เปิดนาทีสยบไอ้คลั่ง ถือกรรไกรแทงหนุ่มเทคนิคสาหัสหน้าวัด กลางเมืองอุดรฯ ชาวบ้านแค้นบุกชกหน้า

เมื่อเวลา 16.30 น.วันที่ 1 พ.ย.66 ขณะที่ ร.ต.อ.วิทยา ศิริเทพ รอง สวป.สภ.เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่ามีชายคุ้มคลั่งอาละวาดใช้กรรไกรไล่แทงชาวบ้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 1 ราย เหตุเกิดบริเวณหน้าประตูวัดศรีคูณเมือง หรือวัดบ้านเหล่า ถนนประชาอุทิศ ชุมชนบ้านเหล่า เขตเทศบาลนครอุดรธานี หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบนำกำลังสายตรวจพร้อมไม้ง่ามรุดไปที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุพบว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บทราบชื่อนายณัฐวุฒิ จันทร์สุข หรือภูมิ อายุ 17 ปี บ้านเลขที่ 119 หมู่ 7 ต.หนองขอนกว้าง อ.เมือง จ.อุดรธานี เป็นนักศึกษาระดับชั้น ปวช.3 แผนกช่างยนต์ วิทยาลัยเทคนิคอุดรธานี ถูกแทงด้วยของมีคมเข้าที่บริเวณแผ่นหลังด้านซ้ายลึกถึงปอด ได้รับบาดเจ็บสาหัส เพื่อนที่ขับขี่รถ จยย.มาด้วยกัน ได้นำตัวส่งโรงพยาบาลศูนย์อุดรฯ แล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุทราบชื่อภายหลังว่านายอุทัย ดาบุตร หรือเบล อายุ 27 ปี ชาว จ.อุดรธานี หลังก่อเหตุได้เดินถืออาวุธเดินหลบหนีเข้าไปที่ศาลาพักศพ วัดศรีคูณเมือง เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังไปจับกุม

เมื่อ จนท.ตรไปที่ศาลาพักศพพบนายอุทัยฯ นั่งอยู่หน้าศาลา ซึ่งขณะนั้นกำลังมีศพมาตั้งบำเพ็ญกุศลอยู่ จนท.ตร.ได้เจรจาให้นายอุทัยฯ วางอาวุธ ซึ่งเป็นกรรไกรตัดกิ่งไม้ที่หักเหลือขาข้างเดียว แต่นายไม่ยอมวางอาวุธ แถมยังอาละวาดเอากรรไกรกรีดโต๊ะเก้าอี้ และผลักพัดลม ภายในศาลาพักศพ ตำรวจใช้เวลาเกลี้ยกล่อมอยู่เกือบ 30 นาที นายอุทัยก็ยังไม่ยอมวางอาวุธ จนท.จึงตัดสินใช้ไม้ง่ามเข้าควบคุมตัวเอาไว้ได้ พร้อมกับยึดกรรไกรตัดกิ่งไม้ของกลางไว้ได้ ขณะควบคุมตัวขึ้นรถเพื่อไปดำเนินคดี ที่ สภ.เมืองอุดรฯ ขณะนั้นก็ได้มีชาวบ้านผู้ชายเดินมาชกหน้านายอุทัย 1 ครั้ง ไม่พอใจที่มาสร้างความวุ่นวายในชุมชน ตำรวจจึงรีบนำตัวขึ้นรถอย่างรวดเร็ว

