วันนี้ 20 พ.ย. 66 นายศุภภัทรพจน์ นิติศศธร ทนายความ ในฐานะไวยาวัจกรวัดไผ่ล้อม เปิดเผยว่า ตามที่ตนเองได้รับมอบอำนาจ และในฐานะทนายความที่ได้รับมอบอำนาจจากพระครูปลัดสิทธิวัฒน์ (หลวงพี่น้ำฝน) เจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมในฐานะที่เป็นโจทก์ยื่นฟ้องนายจตุรงค์ จงอาสา (นักวิชาการอิสระด้านพระพุทธศาสนา) กับพวกรวม 10 คน ดูหมิ่นและหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา ต่อมาจำเลยที่ 2 ถึงจำเลยที่ 10 ซึ่งเป็นผู้ประกาศข่าวและผู้บริหารของช่องอัมรินทร์ทีวี ได้มีการพูดคุยเจรจาและขอขมาซึ่งทาง หลวงพี่น้ำฝนได้มีเมตตาและถอนฟ้องให้ จากนั้นก็เหลือนายจตุรงค์ จงอาสา ในฐานะจำเลยที่ 1 ต่อมาก็มีการไต่สวนมูลฟ้องจนกระทั่งเมื่อเช้าวันนี้เวลา 09:00 น. ศาลจังหวัดนครปฐมได้มีคำสั่งประทับรับฟ้องไว้พิจารณา หมายถึงคดีมีมูล และได้เลื่อนไปนัด พร้อมสอบคำให้การจำเลยในวันที่ 15 มกราคมพุทธศักราช 2567 ส่วนความคืบหน้าจะแจ้งให้ทราบต่อไป
“วันนี้ผมมีข้อคิดอยากจะฝากไว้ให้คิดครับ คนดีไม่ใช่คนที่ไม่เคยทำความผิด แต่คนดีคือคนที่ทำผิดแล้วสำนึกกลับใจ ฝากไว้ให้คิด” นายศุภภัทรพจน์ กล่าวปิดท้าย
สำหรับคดีในการฟ้องร้องดังกล่าว สืบเนื่อง จากกรณีที่วัดไผ่ล้อมได้มีการจัดพิธีชำระสังขารหลวงพ่อพูล อดีตเจ้าอาวาส ที่สังขารไม่เน่าเปื่อย โดยมีศิษยานุศิษย์ได้ร่วมพิธีด้วยใช้วาสลีนเช็คที่สรีระสังขารเพื่อให้ป้องกันการเกิดเชื้อรา ซึ่งจัดภายในศาลาหลวงพ่อพูล ภายในวัดไผ่ล้อม อ.เมือง จ.นครปฐม ซึ่งจากนั้นได้มีรายการทีวีชื่อดัง ของพิธีกรหนุ่ม ได้เชิญ นายไพรวัลย์ วรรณบุตร (แพรรี่) นายจาตุรงค์ จงอาษา ไปออกราย การ ซึ่งทั้งคู่ได้มีการพูดพาดพิงถึงหลวงพี่น้ำฝน ด้วยแนวคิดส่วนตัวซึ่งเป็นประเด็นร้อนแรง โดยได้มีการยื่นฟ้องทั้งคู่พร้อมสื่อมวลชนเจ้าของรายการ ที่นำรายการไปเสนอก่อนหน้า จากนั้นได้มีสื่อมวลชนได้ไปสัมภาษณ์ นายจาตุรงค์อีก ทำให้มีการกระทำความผิดซ้ำ จากที่ไปออกราย การซึ่งยังมีการโพสต์ทำนองท้าทายให้ฟ้องร้อง จึงได้นำไปสู่การฟ้องร้อง นายจาตุรงค์ อีก 1 คดี ซึ่งในส่วนของคดีนี้ได้มีการรับฟ้องในที่สุด.
Discussion about this post