
นนทบุรี : เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2566 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่งานวัดแห่งหนึ่งย่านบางบัวทอง จ.นนทบุรี พบ สองสามีภรรยา ซึ่งทั้งสองคน แต่งตัวแต่งหน้าทำผมเป็นตัวตลกและยืนร้องเพลงเปิดหมวกหาเงินเพื่อเลี่ยงชีพในงานวัดซึ่งผู้สื่อข่าวเข้าสอบถามจึงทราบว่าชายคนดังกล่าวชื่อ นาย ประเสริฐ ยังปรางค์ หรือชื่อในวงการ นกแก้ว อายุ 60 ปี และนางปภาวรินทร์ คล้ายสุบรรณ์ หรือพี่มดดำ อายุ 45 ปี
ซึ่งพี่นกแก้ว เล่าว่าเมื่อก่อนในยุคที่มีคาเฟ่ ตนเลนตลกมาหลายคณะ เพรสะเมื่อก่อนอยู่ที่ ซอยบุบผาสวรรค์ ขึ้นชื้ออยู่แล้ว ตลกดังๆอย่างพี่หม่ำจกมก พี่เต่าเชิญยิ้มพี่โหนงและใครอีกหลายๆคนในยุคนั้นตั้งแต่คาเฟ่ไม่มีตลกเริ่มไม่มีงานทำต่างคนต่างหาอาชีพกันใหม่แยกย้ายกันทำมาหากินและที่ผ่านมาใช้ชีวิตอย่างลำบากค่า น้ำ150 บาทไม่มีเงินจ่ายต้องอาบน้ำคลองตลกไม่มีคนจ้างตนต้องไปเป็นช่างเชื่อมหาเงินใช้ชีวิตอยู่กับภรรยาทุกวันนี้เป็นช่างเชื่อมไม่ไหวแล้วตาเริ่มมองไม่เห็นต้องไปลอกตาและเป็นไตระยะสุดท้าย และทุกวันนี้ตนอยู่ในวงตลกของอ้อมเอสโซ้เชิญยิ้มแต่งานก็ไม่มี ต้องมาร้องเพลงเปิดหมวกตามงานวัดต่างๆกับภรรยาเพื่อหาเงินเลี้ยงชีพเพราะลูกก็ไม่มีภรรยาของตน
ทุกวันนี้ป่วยเส้นเลือดในสมองตีบและโรคหัวใจต้องหาเงินหาหมอกันบางวันก็ได้ 200-300 พออยู่ได้ซึ่งตนกับภรรยาไปร้องเพลงเปิดหมวกแต่ละที่ก็จะขับรถ จยย.พ่วงข้างกันไปสองคนเอาลำโพงพินหรือของที่ต้องใช้ขึ้นรถไปภรรยาขิงตนเป็นคนขับที่ไหนมีงานวัดก็ไปที่นั้นซึ่ง2-3วันที่ผ่านมาตนมาเล่นที่วัดในพื้นที่จังหวัดนนทบุรีก็ได้ขับรถ จยย.พวงข้างมาจอดในวัดด้านหล้งอาสัยชายคาที่เก็บโลงศพนอนกางเต้นนำแผ่นไวนิลมาปิดเพื่อกันฝนเข้าห้องน้ำวัดอาบน้ำในวัดพอตกเย็นตนและภรรยาแต่งตัวเป็นตัวตลกบ้างหมอลำบ้างและก็ลากลำโพงไมค์หรืออุปกรต้องใช้ออกไปร้องเพลงทำมาหา กินกัน.
Discussion about this post