พ่อ-แม่รับศพ ‘น้องข้าวโอ๊ต’ สวดอภิธรรมคืนแรก พ่อร่ำไห้ขณะนำรถของเล่นคันโปรดลูกชายวางหน้าศพ !!

จากกรณีเมื่อคืนที่ผ่านมาวันที่(30 ส.ค.66) เวลา 19.45 น. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากน.ส.นภาพร เทียนวรรณ์ อายุ 31 ปี อาชีพ แม่ค้าขายผัก และนายชุมพล ทองแฉล้ม อายุ 30 ปี สองสามีภรรยา ว่าน้องข้าวโอ๊ตวัย 4 ขวบ ได้เสียชีวิตเพราะมีอาการสมองตาย ไตวาย และเป็นกรดในเลือดเยอะ โดยบรรยากาศที่ รพ.พระนั่งเกล้า เป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ น.ส.นภาพร และนายชุมพล ได้โอบกอดลูกชายด้วยน้ำตาเพื่อร่ำลาเป็นครั้งสุดท้าย ก่อนนำศพลูกชายส่งต่อให้เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งไปที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ แล้วจะนำศพของน้องข้าวโอ๊ตมาประกอบพิธีทางศาสนาในวันพรุ่งนี้ที่ วัดปลายคลองขุนศรี ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี

ความคืบหน้า ล่าสุดวันนี้ 31 ส.ค. 66 เวลา 15.00 น. ที่ วัดปลายคลองขุนศรี ศาลาธรรมสังเวช ศาลา1 ต.ไทรใหญ่ อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี น.ส.นภาพร เทียนวรรณ์ อายุ 31 ปี อาชีพ แม่ค้าขายผัก และนายชุมพล ทองแฉล้ม อายุ 30 ปี พ่อและแม่ได้เดินทางไปรับศพน้องข้าวโอ๊ตวัย 4 ขวบ ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุม ธานี เพื่อมาประกอบพิธีทางศาสนา บรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ ทางครอบ ครัวญาติพี่น้อง ที่รู้จักที่เคยเอ็นดูและเลี้ยงดูน้องข้าวโอ๊ตได้มาร่วมงานแสดงความเสียใจกับครอบ ครัวน้องข้าวโอ๊ต ทางนายชุมพล พ่อของน้องข้าวโอ๊ตได้นำ เสื้อผ้า ตุ๊กตา รถของเล่น ข้าวหมกไก่ เป๊ปซี่ และขนมขบเคี้ยว รวมถึงกระดาษระบายสีผลงานของน้องข้าวโอ๊ตที่เคยให้คุณพ่อดู มาให้วางไว้ให้น้องข้าวโอ๊ต โดยงานมีกำหนดการสวดอภิธรรม 3 คืน และกำหนดฌาปนกิจในวันที่ 3 ก.ย.66

นายชุมพล พ่อของน้องข้าวโอ๊ต กล่าวว่า ปกติคนละแวกนั้น จะช่วยกันเลี้ยงน้อง กินข้าว อาบน้ำได้ทุกบ้าน ก่อนน้องจะสิ้นใจ เมื่อคืนที่ผ่านมาคุณหมอเรียกเข้าตนไปดูน้อง แต่ตนทนดูไม่ได้ภรรยาเลยลากออกมาร้องไห้ข้างนอกเพราะไม่อยากให้ลูกเห็น บนไว้ว่าถ้าลูกรอดจะบวชให้ แต่ก็ไม่มีปาฏิหาริย์ ตอนแรกคุยกับภรรยาว่าจะบริจาคร่างกายของลูกให้ไปช่วยเหลือคน แต่ภรรยาบอกว่าบริจาคไม่ได้เพราะลูกไตวาย สมองตายและปอดติดเชื้อ คุณหมอแจ้งว่าไม่สามารถยื้อน้องไว้ได้แล้วด้วยภาวะทางร่างกาย แต่เชื่อว่าน้องรอพี่คนงานพม่ามาเยี่ยมให้ครบทุกคนก่อนจะจากไป ก่อนเสียน้องมีการตอบโต้กับคุณพ่อบ้าง แต่ไม่อยากรบกวนลูกเพราะคุณหมอแจ้งว่าหากน้องตื่นเครื่องปั๊มหัวใจจะทำงานหนัก จะทำให้น้องหายใจไม่ทัน ลูกชายชอบเล่นของเล่น พวกรถแม็คโคร รถสิบล้อ และเตรียมเสื้อผ้าที่ใส่ประจำมาให้ด้วย ตอนนี้ต้องการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวคนก่อเหตุให้ได้ เริ่มได้เบาะแสว่าเป็นรถใช้ขับวนส่งของก่อนที่มาชนน้อง ยังไม่ทราบว่าใครเป็นเจ้าของรถ ตอนนี้ยังโทษตัวเองที่ดูแลลูกได้ไม่ดี ถ้าวันเกิดเหตุหันกลับไปดูลูก ไม่มัวก้มเก็บของลูกก็จะหยุดและไม่โดนรถชน แปลกใจที่ตอนเกิดเหตุตัวเองไม่ได้ยินเสียงรถ ปกติจะได้ยินตลอด อยากฝากถึงคนขับรถให้เข้ามามอบตัว ไม่ได้ใจดำขนาดนั้น ตอนนี้เสียลูกชายไปแล้ว อยากให้ออกมารับผิดชอบ

