
วันที่ 1 ธ.ค.66 ผู้สื่อข่าวจังหวัดพัทลุง รายงานข่าว จากกรณีที่ ผบ.ตร.ได้มอบให้ พล.ต.ท. อิทธิ พล อัจฉริยะประดิษฐ์. ผู้ช่วย ผบ. ตร.เป็นผู้รับผิดชอบการไล่ล่านายเชาวลิตฯ หรือนายแป้ง นาโหนด ที่หลบหนีออกจาก รพ.มหาราช จ.นครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2566 แล้สเข้ามาหลบหนีอยู่ในพื้นที่บนเทือกบรรทัดบริเวณบ้านในตระ ต่อมาเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2566 นายแป้งฯได้ยิงปะทะกับตำรวจชุดปฏิบัติการพิเศษ พื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ชุดแดนไทย 54 และได้หลบหนีไปอย่างลอยนวล จนทางตำรวจต้องถอนกำลังชุดไล่ล่าลงจากเทือกเขาบรรทัด แต่ก็ยังมีการตั้งจุดตรวจบริเวณริมน้ำตกท่าช้าง น้ำตกหม่อมจุ้ย และพื้นที่ภายในหมู่บ้านของ ต.ตะโหมด อ.ตะโหมด
ต่อมาเมื่อวันที่ 30 พ.ย. 66 ทางด้าน พล.ต.ต.ณัฐกรญ์ กาญนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สั่งถอนกำลังออกมาทั้งหมด เนื่องจากฝนตกหนัก น้ำป่าไหลหลาก แต่ก็ยังคงตั้งจุดตรวจจุดสกัดบนเส้นทางสำหรัฐในพื้นที่ อ.ศรีนครินทร์ อ.ตะโหมด อ.ป่าบอน และ อ.กง หรา ท่ามกลางความพึงพอใจของ ตร.ชุดปฏิบัติการและกลุ่มชาวบ้าน
อย่างไรก็ตามเมื่อตอนเช้าเวลาประมาณ 06.30 น.วันที่ 30 พ.ย. 2566 ที่ผ่านมา พล.ต.ท.อิทธิพล อัจฉริยะประดิษฐ์ ผช. ผบ.ตร., พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ก.9 และ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สนธิกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ สืบภาค 9 และเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้นำหมายค้นของศาลจังหวัดพัทลุง เปิดปฏิบัติการจู่โจมปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมายหลายจุดในพื้นที่จังหวัดพัทลุง สามารถตรวจยึด 1.อาวุธปืนเล็กยาว HK 33 ขนาด 5.56 x 4.5 มม. ห่อด้วยถุงพลาสติกสีดำ จำนวน 1 กระบอก 2.ซองกระสุนปืน(แม็กกาซีน) ที่บรรจุกระสุนเต็มอัตราพร้อมใช้ อีกจำนวน 5 ซอง ต.กระสุนปืนขนาด ขนาด 5.56 x 4.5 มม.จำนวน 142 นัด และแจ้งช้อกล่าวหาในคดีดังกล่าว จำนวน 4 ราย ประกอบด้วย (1). นายทนงศักดิ์ เพชรตีบ (2) นายสืบศักดิ์ แสงจันทร์ (3) นายอัสฮัร หมัดสาลี (4) นายสุเชษฐ์ จันเขียว และ( 5)นายกัมปนาท อ่อนสง (อยู่ในระหว่างการหลบหนี) ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น
