วันที่ 30 พ.ย.66 เมื่อเวลา 10.00 น.ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ สำนักงานเทศบาลตำบลบางเลน ต.บาง เลน อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี เพื่อเข้าไปสอบถาม
ดร.วรพจน์ พวงแย้ม นายกเทศมนตรีตำบลบาง เลน ถึงข้อเท็จจริงเกี่ยวกับกรณีที่ นาย เพิ่มศักดิ์ (สงวนนามสกุล) ซึ่งเป็นลูกจ้างชั่ว คราวของ อบต.บางเลน มีปากเสียงและเกิดการทะเลาะกับนางบุญชู นิ่มน้อย อายุ 70 ปี และนาง กรณษา แสนละเอียด 2 แม่ลูก ก่อนที่นายเพิ่มศักดิ์จะด่าทอ ข่มขู่ เข้ามาทำร้ายนางบุญชู ถึงหน้าบ้านถึง3ครั้ง ซึ่งครั้งสุดท้ายนายเพิ่มศักดิ์ได้บอกกับตนและแม่ว่า “ตนออกจากงานแล้วให้ระวังตัวเอาไว้” จนเกิดความหวาดกลัวว่านายเพิ่มศักดิ์จะทำอันตราย จนตอนนี้ต้องหลบไปอยู่ที่อื่นก่อนชั่ว คราวเพื่อความปลอดภัย
แต่เนื่องจาก ดร.วรพจน์ พวงแย้ม นายกเทศ มน ตรีตำบลบางเลน ติดประชุมจึงได้มอบหมายให้ น.ส.อัญชลี นาคคำ หัวหน้าสำนักปลัดเทศบาลบางเลน เข้ามาดูแลในส่วนนี้
โดย น.ส.อัญชลี นาคคำ หัวหน้าสำนักปลัดเทศ บาลบางเลน กล่าวว่า ท่านนายกฯและตนพอได้ทราบเรื่องคราวๆแล้วจากป้าชูซึ่งเป็นผู้เสียหาย ส่วนทางด้านนายเพิ่มศักดิ์นั้น เป็นลูกจ้างชั่ว คราวของทางเทศบาล ปฏิบัติหน้าที่ในส่วนของงานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัย และได้ขาดงานไปตั้งแต่วันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมาและทางเทศบาลไม่สามารถติดต่อได้จนถึงตอนนี้ ตามระเบียบของราชการนายเพิ่มศักดิ์จึงถูกให้ออกและพ้นสภาพไปแล้ว ส่วนในเรื่องที่เขาไปก่อเหตุ ทางเรายังไม่รู้ข้อเท็จจริงว่าเกิดอะไรขึ้น แล้วเมื่อวานนี้ (29พ.ย.) ช่วงบ่าย นายเพิ่มศักดิ์ ก็ได้เดินทางมาที่สำนักงานเทศบาลฯพร้อมกับป้าชู ทั้งๆ ที่หลังจากขาดงานไปก็ไม่เคยเข้ามาเลย แต่ไม่รู้ว่าเข้ามาคุยเรื่องอะไรกันเพราะตนไม่ได้อยู่ในเหตุการณ์ โดยปกติแล้วนายเพิ่มศักดิ์ค่อนข้างจริงจังกับการทำงาน แต่ไม่รู้ว่าครั้งนี้มีเรื่องกันเพราะอะไร ในส่วนของเทศบาลตำบลบางเลน เบื้องต้น นายเพิ่มศักดิ์ถูกให้ออกจากหน้าที่อยู่แล้ว เนื่องจากขาดงานหลายวัน แต่ในส่วนของคดีความและความปลอดภัยก็ต้องให้ทางเจ้าหน้า ที่ตำรวจจัดการไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่ศูนย์ป้องกันและบรร เทาสาธารณภัยเทศบาลตำบลบางเลน เพื่อสอบ ถามกับหัวหน้าถึงเรื่องราวของนายเพิ่มศักดิ์แต่ไม่พบ จึงเดินทางไปที่บ้านของนายเพิ่มศักดิ์ต่อ
ด้านนาย เพิ่มศักดิ์ เล่าให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนเรื่องจริงๆแล้วไม่มีอะไรเลย คือทางศูนย์ฯได้รับแจ้งว่ามีคนจุดไฟเผาหญ้า ตนจึงเดินทางมาสอบถามว่ามีไฟไหม้ตรงไหน ก็คุยกับป้าชูปกติ ตอนมาถึงตนยังยกมือไหว้ป้าชูอยู่เลย และป้าชูก็แจ้งกับตนว่าป้าชูไม่ได้เป็นคนโทรแจ้งนะ ซึ่งตอนนั้นมีผู้หญิงคนนึงสวมแว่นใส่หมวกเดินออกมาโชว์โทร ศัพท์ให้ดูและบอกกับตนว่าไม่ได้โทรด้วยน้ำเสียงไม่ดีทำให้ตนรู้สึกโมโห จึงกลับออกมาและกินเหล้าขาว 2 ขวด ก่อนจะกลับเข้าไปที่บ้านป้าชูอีกครั้งตอนกลางคืนเพื่อที่จะไปหาผู้หญิงคนที่ใส่แว่นโดยจะเอาเรื่อง ยอมรับว่าตอนนั้นโมโหมากรวมกับกินเหล้าด้วยเลยแต่ก็ไม่เจอ พอตอนเช้าตนก็รู้ตัวและแสดงความรับผิดชอบด้วยการลาออกแต่ไม่ได้แจ้งหัวหน้า โดยการไม่ไปทำงานติดต่อกัน 8 วัน
จนกระทั่งเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ตนได้เข้าไปที่บ้านป้าชูอีกครั้ง ยอมรับว่ากินเหล้าย้อมใจก่อนจะเข้าไปเพื่อที่จะไปหาตัวผู้หญิงคนที่ใส่แว่นที่ยื่นโทร ศัพท์ให้ตนดูด้วยน้ำเสียงไม่ดีเพื่อที่จะเอาเรื่อง แต่ก็ไม่เจอ ตนจึงขี่รถจยย.ออกมาที่ศูนย์ป้อง กันฯ ก็กำลังนั่งทำรถอยู่ป้าชูแกก็เดินมาพร้อมตำรวจ และกล่าวหาว่าตนเสพยามารึเปล่าตนจึงไม่พอใจ ตนทำงานมา 5 ปี ไม่เคยทะเลาะกับชาวบ้านเลย จนมาเจอผู้หญิงคนนี้มาพูดกับตนด้วยน้ำเสียงไม่ดี จึงเกิดความน้อยใจและโมโห เพราะตนทำ งานช่วยเหลือชาวบ้านทุกอย่าง ทั้งจับงู ดับไฟ จับคนบ้า ในส่วนเรื่องของป้าชู ตนไม่เคยติดใจอะไรเพราะรู้จักกันมานานแล้ว
ส่วนผู้หญิงคนดังกล่าวตอนนี้ตนอยากฝากบอกว่า เวลาเจ้าหน้าที่เข้าไปสอบถามข้อมูลอยากให้ช่วยพูดดีๆหน่อย คุณดีกับเจ้าหน้าที่ เจ้าหน้าที่เขาก็เต็มใจอยากช่วยเหลือคุณ หลังจากนี้ก็ต่างคนต่างอยู่ตนไม่ได้อะไรอยู่แล้วและจะไม่ไปวุ่น วายอีกสบายใจได้.
Discussion about this post