ผวจ.นครพนม ร่วมแสดงเสียใจและให้กำลังใจครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสทำร้ายจนเสียชีวิต !!

เมื่อคืนวันที่ 2 พ.ย.66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆของภาครัฐ ร่วมเข้าแสดงเสียใจและให้กำลังใจในการจากไปของครอบครัวแรงงานไทยที่ถูกกลุ่มฮามาสทำร้ายจนเสียชีวิต

ภายหลังจากที่ร่างของนายปริญ ญา แต้มกลาง อายุ 37 ปี แรงงานไทยที่เสียชีวิตในอิสราเอล ได้เดินทางมาถึงยังบ้านเลขที่ 189 บ.หนองท่ม ม.8 ต.โพนจาน อ.โพนสวรรค์ จ.นครพนม ตั้งแต่เที่ยงคืนของวันที่ 1 พฤศจิกายน 2566 ท่ามกลางความโศกเศร้า โดยมีนางโสดา แต้มกลาง อายุ 73 ปี และนางอรอุมา แต้มกลาง อายุ 35 ปี แม่และน้องสาว พร้อมญาติและเพื่อนบ้านต่างรอรับการกลับมาของร่างนายปริญญา แต้มกลาง เพื่อตั้งศพบำเพ็ญกุศลยังบ้านดังกล่าวกันเป็นจำนวนมาก และทันทีที่ร่างของนายปริญญา กลับมาถึงบ้าน นางโสดา แต้มกลางและนางอรอุมา แต้มกลาง น้องสาว ต่างก็ยังทำใจไม่ได้ต่อการสูญเสียต่างร่ำไห้เสียใจ แม้ว่าได้พยายามยอมรับต่อการจากไปของลูกชายก่อนหน้านี้แล้วก็ตาม

ขณะเดียวกัน เมื้อคืนที่ป่านมานายวันชัย จันทร์พร ผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม มอบให้นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วยตัวแทนจากหน่วยงานต่างๆของภาครัฐ และร่วมฟังสวดอภิธรรมพร้อมทั้งนำพวงหรีดเพื่อแสดงความอาลัย

นายวิจิตร กิจวิรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม กล่าวว่า กรณีแรงงานเสียชีวิตของ นายปริญญา แต้มกลาง จะได้รับสิทธิประโยชน์จาก เงินออมชราภาพ 94 งวด เป็นเงิน 40,977.62 บาท ทั้งนี้ไม่รวมดอกผลจาก สนง.ประ กันสังคม เงินกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานฯ จากกรณีเสียชีวิต 40,000 บาท ของกรมการจัดหางาน สำหรับนางโสดา แต้มกลาง มารดาของนายปริญญา แต้มกลาง จะได้รับเงินชดเชยจากรัฐอิสราเอล ประมาณ เดือนละ 9,000 เชคเกล หรือประมาณ 49,768 บาท

นอกจากนี้เงินปิซูอิมหรือเงินชดเชยกรณีกรณีออกจากงาน จำนวน 2 เดือนๆ ละ 5,300 เชคเกล หรือประมาณ 97,600 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 228,345.-บาท แต่อย่างไรก็ตามส่วนของเงินออมประกันสังคมจำนวนเงิน 54,548 บาทและเงินปิซูอิมต้องรอทางสำนักงานแรงงานของไทยในประเทศอิสราเอล จะมีข้อสรุปตัวเลขที่แน่นอนอีกครั้งภายหลัง.