ผบ.ฉก.นราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุ ลอบวางระเบิดชุดทหาร ณ บ้านตะโล๊ะ 2 ต.ซากอ อ.ศรีสาคร

เมื่อวันที่ 18 สิงหาคม 2566 ผู้สื่อข่าวรายงาน ที่ หอผู้ป่วยศัลกรรมชาย 1 ตึกประชารักษ์ โรงพยา บาลนราธิวาสราชนครินทร์ อำเภอเมือง จังหวัดนราธิวาส พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส เยี่ยมให้กำลังใจกำลังพลที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์คนร้ายไม่ทราบจำนวน ลอบวางระเบิดชุดทหารช่าง ของกองร้อยทหารพรานที่ 4901 หน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่ 49 ซึ่งบ้านหลังดังกล่าวอยู่ระหว่างการก่อสร้างตามโครงการหน่วยเฉพาะกิจนรา ซ่อมสร้างปันสุข โดยสร้างให้แก่ ผู้ยากไร้ และผู้พิการในพื้นที่ จังหวัดนราธิ วาส เหตุเกิด บริเวณพื้นที่บ้านตะโล๊ะ หมู่ที่ 2 ตำบลซากอ อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 17 สิงหาคม 2566 ที่ผ่านมา

ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารพรานเสียชีวิต จำนวน 1 นาย ทราบชื่อ อาสาสมัครทหารพราน อุดมศักดิ์ เราตะพงษ์ และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 นาย ทราบชื่อ 1. อาสาสมัครทหารพราน ฐานะศักดิ์ คีรีแก้ว ได้รับบาดเจ็บโดนสะเก็ดระเบิดบริเวณแผ่นหลัง ,2. อาสาสมัครทหารพราน อดุลย์ ชัยฤทธิ์ ได้รับบาดเจ็บ บริเวณแผ่นหลัง ,3. อาสาสมัครทหารพราน ปูเต๊ะ อาหลี ได้รับบาดเจ็บ มีแผลถลอก แน่นหน้าอก และ 4. อาสาสมัครทหารพราน ธีรวัฒน์ คงจุ้ย ได้รับบาดเจ็บ มีรอยช้ำบริเวณสะบัก

โดย พลตรีเฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ได้สอบถามอาการ และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น พร้อมทั้งมอบกระเช้าเยี่ยมผู้ป่วย และเงินช่วยเหลือและบำรุงขวัญให้แก่กำลังพล พร้อมกล่าวให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ได้รับบาดเจ็บและครอบครัว และได้เน้นกำชับหน่วยต้นสังกัดดูแลเรื่องสิทธิ และสวัสดิการ พร้อมกำชับให้ทุกส่วนที่เกี่ยวข้องดูแล ฟื้นฟูสภาพกำลังพล ทั้งทางด้านร่าง กาย และจิตใจที่ได้รับบาดเจ็บอย่างดีที่สุด

ทั้งนี้ พลตรี เฉลิมพร ขำเขียว ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า ได้เน้นย้ำข้อสั่งการ ของพลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ที่ให้ทุกพื้นที่เพิ่มความระมัดระวัง นำเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นำมาเป็นบทเรียน การปฏิบัติทุกภารกิจต้องไม่เกิดการสูญเสีย ประสานกำลังทุกภาคส่วนรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพิ่มมาตรการในการดูแลความปลอด ภัยต่อเป้าหมายอ่อนแอ สร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชา ชน กำชับให้หน่วยที่เกี่ยวข้องเร่งรวบรวมวัตถุพยาน รวมทั้งเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะหลบหนี พร้อมได้สั่งการให้หน่วยที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบ และติดตามจับกุมคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้โดยเร็ว รวมไปถึงได้เน้นย้ำให้ทุกพื้นที่เพิ่มมาตร การควบคุมความปลอดภัย โดยการบูรณาการกำลังทุกภาคส่วนในการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่ ทั้งนี้ต้องขอความร่วมมือไปยังพี่น้องประชาชน หากพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือบุคคลต้องสงสัยก็สามารถแจ้งหน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง.