

เมื่อวันที่ 1 ก.ย. 2566 นายโสดี วงศ์พินิจ อายุ 60 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 หมู่ 13 บ้านกะหวัน ต.จะกง อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ พร้อมด้วยภรรยา ได้นำพาผู้สื่อข่าวตรวจสอบภาพกล้องวงจรปิด หลังเกิดเหตุคนร้ายเป็นชาย อายุประมาณ 35-40 ปี ลักษณะสวมหมวกกันน็อคปิดบังใบหน้า สวมเสื้อเชิ้ตสีฟ้า และมีเสื้อกั๊กสีดำสวมทับอีกที สวมกางเกงขายาวสีเทา รองเท้าผ้าใบสีขาว ขับขี่รถจักยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง-ดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน เข้ามาขโมยข้าวสารของชาวบ้านที่อยู่บนท้ายรถปิกอัพ ที่เจ้าของบ้านจอดไว้ในโรงรถหายไป จำนวน 1 กระสอบ แล้วขับรถหลบหนีไป
นายโสดี เล่าว่า วันเกิดเหตุเมื่อช่วงเวลาประมาณ 17.40 น. ของวันที่ 26 ส.ค. 2566 ตนและภรรยาไม่ได้อยู่ที่บ้าน และได้จอดรถปิกอัพที่ขนข้าวสารของชาวบ้านไว้ท้ายรถ จำนวน 4 กระสอบ เพื่อเตรียมนำส่งลูกค้าที่นำข้าวมาสีที่โรงสีข้าวของตน จากนั้นได้มีคนร้ายเป็นชาย ไม่ทราบว่าเป็นใคร เพราะไม่เคยเห็นหน้ามาก่อน เชื่อว่าไม่ใช่คนในพื้นที่ ได้ขับรถจักรยานยนต์ผ่านหน้าบ้าน แล้วเลี้ยวรถเข้าไปยังโรงสีข้าวที่ตั้งอยู่ข้าวบ้านตน คาดว่าคนร้ายน่าจะเข้าไปขโมยข้าวในโรงสี แต่ในวันเกิดเหตุ ไม่มีข้าวอยู่ในโรงสี คนร้ายจึงได้ขับรถย้อนศรกลับมาที่บ้านตน ซึ่งมีกล้องวงจรปิด มาเห็นข้าวอยู่ท้ายรถปิกอัพ จึงทำทีร้องตะโกนเรียกหาเจ้าของบ้าน เมื่อรู้ว่าไม่มีใครอยู่ คนร้ายจึงลงมือก่อเหตุยกข้าวสารใส่บริเวณช่องกลางของรถจักรยานยนต์ ขับหลบหนีมุ่งหน้าไปทาง อ.วังหิน
เมื่อตนกลับมาถึงบ้าน สังเกตเห็นว่าข้าวสารหายไป 1 กระสอบ น้ำหนักประมาณ 60 กิโลกรัม มูลค่าประมาณ 1,500 บาท บริเวณล้อยางรถยนต์ปิกอัพคันที่มีข้าวสารอยู่ ยังพบมีร่องรอยถูกของมีคมกรีดเป็นรอยยาวจนยางแฟบ จากนั้นจึงได้ไปเปิดดูกล้องวงจรปิด จึงรู้ว่าถูกขโมยขึ้นบ้าน จากนั้นจึงได้นำหลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรไปไปแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวน สภ.จะกง เพื่อให้ติดตามจับกุมตัวคนร้ายไม่ให้ไปก่อเหตุลักขโมยที่ไหนอีก โดยตนรู้สึกว่าเสียความรู้สึก ไม่น่ามาขโมยกันแบบนี้ ไม่มีข้าวกินขอกันดีๆก็ให้ ส่วนข้าวที่หายไปเป็นข้าวที่ชาวบ้านนำมาสีในโรงสีข้าวของตน ตนจึงได้เอาข้าวเปลือกของตนเองสีคืนแทนชาวบ้านไป.
ทีมข่าว จ.ศรีสะเกษ รายงาน
Discussion about this post