จากกรณีมีผู้ชายบุกเข้าไปทำลายทรัพย์สินอยู่ภายในอุโบสถ วัดมัชฌิมาวาส (อารามหลวง) ถนนวัฒนานุวงศ์ เขตเทศบาลนครอุดรธานี เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 26 พฤศจิกา ยน โดยกล้องวงจรปิดสามารถบันทึกภาพ ขณะคนร้ายก่อเหตุอยู่หน้าอุโบสถเอาไว้ได้ หลังก่อเหตุชายคนดังกล่าวได้หลบหนีไป ความเสียหายประมาณ 1.4 แสนบาท ล่าสุดคนร้ายได้ย้อนกลับเข้ามาที่วัด ลูกศิษย์วัดและพลเมืองดีจำคนร้ายได้ จึงช่วยกันรวบตัวเอาไว้ ก่อนแจ้งหน้าที่มาควบคุมไปที่ สภ. เมืองอุดรธานี
เมื่อเวลา 13.00 น.วันที่ 28 พฤศจิกายน ขณะที่ ร.ต.อ.สถาพร สวัสดี รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองอุดรธานี นำกำลังออกตรวจในพื้นที่รับผิดชอบ ได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีสามารถควบคุมตัวชาย 1 ราย คาดว่าจะเป็นคนร้ายที่เข้ามาก่อเหตุทำลายทรัพย์สินภายในอุโบสถ วัดมัชฌิมาวาส หลังรับแจ้งเหตุจึงพร้อมด้วยสายตรวจ 191 รุดออกไปตรวจสอบ
ที่บริเวณหน้าห้องน้ำในวัด ติดกับกำแพงวัดฝั่ง ถนนหมากแข้ง หรือซอยหมอลำ พลเมืองดี ลูกศิษย์วัด ประมาณ 4 คน ได้ควบคุมตัวนายจันทร์ หรือนายนวนิตย์ (สงวนนามสกุล ) อายุ 34 ปี ชาวตำบลนาบัว อ.เพ็ญ จ.อุดรธานี หลังจากพระลูกวัด และสามเณร ได้ชี้ให้จับกุมโดยไม่ได้ต่อสู้หรือขัดขืน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการควบคุมตัวมาทำการสอบสวนที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรฯ

จากการสอบสวนนายจันทร์ ให้การรับสาร ภาพว่า ตนเคยถูกจับข้อหาลักทรัพย์ และชิงทรัพย์ ติดคุกมา 4 ครั้ง หลังจากพ้นโทษก็ไปทำงานอยู่ร้านคาร์แคร์ แต่ตอนนี้ตกงาน มาอาศัยกินข้าว อาบน้ำ ที่วัดมัชฌิมาวาส ประจำ ก่อนเกิดเหตุ ตนไปดื่มเหล้านอกวัด จนมีอาการมึนเมา ได้เดินกลับมาที่วัด และเข้าไปทำลายสิ่งข้าวของภาย ในโบสถ์ ตนก็จำไม่ได้ว่าทำไปทำไม ตนไม่ได้โกรธใคร หลังก่อเหตุก็หนีไปนอนอยู่ที่ บขส. อุดรธานี แห่งที่ 1 วันนี้ตนกลับมาวัดเพื่อมาอาบน้ำ และโดนพระเณรในวัดจับกุม ซึ่งตนสำนึกผิดแล้ว ต่อไปจะไม่ทำแบบนี้อีก ก่อนนี้ขณะที่ควบ คุมตัวนายจันทร์ฯ มาที่ชุดสืบสวน สภ.เมืองอุดรฯ นายจันทร์ฯ ได้ยกมือไหว้ขอโทษ และสารภาพว่าตนเองทำไปเนื่องจากเมาไม่รู้ตัว รู้เท่าไม่ถึงการณ์ ขอให้พระที่วัดยกโทษอโหสิกรรมให้ตนเองด้วย
นายทองสุข ปัญญราช อายุ 48 ปี ชาว ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ลูกศิษย์วัด กล่าวว่า ตนมาอาศัยอยู่ที่วัด มาช่วยเหลืองานวัด ที่วัดจะมีคนเข้าออกอยู่ตลอดเวลา เห็นคนร้ายเข้ามาที่วัดได้ประมาณ 2- 3 วัน หลังก่อเหตุเขาก็หายไป วันนี้ก็เห็นเขาเข้ามาอีกครั้ง ตอนแรกตนนึกว่าเป็นช่างเข้ามาซ่อมแซมวัด เมื่อสอบถามลูกศิษย์คนอื่น ก็มั่นใจว่าเป็นคนร้ายที่เข้ามาทำลายของวัด เพราะจำรอยสักที่แขนได้ จึงได้ช่วยกันจังตัวเอาไว้ และแจ้งเจ้าหน้าที่มาจับกุม
“ทางด้านพระครูประสิทธิ์ กิตติสาร เลขาเจ้าคณะจังหวัดอุดรธานี กล่าวว่า หลังจับคนร้ายได้ก็เกิดความสบายใจขึ้น เพราะอีกไม่นานก็จะมีงานประจำปีของจังหวัด ซึ่งจะมีคนเข้ามากราบไหว้บูชาที่วัดเป็นจำนวนมาก เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ประชาชน จะมีคนเข้าออกภายในวัดจำนวนมาก ส่วนคนร้ายที่ก่อเหตุก็เคยเห็นอยู่ในวัด ซึ่งวัดจะปิดประตูตอน 19.00 น.ต่อไปก็จะต้องตรวจสอบและรัดกุมในการสอดส่องดูแลให้มากขึ้น ตำรวจเองก็คอยเข้ามาตรวจสอบร่วมด้วย”
“ส่วนการจับคนร้ายได้ คิดว่าน่าจะเป็นความศักดิ์ สิทธิ์ของหลวงพ่อนาค พระพุทธรูปหน้าโบสถ์ เพราะหลังเกิดเหตุ ก็ได้บนบานหลวงพ่อนาค ถ้าใครมาทำร้ายหรือทำลายทรัพย์สินในโบสถ์ ก็ให้ดลใจให้เขากลับมาอีก และขอให้ตำรวจจับคน ร้ายได้ ซึ่งคนร้ายก็ให้ย้อนกลับมาและถูกจับกุม”
โดยเบื้องต้นพบว่า มีความเสียหายประกอบด้วย แจกันลายคราม 2 ใบ คู่ละ 65,000 บาท โต๊ะหมู่บูชา 60,000 บาท เครื่องขยายเสียง 8,000 บาท นาฬิกาฝาผนัง 1 เรือน และป้ายหินอ่อน 10,000 บาท รวมมูลค่าเสียหาย 1.4 แสนบาท เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวนายจันทร์ ก่อนจะทำการตรวจปัสสาวะหาสารเสพติด และจะได้ทำการสอบปากคำอย่างละเอียด เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป.
Discussion about this post