
เมื่อวันที่ 28 ส.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์คลิปรีวิวถนน พื้นผิวดาวอังคารบนโลกมนุษย์ พร้อมบรรยายว่า “สวัสดีทุกๆท่าน วันนี้เราจะพาทุกท่านมาพบกับ ประสบการณ์ใหม่ๆ ประสบการณ์ที่ทุกท่านจะเจอนี้ จะรู้สึกเหมือนอยู่บนดาวอังคาร เส้นทางที่ท่านได้เจอนี้ ไม่ใกล้ไม่ไกล เพียงแค่คุณขับรถผ่านมาทาง 3 บ้านแทรง ผ่านทางบ้านใจดี ไปจบที่ 3 แยกบ้านภูมิศาลา ประสบการณ์ที่ท่านจะได้เจอ นั่นคือความสนุกสนานในการขับรถกับการทดสอบสมรรถภาพ ว่ารถของท่าน มีแหนบ มีโช๊คที่ใช้ ดีหรือไม่ หรือจะเป็นประสบการณ์การส่งเสริมทักษะในการขับรถหลบหลุ่มซ้าย หลบหลุมขวา อ้าว…นั่นรถสวนกันมาแล้ว เขายิ้มให้เราด้วยนะ รู้ได้อย่างไรล่ะ ก็เพราะว่ารถแต่ละคันขับได้ช้ามาก ช้าจนเห็นฟันกันเลยทีเดียว ประสบการณ์นี้ถ้าคุณต้องการ คุณสนใจ เชิญมาได้ที่นี่ ไม่ใกล้ไม่ไกล ยินดีพบกับทุกท่าน สวัสดี คลิปวีดีโอนี้ เพื่อความสนุก สนานเท่านั้น!”
หลังโพสต์คลิปดังกล่าวได้ไม่นาน ชาวเน็ตต่างพากันฮือฮา เข้ามากดไลค์ กดแชร์ และแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก อาทิ ถนนเส้นนี้ตั้งแต่ขับรถมา ไม่เคยปรับปรุงเลย ไม่รู้ส่วนไหนรับผิดชอบ , ความสั่นสะเทือนของโลก ,ไม่ได้ไป 1 เดือนเอง ร้ายขนาดนี้เลยหรือ ,ไม่ต้องออกนอกโลกค่ะ , กำลังกลับดาวหรือค่ะหัวหน้า เป็นต้น
จากนั้นผู้สื่อข่าวได้เดินทางลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบ ที่ถนนสายดังกล่าว ซึ่งเป็นถนนลาดยาง ทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน เริ่มจากสามแยกบ้านแทรง ต.ห้วยสำราญ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ไปทางบ้านใจดี ต.ใจดี อ.ขุขันธ์ และไปบรรจบที่สามแยกบ้านภูมิศาลา ต.โคกเพชร อ.ขุขันธ์ ซึ่งถนนสายดังกล่าวมีรถสัญจรไปมาค่อนข้างมาก เพราะเป็นถนนทางเชื่อมระหว่างหมู่บ้าน ระยะทางประ มาณ 10 กิโลเมตร ซึ่งเส้นทางนี้ยังเป็นเส้นทางลัดไป อ.ปรางค์กู่ กับ อ.ขุขันธ์
ปัจจุบันมีสภาพชำรุด เป็นหลุมเป็นบ่อขรุขระ อยู่ 3 จุด จุดแรกที่บริเวณหน้าโรงบ้านแทรง ต.ห้วยสำราญ ระยะทางพังเสียหายประมาณ 200 เมตร จุดที่ 2 บริเวณหน้าโรงเรียนบ้านใจดี ต.ใจดี กลางหมู่บ้าน เสียหายประมาณ 200 เมตร และจุดที่ 3 คือที่บริเวณบ้านภูมิศาลา ต.โคกเพชร ระยะทางประมาณ 500 เมตร บางจุดมีร่องรอยการอุดปะซ่อมถนนเป็นระยะ แต่ก็ใช้งานได้ไม่นาน ก็หลุดลุ่ยพังเสียหายเช่นเดิม
นายเดชา ชวดพงษ์ อายุ 52 ปี ชาวบ้านในพื้นที่ เล่าว่า ถนนสายดังกล่าว พังเสียหายมานานกว่า 5 ปี แล้ว ยังไม่ได้รับการแก้ไขอย่างจริงจัง ช่วงฤดูฝนมีน้ำขัง แต่พอถึงช่วงฤดูร้อนมีฝุ่นตลบ ชาวบ้านผู้สัญจรไปมา ต่างได้รับความเดือดร้อน และเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง อีกทั้งถนนสายดังกล่าวยังเป็นเส้นทางที่มีการคมนาคมขนส่งสินค้าทางการเกษตรเป็นจำนวนมาก จึงอยากขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งเข้ามาสำรวจตรวจสอบและแก้ไขปัญหาให้กับชาวบ้าน เพื่อจะได้สัญจรไปมาด้วยความสะดวกปลอดภัยยิ่งขึ้น.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ
Discussion about this post