ผู้ว่าฯ แพร่ พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ เยี่ยมให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่ไปทำงานประเทศอิสราเอล เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวแรงงาน

เมื่อเวลา 13.30 น.วันที่ 12 ตุลาคม 2566 นายชุติเดช มีจันทร์ ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ พร้อมด้วยนางณัชชา มีจันทร์ นายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ สมาชิกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ และส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง ลงพื้นที่พบปะครอบครัวแรงงานไทยที่ไปทำงานยังประเทศอิสราเอล เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจแก่ครอบครัวซึ่งลูกหลานไปทำงานอยู่ต่างประเทศ และประสบกับสงครามในพื้นที่ โดยลงพื้นที่ยังบ้านเลขที่ 213/4 หมู่ที่ 4 ตำบลท่าข้าม อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ ครอบครัวของนายกฤษณุพงษ์ เทียมแสน (บิว) อายุ 34 ปี ไปทำงานประเทศอิสราเอล (นอกเขตพื้นที่สงคราม)อาชีพ เกษตรกร (เก็บผัก) ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2565 โดยพบกับนางกานดา เทียมแสน ผู้เป็นแม่ อายุ 59 ปี ซึ่งมี อาการเจ็บป่วย ขาพิการ อยู่บ้านไม่มีงานทำ อยู่กับน้องชายนายกฤษณุพงษ์ ประกอบอาชีพเป็นพนักงานบริษัท เคอรี่ เป็นผู้ดูแล และรอบบ้านมีญาติพี่น้องอาศัยอยู่และช่วยดูแล โดยนายกฤษณุพงษ์ เทียมแสน จะส่งเงินให้แม่ทุกเดือน ๆ ละ 3,000 – 5,000 บาท
จากนั้น ผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่พร้อมด้วยนายกเหล่ากาชาดจังหวัดแพร่ และคณะได้ไปยัง บ้านเลขที่ 39/6 หมู่ที่ 3 ตำบลแม่หล่าย อำเภอเมืองแพร่ ครอบครัวของนายศุภชัย ดอกแสง (ต๋อง) อายุ 31 ปี ไปทำงานประเทศอิสราเอล (นอกเขตพื้นที่สงคราม) อาชีพเกษตรกร ประมาณ 6 ปี โดยพบกับพ่อและแม่ของนายศุภชัย อาศัยอยู่กัน 2 คน ประกอบอาชีพเกษตรกร (ทำนา) และประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป เลี้ยงไก่ เลี้ยงตั๊กแตน เป็นอาชีพเสริม พ่อนั้นสุขภาพไม่ค่อยแข็งแรง มีโรคประจำตัว เบาหวาน ความดัน โรคไต โดยนายศุภชัย จะส่งเงินมาให้ทางบ้าน เป็นครั้งคราว 2-3 เดือน/ครั้ง ๆ ละ 5,000 – 7,000 บาท

จากนั้น คณะลงพื้นที่บ้านเลขที่ 157 หมู่ที่ 10 ตำบลบ้านถิ่น อำเภอเมืองแพร่ ครอบครัวของนายพันธกานต์ ป่าพงค์ อายุ 36 ปี ไปทำงานประเทศอิสราเอล ภาคกลางตอนบน (นอกเขตพื้นที่สงคราม) ตั้งแต่วันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 อาชีพเกษตรกร (เก็บผัก) โดยครอบครัวพ่อและแม่ เสียชีวิต มีพี่น้องสองคน ที่บ้านมีย่า (นางบัวเตียว โป่งเส็ง) อายุ 87 ปี เป็นผู้สูงอายุ ได้รับเฉพาะเบี้ยผู้สูงอายุ เดือนละ 800 บาท อาศัยอยู่กับพี่สาว (นางนิตยา ป่าพงค์) ทำงานรับจ้างโรงแรมไรวินทร์บุรี ได้ค่าจ้างเดือนละ 10,000 บาท โดยนายพันธกานต์ ป่าพงค์ ส่งเงินมาให้ย่า ทุกเดือนๆ ละ 10,000 บาท

และลงพื้นที่บ้านเลขที่ 81/1 หมู่ที่ 3 ตำบลสวนเขื่อน อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่รายของนายอภิสิทธิ์ เขื่อนสอง (โจ๊ก) อายุ 40 ปี ไปทำงานประเทศอิสราเอล ภาคกลางตอนบน (นอกเขตพื้นที่สงคราม) เมือง EILON อาชีพเกษตรกร (รีดนมวัว) พบแม่ ซึ่งอาศัยอยู่กับ หลานสาว (ลูกของน้องชาย) โดยนายอภิสิทธิ์ จะส่งเงินให้กับแม่ทุกเดือน ๆ ละ 3,000 – 5,000 บาท
ซึ่งบางรายได้วีดิโอคอล มาพูดคุยขณะที่คณะผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่เข้าเยี่ยมครอบครัว และได้พูดคุยถึงความเป็นอยู่ ซึ่งไม่ได้รับผลกระทบจากสงครามที่เกิดขึ้น
ข้อมูลจากกองบริหารแรงงานไทยไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน กระทรวงแรงงาน รายงานว่า จังหวัดแพร่มีแรงงานไปทำงานในประเทศอิสราเอล 8 อำเภอ รวม 120 คน แยกเป็นอำเภอสอง จำนวน 59 คน , อำเภอวังชิ้น จำนวน 26 คน , อำเภอร้องกวาง จำนวน 15 คน , อำเภอลอง จำนวน 7 คน , อำเภอเมืองแพร่ จำนวน 7 คน , อำเภอเด่นชัย จำนวน 3 คน , อำเภอสูงเม่น จำนวน 2 คน และอำเภอหนองม่วงไข่ จำนวน 1 คน

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่