พัทลุง – บุกค้นบ้าน 2 หลังของ “ แป้ง นาโหนด “ แต่ไม่พบสิ่งผิดกฎหมาย

ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงาน่าวจากกรณีที่นายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี หรือแป้ง นาโหนด ได้หลบหนีออกจากโรงพยาบาลมหาราช จังหวัดนครศรีธรรมราช วันที่ 22 ต.ค. 2556 และได้เข้าไปซ่อนตัวอยู่ในพื้นที่เทือกเขาบรรทัด และบ้านในตระ พื้นที่รอยต่อระหว่าง จ.พัทลุง จ.ตรัง และ จ.สงขลา ต่อมาได้เกิดยิงปะทะกับตำรวจปฏิบัติพิเศษแดนไทย 54 ของหน่วยปฏิบัติการพิเศษ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ในขณะที่นายแป้งฯเข้าไปพักซ่อนตัวในขนำแห่งหนึ่งบนเทือกเขาบรรทัดบริเวณบ้านในตระ เมื่อวันที่ 8 พ.ย. 2566 แต่นายแป้งฯ ก็สามารถหลบหนีการจับกุมไปได้

ต่อมาทาง พล.ต.ท. อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ที่ได้รับมอบหมายจาก ผบ.ตร.ได้นำอาสุธปืน และของกลางที่ยึดได้จากการปะทะมาแถลงข่าวกับสื่อมวลชน ณ ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า บริเวณริมอ่างเก็บน้ำคลองหัวช้าง ท้องที่ ม.6 ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด จ.พัทลุง ส่วนการไล่ล่าตัวคนร้ายตั้งแต่วันที่ 8 -28 พ.ย.66 รวม 21วันนั้น ทาง จนท. รัฐยังคว้านำเหลวจนถูกนายเชาวลิตฯ 2 คลิป ประจานความอยุติธรรมของกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งรายละเอียดของคดีดังกล่าวจนฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศ ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น

ผู้สื่อข่าวรายงานอีกว่า เมื่อเวลาประมาณ 06.50 น.วันที่ 28 พ.ย.นี้ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้มอบหมายให้ พ.ต.อ.ยศวรรธน์ กระจ่างวงศ์ ผกก.สส.ภ.จว.พัทลุง,พ.ต.ท.ยุทธศักดิ์ เอี่ยมสุนทร รอง ผกก.สส.ภ. จว.พัทลุง พ.ต.ท.โชติพัฒน์ รักสกุล สว.กก.สส.ภ.จว.พัทลุง ร.ต.อ.มนตรี มุขตา รองสวฯ, ร.ต.อ.รณกร อุ้มขาว รอง สว.ฯ พร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ชป.1กก.สส.ภ.จว.พัทลุง ,จนท.ตร.ชุดวิเคราะห์ข้อมูลฯ , จนท.ตร. ชป.นปพ.ก.สส.ฯ ร่วมกันทำการตรวจค้นบ้านเลขที่ 20/3 ม.6 ต.นาโหนด อ.เมืองพัทลุง จ.พัทลุง โดยบ้านหลังดังกล่าวเป็นบ้านพักของนางอนงค์ มาชู อายุ 70 ปี ที่เป็นน้าสาวของนายเชาวลิตฯ ตามหมายค้นศาลจังหวัดพัทลุง ที่ 276/ 2566 ลง 27 พ.ย. 2566 เพื่อพบบุคคลตามหมายจับและสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆ ผลการตรวจค้นปรากฎว่าไม่พบบุคคลตามหมายจับและสิ่งผิดกฏหมายอื่นๆแต่อย่างใด

ต่อมากำลังตำรวจชุดดังกล่าวได้แบ่กำำลังเข้าไปตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 40/3 หมู่ที่ 3 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง ซึ่งเป็นบ้านของ น.ส.สุนันทา พรายแก้ว แม่ภรรยาของนายแป้ง ที่นายแป้งอาศัยอยู่ด้วยก่อนหน้านี้ โดยผลการตรวจค้นในครั้งนี้ที่เป็นการตรวจค้นบ้านทั้ง 2 หลังนั้นไม่พบสิ่งผิดกฎหมายแต่อย่างใด.