น.ส.นภาพร แม่ของน้องข้าวโอ๊ต กล่าวทั้งน้ำตาว่า ล่าสุดที่หมอบอกว่าน้องสมองตายแล้ว แต่วันที่ 29 ส.ค.66 น้องฉี่ไม่ออก และน้องล้างไตไม่ไหว ส่วนไตของน้องไม่สามารถรับยาได้แล้ว น้องไตวาย น้องอยู่ได้เพราะยาและเครื่องกระตุ้น ซึ่งก่อนหน้านี้น้องยังพอตอบโต้ได้บ้าง คุยได้ พอตนเรียกสามารถตอบได้ ตนได้รอเยี่ยมเรื่อยๆ แต่ถัดมา 2-3 วัน หมอบอกว่าน้องมีอาการเหนื่อยหอบ และมีเลือดออกในปอด ซึ่งไม่มีโรงพยาบาลไหนรับไปรักษาตัว ตนคิดว่าน้องจะรอดแต่ก็ไม่รอดแล้ว หมอให้ทำใจไว้ ซึ่งช่วงเมื่อวานประมาณ 4-5 โมงหมอให้มาเยี่ยมน้อง เพราะอาการแย่มาก และไม่รอด หมอจึงขอไม่เจาะเลือดและขอฉีดยานอนหลับ หลับให้สบายให้น้องไปอย่างสงบ ตนได้เรียกญาติและคนงานให้ไปเยี่ยม เพราะทีแรกจะเอาน้องกลับจังหวัดกำแพงเพชร แต่ไม่ทัน ญาติๆต่างเสียใจ หลังจากญาติๆมาเยี่ยมน้องเสร็จน้องได้ไปอย่างสงบ ตอนนี้ตนไม่สามารถทำอะไรได้แล้ว ขอให้คนขับกลับมาขอโทษหรือมาพูดคุยเพราะตอนนี้น้องไม่อยู่ด้วยแล้ว ตนก็มีส่วนผิดที่ไม่ดูแลลูกให้ดี แต่กระบะก็ไม่ควรที่จะขับไว ตอนนี้ตนปล่อยวางแล้วให้เข้ามาไหว้ศพน้อง จะไม่โกธรหรือเกลียดแล้ว ตอนนี้อยากให้น้องไปสบายไม่ต้องห่วงอะไรแล้ว

นายโทน อายุ 44 ปี พี่เลี้ยงน้องข้าวโอ๊ต กล่าวว่า ปกติตนจะอยู่กับน้องตลอด และคอยดูและน้องตลอด เพราะน้องเป็นญาติด้วย น้องจะเข้าได้กับทุกคน น้องข้าวโอ๊ตจะเรียกตนว่าพ่อหรือคนอื่นที่สนิทจะเรียกป๊าตลอด ซึ่งน้องจะอยู่กับลูกชายตนบ่อย ตนรู้สึกว่าน้องเสียไวเกินไป และรถกระบะน่าจะลงมาดูก่อนไม่ใช่รีบขับหนีไป

ครูทราย ครูประจำชั้นห้องน้องข้าวโอ๊ตอนุบาล1 กล่าว่า ตนรู้สึกหดหู่เเละเสียใจ เพราะเรื้องนี้รู้สึกว่าเลวร้ายเกินไปสำหรับเด็ก ซึ่งเด็กก็ดื้อตามประสาของเด็ก แต่น้องน่ารักตลอด ครอบครัวของน้องก็เป็นกันเองทุกอย่างให้คสามร่วมมือทุกเรื่อง น้องชอบเล่นกับเพื่อนเป็นที่รักของเพื่อนในห้อง ตนรู้สึกเสียใจแทนพ่อและแม่ของน้อง อยากให้คนขับรถกระบะออกมารับผิดชอบและออกมาพูดคุยกัน ซึ่งตรได้ติดตามข่าวโทรถามอาหารน้องตลอดจนน้องเสียชีวิต ทางโรงเรียนจะเป็นเจ้าภาพ1 วัน.