อย่างไรก็ตามจากการตรวจค้นบ้านพักของนายสุเชษฐ์หรือเดี่ยว จันเขียว อายุ 39 ปี อยู่บ้านเลขที่ 216 หมู่ที่ 1 ต.วังใหม่ อ.ป่าบอน จ.พัทลุง ตามหมายค้นของศาลจังหวัดพัทลุงที่ ค.701/2566 ลงวันที่ 30 พ.ย.66 ซึ่งนอกจากจะสามารถตรวจยึดอาวุธปืนเล็กยาว HK 33 ขนาด 5.56 x 4.5 มม. จำนวน 1 กระบอก ซองกระสุนปืน 5 ซอง และกระสุนปืนขนาด ขนาด 5.56 x 4.5 มม. จำนวน 142 นัดแล้ว ตร.ยังตรวจยึดรถ จยย. ฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ ทะเบียน ๑กมต๐๔๑ พัทลุง ที่ใช้ในการขับขี่ไปรับนายเชาลิตฯหลบหนีด้วย
จากการสอบปากคำในเบื้องต้นนายสุเชษฐ์ฯให้การว่า เมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 66 เวลาประมาณ 23.00 น.ตนได้รับการติดต่อจากบุคคล (ไม่ขอเอ่ยนาม )ให้ไปรับตัวนายเชาวลิตฯโดยตนได้ใช้รถจักรยาน ยนต์ยี่ห้อ ฮอนด้า รุ่นเวฟสีดำ คันดังกล่าว ขี่ไปรับนายเชาลิตฯที่ บ้านป่าพง อ.ตะโหมด จ.พัทลุง โดยเมื่อไปถึงพบนายเชาวลิตฯริมถนน ตนจึงได้ส่งสัญญาณให้นายเชาวิตๆมาขี้นรถ และได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ โดยมีนายเชาวลิตฯนั่งซ้อนท้าย จนมาถึงหน้าวัดพรุนายขาว ต.คลองใหญ่อ.ตะโหมด จ.พัทลุง จึงส่งต่อให้กับบุคคลอีกบุคคลหนึ่งซึ่งตนไม่รู้จักแต่จำรถที่มารับได้เป็นรถยนต์เก๋งยี่ห้อโตโยต้ รุ่นวีออสสีดำจำหมายเลขทะเบียนไม่ได้ โดยก่อนเดินไปขึ้นรถยนต์ก๋ง นายเชาวลิตฯได้สั่งให้ตนว่าให้ไปเอาของโดยไม่ได้บอกว่าเป็นอะไรไปเก็บให้ด้วยโดยบอกไว้ก่อนว่าให้ไปเอาจุดใด
อย่างไรก็ตามเมื่อตนได้ส่งตัวนายเชาวลิตฯแล้ว ตนได้ขับขี่รถจักร ยานยนต์คันเดิมกลับบ้านพัก ต่อมาวันที่ 9 พฤศจิกายน 66 เวลาประมาณ 11.00 น.ตนได้ขับรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่น ฟอจูนเนอร์ สีดำ เลขทะเบียน 1460 (จำหมวดอักษรไม่ได้) ออกจากบ้านพักเพื่อไปเอาของดังกล่าวเมื่อไปถึงจุดที่นายเชาวลิตฯแจ้งไว้ตนได้เดินเข้าไปดูพบว่าเป็นสิ่งของห่อด้วยถุงพลาส ติกสีดำ ตนจึงได้เดินไปหยิบและนำมาขึ้นรถยนต์เก๋ง และขับลับมาที่บ้านพักและนำไปฝังไว้หลังบ้านพักของตน จนถูกตำรวจนำหมายค้นบ้านเข้ามาค้นบ้านและพบของกลางดังกล่าว
