกระสอบทรายเพิ่มเพื่อนำมาสร้างเป็นแนวกั้นมวลน้ำที่จะไหลเข้ามายังพื้นที่และสร้างความเสียหายให้ประชาชน

นอกจากนี้ก็ยังได้มีการประกาศแจ้งเตือนประชาชนที่มีบ้านอยู่ริมฝั่งแม่น้ำโขงให้เก็บสิงของมีค่าต่าง ๆ ขึ้นที่สูง รวมถึงให้ติดตามประกาศของทางหน่วยงานราช การและสถานการณ์น้ำอย่างใกล้ชิด รวมถึงเมื่อวานนี้ก็ได้ร่วมกับนายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนมและคณะเดินทางไปแจ้งร้านค้าที่ค้าขายอยู่ที่บริเวณชั้นล่างของลานพญาศรีสัตตนาคราชที่มีความเสี่ยงมากสุด เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมีระดับต่ำกว่า 12 เมตร ให้ทางร้านค้าได้เก็บและเคลื่อนย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่ก่อน โดยจะมีการหาสถานที่จำหน่ายให้เป็นการชั่วคราว และหากพ้นช่วงอันตรายแล้วจึงจะอนุญาตให้กับไปดำเนินการได้ตามเดิม.