จาก TIKTOK ของนายไทกร พลสุวรรณ นักเคลื่อนไหว ได้ลงแจ้งเตือนประชาชนในพื้นที่ อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ว่า ความวัวยังไม่ทันหาย ความควายเข้ามาแทรก เป็นเรื่องที่ผมต้องเตือนชาวกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เพราะเรื่องนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม ที่ผ่านมา นั่นคือเกิดขึ้นที่ศูนย์วิจัยอาหารสัตว์จังหวัดสระแก้ว ต.หนองไก่เถื่อน อ.คลองหาด จ.สระแก้ว ดีเอสไอและกรมปศุสัตว์ได้นำเอาเนื้อหมูเถื่อน 20 ตู้คอนเทนเนอร์ ซึ่งปศุสัตว์บอกว่าเนื้อหมูชุดนี้ อาจมีโรคระบาดสัตว์ติดไปด้วย เอาไปฝังไว้ที่ศูนย์วิจัยของกรมปศุสัตว์ที่อำเภอคลองหาด จ.สระแก้ว ฝังได้เพียงตู้คอนเทนเนอร์เดียว กลิ่นเหม็นคลุ้งไปทั่ว ชาวบ้านเดือดร้อน ชาวบ้านก็ประท้วง ผู้ว่าราชการจังหวัดสระแก้วก็ลงมา ส.ส.จังหวัดสระแก้วก็ลงมาแล้วเจอสภาพที่เหม็นตลบอบอวน สร้างมลพิษที่เสีย ชาวบ้านอยู่ไม่ได้ ต้องปิดถนนประท้วง
สุดท้าย ดีเอสไอและกรมปศุสัตว์ฝังเนื้อหมูเถื่อน 20 ตู้คอนเทนเนอร์นี้ไม่ได้ ต้องขนกลับ 19 ตู้คอนเทนเนอร์ เอามาไว้ที่แหลมฉบัง เสียบปลั๊กเอาไว้ให้มันเย็นเหมือนเดิม ในวันนี้กำลังจะเริ่มอีก กำลังจะทำอีก มีการนัดที่จะขนเนื้อหมูเถื่อน ซึ่งกรมปศุสัตว์บอก อาจมีโรคระบาดติดไปด้วย จะขนออกจากแหลมฉบังเวลา 1 ทุ่มของวันที่ 25 ขนไป 60 ตู้คอนเทนเนอร์ 1 ตู้คอนเทนเนอร์ก็มีอยู่ประมาณ 30 ตัน 30,000 กิโลกรม ถ้ารวม 30 ตู้ก็เป็น 900 ตัน 9 แสนกว่ากิโลกรัม เกือบ 1 ล้านกิโลกรัม จะเอาไปฝังที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี อ. กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี โดยไม่บอกให้พี่น้องทราบ จะขนไปเวลา 1 ทุ่มของวันที่ 25 ตุลาคม และวันที่ 26 ตอนเช้าจะฝังทันที และฝังกลบให้หมด ถ้าฝังกลบเสร็จแล้ว สิ่งที่เคยเกิดขึ้นที่จังหวัดสระแก้ว คือการส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลเป็นมลพิษ น้ำจากการเน่าเสียซึมซาบเข้าไปในพื้นดิน พี่น้องประชาชนมีโอกาสที่จะรับเชื้อโรคก็จะเกิดขึ้น เรื่องนี้ถือว่าเป็นการจงใจ ปกปิด ปิดบัง ซ่อนเร้นอำพราง ไม่ให้ประชาชนรู้ว่าจะมีการนำเนื้อสุกรเถื่อนเกือบ 1 ล้าน กิโลกรัม มาที่อำเภอกบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี ส.ส.จังหวัดปราจีนบุรี ผู้เป็นนักการเมืองท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่นต้องเตรียมรับมือเรื่องนี้ ทำโดยไม่บอกไม่กล่าวประชาชน แอบทำขนไปตอน 1 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่มของคืนวันที่ 25 ตุลาคม และตอนเช้าวันที่ 26 จะฝังเลย ไม่บอกไม่กล่าวชาวบ้าน อย่างนี้ถือว่าเป็นการกระทำที่ไม่รับผิดชอบ และก็เป็นการทำผิดกฎหมายหลายฉบับ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมายสิ่งแวดล้อม กฎหมายสาธารณสุข นี่คือข้อบกพร่อง ความวัวยังไม่หาย ความควายเข้ามาแทรก ก็จะเกิดขึ้นอีก รู้แล้วว่าผิด ทำผิดที่สระแก้วแล้วยังจะทำผิดที่ปราจีนบุรีอีก พี่น้องชาวปราจีนบุรี ต้องลุกขึ้นมา ตรวจสอบดูว่าถ้าเกิดผลกระทบขึ้นแล้วใครจะรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชนชาวกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี
จากการลงพื้นที่ พบว่า ในพื้นที่ศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี อ. กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี มีการปิดป้ายประกาศ ข้อความว่า “ เขตควบคุมโรคระบาดสัตว์ ติดต่อประสานงาน ตั้งแต่เวลา 08.00 น. ถึง 16.30 น. ในวันและเวลาราชการ หมายเหตุ วันหยุดราชการและวันหยุดนักขัตฤกษ์ “ห้ามเข้า” ก่อนได้รับอนุญาตศูนย์วิจัยและบำรุงพันธุ์สัตว์ปราจีนบุรี โทรศัพท์ 037-625221 หรือ 098-2757066 ส่วนในพื้นที่ดังกล่าวพบว่ามีการใช้รถแบคโฮเข้ามาทำการขุดตั้งแต่เมื่อวานนี้และแล้วเสร็จในช่วงเย็นวันนี้ มีการขุดลักษณะเป็นร่องขนาด 5×50 เมตร จำนวน 4 ร่อง เพื่อเตรียมรองรับซากสัตว์ที่นำมาจากแหลมฉบังมาฝังกลบในพื้นที่ จ.ปราจีนบุรี
หลังจากข่าวนี้มีการแพร่ในหมู่ประชาชนในพื้นที่ ปรากฏว่าชาวบ้านในพื้นที่ ต.ลาดตะเคียน อ.กบินทร์บุรี ได้นัดรวมตัวกันเพื่อเข้าไปคัดค้านการดำเนินการในครั้งนี้ เนื่องจากชาวบ้านทุกคนไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อนรวมทั้งภาคราชการก็ตาม
นายดวน หลำบางช้าง ชาวบ้านหมู่ที่ 6 ต.หาดนางแก้ว อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี กล่าวว่าไม่ทราบข่าวมาก่อนว่าจะมีการนำมาทิ้งในพื้นที่ และไม่ต้องการให้นำซากสัตว์จำนวนมหาศาลนั้นมาฝังกลบในพื้นที่เด็ดขาดเพราะชาวบ้านในพื้นที่ใช้น้ำประปาบาดาลเพื่อใช้ในครัวเรือน และพื้นที่ดังกล่าวอยู่ใกล้ชุมชน
Discussion about this post