แหล่งข่าวรายหนึ่ง เปิดเผยว่า หลังจากนั้นรถเก๋งโตโยต้ รุ่นวีออสสีดำคันดังกล่าว น่าจะพานายเชาวลิตฯไปหลบซ่อนตัวในพื้นที่ จ.สตูล ภายใต้การดูแลของผู้นำท้องถิ่นรายหนึ่ง จากนั้นได้หลบหนีมายังมาลงเรือสปีดโบสที่บริเวณท่าเรือในท้องที่บ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล เพื่อมุ่งหน้าไปยังประเทศเพื่อนบ้าน(ประ เทศอินโดนีเซีย) ซึ่งคาดว่านายเชาวลิตฯน่าจะไปหลบซ่อนตัวในจังหวัดแห่งหนึ่ง( จ.อาเจะฮ์ )ซึ่งเป็นจังหวัดหนึ่งของประเทศเพื่อนบ้าน(ประเทศอินโดนีเซีย ) โดยมีกำนันคนดังรายหนึ่งที่อดีตเคยค้าขายทางเรือกับประเทศเพื่อนบ้านดังกล่าว(ประเทศอินโดนีเซีย) เป็นผู้ให้ความสะดวกในการหลบหนี โดยมีการประสานงานกับอดีตนายทหารยศพันโทรายหนึ่งของประเทศเพื่อบ้าน(ประเทศอินโดนีเซีย.) เป็นผู้ให้การดูแลและให้ที่พักในขณะที่นายเชาวลิตฯหนีซ่อนตัวในจังหวัดดังกล่าว และต่อมานายเชาวลิตฯก็ได้อัดคลิป 3 คลิป จนฉาวโฉ่ไปทั่วประเทศดังกล่าว ซึ่งหลายคนก็ยังเชื่อว่าในขณะนี้นายเชาวลิตฯน่ายังคงหลบหนีในประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ภายใต้การดูแลของอดีตทหารยศพันโทรายหนึ่ง
อย่างไรก็ตามในตอนเช้าวันที่ 30 พ.ย. 66 กำลังของตำรวจกองปราบ กก.6 บก.ป ร่วมกับกำลังตำรวจของ กก.สส.ภ.จว.สตูล ได้สนธิกำลังเข้าตรวจยึดรถกระบะโตโตต้า สีขาว ทะเบียน 1 ขข 8010 กรุงเทพมหานคร ซึ่งเป็นรถต้องสงสัยว่าได้ใช้ในการกระทำความผิด โดยเป็นรถกระบะที่ใช้นำทางพานายเชาวลิตฯไปลงเรือที่ท่าเรือบ้านบากันโต๊ะทิด อ.ละงู จ.สตูล โดยมีนายอัชฮัร หมัดสาลี อายุ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 25 ถนนพนัสวิถี ต.พิมาน อ.เมืองสตูล เป็นเจ้าของรถกระบะคันดังกล่าว ซึ่งทาง ตร.ชุดจับกุมได้นำตัวนายอัชฮัรฯ พร้อมรถ ยนต์คันดังกล่าว มาส่งให้ พ.ต.ต. ปิยะพงศ์ เต็มนิล สว.(สอบสวน) สภ.ตะโหมด จ.พัทลุง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป ซึ่งจากการตรวจปัสสาวะของนายอัชฮัรฯในครั้งนี้มีปัสสาวะสีม่วงด้วย
มีรายงานข่าว อีกว่า สำหรับนาย
สุเชษฐ์หรือเดี่ยว จันเขียว อายุ 39 ปีนั้น เมื่อวันที่ 8 มีนาคม 2566 เคยถูก พ.ต.ท.วิรัตน์ จีนเมือง หน.ชุด ชปส.ภ.จว.พัทลุง พร้อมพวก บุกเข้าจับกุมได้ของกลางทั้งอาวุธปืนพกสั้นขนาด .38 จำนวน 1 กระบอก พร้อมยาบ้า 90 เม็ด ยาไฮซ์น้ำหนัก 3.9 กรัม และมีการตรวจยึดทรัพย์สินรถ ยนต์ 1 คัน ราคาประมาณ 1,500,000 บาท ขณะนี้อยู่ในระหว่างอุทรณ์คดี และคาดว่านายสุรเชษฐ์ฯน่าจะรู้จักกับนายเชาวลิตฯ ในขณะเป็นผู้ต้องขังอยู่ในเรือนจำกลางพัทลุง.
Discussion about this post