นางรุ่งนภา สิทธิชัย อายุ 55 ปี ประธาน อสม.ชุมชนบ้านเหล่า และเปิดร้านขายส้มตำอยู่หน้าวัด ซึ่งเป็นคนที่เห็นนายอุทัย กล่าวว่า นายอุทัยเป็นคนเร่ร่อนมานอนอยู่ในวัดและตลาดมาประมาณ 1 สัปดาห์ ชอบถือมีดมาขู่แม่ค้า เพื่อขอเงินและขออาหาร สร้างความเดือดร้อนให้แม่ค้าร้านตลาด วันนี้เวลาประมาณ 15.30 น. นายอุทัยมายืนอยู่ข้างร้านตน ซึ่งตนเดินมาเก็บผ้าบังแดด และบอกให้อุทัยให้หลีกทาง แต่นายอุทัยกลับเงื้อกรรไกร พร้อมกับพูดว่า “มึงจะเอาอะไรกับกูอีสัตว์” ตนโมโหมากและไม่กลัวด้วย จึงรีบคว้าเอาอีโต้มาไล่ฟันนายอุทัย ๆ ก็วิ่งหนีเข้าไปในวัด

ส่วน น.ส.ศุภลักษณ์ เภารังค์ อายุ 30 ปี ชาวบ้านที่อาศัยอยู่หน้าวัด คนเห็นเหตุการณ์กล่าวว่า ขณะที่ตนนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่หน้าบ้าน เห็นนายอุทัยเดินโวยวายออกมาจากวัด มายืนอยู่หน้าตลาดใกล้ร้านส้มตำ เป็นจังหวะเดียวกันกับที่น้องนักศึกษาซึ่งเป็นลูกค้าประ จำร้านส้มตำ ขับขี่รถ จยย.มาจะเลี้ยวเข้าซอยไปยังหอพักที่เช่าอยู่หลังวัด นายอุทัยก็ใช้มีดแทงเข้าที่ด้านหลังจนน้องนักศึกษาได้รับบาดเจ็บ แต่น้องยังคงขับรถเข้าไปในหอพัก ต่อมาก็มีเพื่อนที่ขับขี่รถตามหลังมา ได้พาน้องที่ได้รับบาดเจ็บส่ง รพ.ศูนย์อุดรฯ ส่วนนายอุทัยยังไม่หายคลั่งยังได้วิ่งเข้ามาจะทำร้ายตนอีก ตนก็ลุกเดินหนีเข้าไปในบ้าน

จากการสอบสวนนายอุทัย หนุ่มคลั่ง ให้การว่า ตนเคยไปทำงานรับจ้างทั่วไปอยู่กรุงเทพฯ แต่โดนรุมทำร้าย ทำให้ขาหัก จึงต้องดามเหล็กกลับมาอยู่ที่ จ.อุดรธานี มาอาศัยอยู่ในวัด แต่ไม่มีใครพูดกับตน และบางครั้งก็พูดว่าตนเสพยาจนหลอน สาเหตุที่ตนแทงชาวบ้าน เพราะตนระแวงเหมือนว่าจะมีคนมาฆ่าตน โดยจะทำร้ายตนด้วยการยื่นอาวุธเข้ามาใกล้ตนมากตนจึงแทงออกไปก่อน แต่ยอมรับว่าวันนี้ตนเสพยาบ้า 2 เม็ดแต่ไม่ได้หลอนไม่ได้บ้า เสพยาเสร็จก็จะไปกินข้าว แต่ขอแม่ค้าใครก็ไม่ยอมให้ ตนกะว่ากินข้าวเสร็จแล้วว่าจะเสพยาอีก 1 เม็ด

หลังจากนั้น จนท.ตำรวจจึงนำตัวนายอุทัยมาทำการตรวจปัสสาวะ พบว่าเป็นสีม่วง จึงแจ้งข้อหา “เสพยาเสพติดประเภท 1 (ยาบ้า) โดยผิดกฎหมาย” ซึ่งนายอุทัยมีพฤติ กรรมเป็นภัยต่อสังคม ควบคุมตัวไว้ดำเนินคดี ส่วนคดีทำร้ายร่างกาย ทราบว่านายณัฐวุฒิถูกแทงบริเวณหลังลึกถึงปอด รักษาตัวอยู่ห้องฉุกเฉิน ถือว่าบาดเจ็บสาหัส ต้องรอให้ผู้บาดเจ็บหรือผู้ปกครอง หรือญาติ มาแจ้งความดำเนินคดีกับพนักงานสอบสวนก่อน จึงจะดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป.