พ่อเฒ่า 81 ปี ป่วยอัลไซเมอร์ เดินหายออกจากบ้าน เมียและลูกออกตามหานานกว่า 2 เดือน 18 วัน และแจ้งคนสูญหาย แต่ก็ไม่พบเจอ จนต้องพึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์ไปบนบานวัดป่าดงหนองตาลขอให้พบเป็นว่าจะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ภายใน 7-9 วัน ครบกำหนดพบศพเหลือแต่โครงกระดูกในคลองน้ำริมถนนอุดรธ านี -สกลนคร ตำรวจคาดเดินลงน้ำแล้วขึ้นไม่ได้ หรือหิวจนหมดสติ เมียจะต้องนำดอกมะลิ 99 พวงไปแก้บน
เมื่อเวลา15.10 น.วันที่ 13 พฤศจิกายน 2566 พ.ต.ต.ธีรภาพ ภูขันซ้าย สว.(สอบสวน) สภ. เมืองอุดรธานี ได้รับแจ้งพบโครงกระดูกมนุษย์ ในคลองน้ำริมถนนหน้าร้านขายวัสดุก่อสร้างแห่งหนึ่งบริเวณหลักกิโลเมตรที่ 10-11 ถนนอุดรธานี -สกลนคร ฝั่งขาออก ต.หนองนาคำ อ.เมือง หลังจากได้รับแจ้งจึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุพร้อม พ.ต.ท. บรรจง พาโคตร สว.สส., จนท.พิสูจน์หลักฐาน, แพทย์เวร รพ.ศูนย์อุดรฯ อาสากู้ภัยมูลนิธิอุดรสว่างเมธาธรรม

ที่เกิดเหตุพบโครงกระดูกมนุษย์ นอนอยู่ในคลองน้ำลึกประมาณ 50 ซม.ใต้พุ่มต้นไมย ราบซึ่งหนามาก เจ้าหน้าที่นำโครงกระดูกขึ้นมา พบสวมเสื้อยืดกีฬาแขนสั้นลายฟ้าขาว กางเกงขายาวสีดำ รองเท้าแตะสีครีมยี่ห้อแอดด้า ค้นในกระเป๋ากาง เกงพบกระเป๋าเงินสีดำ ภายในพบบัตรประจำตัวประชาชน ใบขับขี่ บัตรโรงพยาบาล ระบุชื่อนายไพฑูรย์ ราชนาวี อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 327 หมู่ 14 ชุมชนเก่าจาน 7 ซอยขันติรักษ์ ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี นอกจากนี้ยังพบธนบัตรใบละ20 บาท 3 ฉบับ บัตรเอทีเอ็ม บัตรเครดิต และรูปถ่าย
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายอุทัย พาชอบ อายุ 33 ปี คนที่พบโครงกระดูก ให้การว่า ตนเป็นคนงานร้านวัสดุก่อสร้างมา 3 ปี บ่ายวันนี้ไม่มีงาน นายจ้างให้ตนมาตัดหญ้าบริเวณคลองน้ำ เพื่อปรับภูมิทัศน์หน้าร้านให้สวยงาม เพราะว่าฝนหยุดตกและน้ำเริ่มแห้งแล้ว และได้เริ่มตัดหญ้าจากปั๊มน้ำมันมาเรื่อยๆ กำลังว่าจะหยุดตัด ก็พบโครงกระดูกอยู่ในน้ำ ซึ่งตนเห็นกระดูกขาจนถึงหัวเข่าและซี่โครงก็ตกใจมาก และแน่ใจว่าเป็นโครงกระดูกมนุษย์แน่ นอน จึงได้หยุดตัดหญ้าและไปบอกนายจ้างให้แจ้งตำรวจมาตรวจสอบ
ส่วนนายคำผาง สมานวงศ์ อายุ 62 ปี คนงานร้านวัสดุก่อสร้าง ให้การว่า หลังจากที่ทราบจากนายอุทัยว่าพบโครงกระดูกมนุษย์ จึงออกมาดู ซึ่งก่อนหน้านี้มีคนมาตามหาคนแก่เป็นโรคหลงลืมออกจากบ้านแล้วกลับบ้านไม่ถูก ซึ่งก็ได้สอบ ถามพวกตนก็ตอบปฏิเสธไป กระทั่งเมื่อคืนนี้เวลาประมาณ 23.00 น. ตนนอนอยู่ในบ้านพัก ก็ได้ยินเสียงหมาหอน จากร้านมาที่ลำคลอง หอนวิ่งไปมา จากนั้นตนนอนไม่หลับ เพราะตนเป็นคนเลี้ยงกุมารทอง ทำให้นอนไม่ได้ทั้งคืน
คงเป็นเพราะ ผู้ตายอยากจะขึ้นจากน้ำ
ต่อมานางสมหมาย ราชนาวี อายุ 75 ปี ภรรยานายไพฑูรย์ผู้ตาย หลังทราบข่าวก็ได้เดินทางมากับญาติ เพื่อขอดูโครงกระดูก และชี้ยืนยันว่าเป็นโครงกระดูกของนายไพฑูรย์ พราะว่าจำเสื้อ ผ้าและรองเท้าที่สวมใส่ได้ เนื่องจากตนเป็นคนซื้อให้สามีเอง พร้อมกับเปิดเผยว่า สามีป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์ และหายออกจากบ้านได้ 2 เดือน 18 วัน ตนและนายไพฑูรย์ แต่ง งานกันมา 40 กว่าปี มีลูกชายหญิง 2 คน นายไพฑูรย์ป่วยอัลไซเมอร์มาประมาณ 10 ปีแล้ว เมื่อเวลา 16.00 น. วันที่ 26 ส.ค. 2566 นายไพฑูรย์ได้หายออกจาก ซึ่งตน ลูก และญาติได้ออกตามหาทุกที่ แต่ก็ไม่พบ และได้แจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.เมืองอุดร ธานี และแจ้งมูลนิธิกระจกเงา และสื่อโซเชียล ตามหาทุกวัน ซึ่งสามีเคยหายออกจากบ้าน 1 ครั้ง ตามพบที่ร้านแหนมเนือง
“วันที่ 28 สิงหาคม ได้ไปขอดูกล้องวงจรปิดร้านขายเครื่องรถไถนา แถวบ้านหนองนาคำ พบ วันที่ 27 สิงหาคม เสื้อผ้าที่สามีใส่เปื้อนมีแต่ดินโคลน คงจะล้ม หลังจากสามีหายออกจากบ้าน ก็ได้ออกตามหาก็ไม่พบ จนต้องไปแจ้งคนหายที่ สภ.เมืองอุดรธานี และเมื่อวันเสาร์ที่ 4 พ.ย.66 ได้ชวนลูกสาวและลูก ชาย ไปบนบานที่วัดป่าดงหนองตาล ต.นาข่า อ.เมืองอุดรธานี ขอให้พบสามีภายใน 7 วัน 9 วัน จะมีชีวิตหรือไม่มีชีวิตก็ตาม ก็จะนำพวงมาลัยดอกมะลิ 99 พวงมาแก้ บน และวันนี้บน บานครบ 9 วัน ก็มาพบโครงกระ ดูกสามี ถือว่าศักดิ์สิทธิ์จริงๆ ซึ่งตนก็จะไปแก้ บน”
ตำรวจสันนิษฐานว่า นายไพฑูรย์ซึ่งป่วยเป็นโรคอัลไซเมอร์เดินออกจากบ้าน แล้วหลงทางกลับบ้าน จึงเดินมาเรื่อยๆ ทั้งหิวและหนาว จึงเดินลงไปในน้ำ ทำให้หมดสติจมน้ำเสียชีวิตมาได้ประ มาณ 2 เดือน หลังจากนั้นจึงนำโครงกระดูกไปเก็บไว้ที่นิติเวชโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อรอญาตินำหลักฐานมาติดต่อรอรับร่างไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณีต่อไป.
Discussion about this post