จากกรณีที่ บริษัท กฏหมายแห่งหนึ่ง ได้ส่งหนังสือ ให้ยุติการกระทำอันเป็นการละเมิดเครื่องหมายการค้าและเรียกค่าเสียหาย กับทาง เจ้าของกิจการ ร้านปังชา เชียงราย และ ร้านปังชาเชียงราย มาม่าต้มยำ โดยคิดค่าเสียหายจากการละเมิดชื่อทางการค้า จำนวนทั้งสิ้น 102 ล้าน และขอให้ยุติการกระทำอันเป็นละเมิดโดยการหยุดใช้คำว่า “ปังชา” หรือ “Pang Cha”
โดยที่ ปังชา ร้านน้ำชาเชียงราย นายวีรชาติ ไอยรากาญจนศักดิ์ เจ้าของร้าน บอกว่าได้รับหนังสือดังกล่าวรวม 3 ฉบับ เป็นการส่งทางไปรษณีย์แบบลงทะเบียน ฉบับแรกวันที่ 21 กรกฎาคม 2566 ตอนแรกก็ตกใจ จึงได้ดำเนินการเปลี่ยนชื่อร้าน ร้านแรก ร้านปังชาเชียงราย มาม่าต้มยำ ซึ่งมีที่ตั้งอยู่ในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งของจังหวัดเชียงราย ในวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 ส่วนร้านที่อยู่ในเขตตัวเมืองเชียงรายยังไม่ได้ดำเนินการ เพราะอยู่ระหว่างปรึกษาทนายความและหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ว่าทางร้านมีความผิดจริงหรือไม่
ทั้งนี้ ปังชา เชียงราย มีเพียงภาษาไทยเท่านั้นที่เหมือน ส่วนภาษาอังกฤษ จะเขียน Pung cha และเมนูอาหารที่ถูกระบุว่าเหมือนกับผู้ส่งหนังสือ ใช้เป็นเมนูปังเย็น ซึ่งก็ไม่ได้ซ้ำกับทางบริษัทแต่อย่างใด
นายวีรชาติ ไอยรากาญจนศักดิ์ เจ้าของร้านฯ ยังกล่าวอีกว่า ทางร้านไม่ได้มีความตั้งใจที่จะลอกเลียนแบบหรือใช้ชื่อซ้ำกัน แต่เป็นเพียงการตั้งชื่อจากการขายเมนูขนมปังและน้ำชา จึงตั้งชื่อปังชา และเปิดกิจการเล็กๆ ริมถนนมาตั้งแต่ปี 2564 แต่ถ้าหากผิดจริงก็พร้อมเปลี่ยนชื่อ เพราะไม่อยากไปต่อสู้กับทุนใหญ่ ขอขายของในกิจการเล็กๆ
และอยากเรียกร้องให้ผู้ที่รู้กฎหมายหรือหน่วยงานภาครัฐเข้ามาดู ว่าชื่อภาษาไทยสามารถใช้ได้หรือไม่คำว่า “ปังชา”
ส่วนเมนูที่ทางร้านก็มีจำหน่ายหลากหลาย ทั้งขนมปังปิ้ง เมนูเย็น เครื่องดื่มร้อนเย็น น้ำแข็งใส ติ่มซำ และของร้อน
Discussion about this post