วันที่ 8 ธ.ค. 66 นาวาเอกวรรณะ เกื้อทิพย์ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม , นาวาโท ศิริพงษ์ นพไธสง หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร พร้อมด้วย พ.ต.ท.สนิท ภักดิ์วรรณสิทธิ์ สารวัตรสืบสวน สภ.หว้านใหญ่, นายนพปฏล ศิริขันธ์ หัวหน้าปราบปรามด่านศุลกากรมุกดาหาร ,ตชด.234 , กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี ,ปกครอง , และตำรวจน้ำ ร่วมกันแถลงการณ์จับกุมไม้พะยูงจำนวน 25 ท่อน/เหลี่ยม เรือเหล็กบรรทุกลำใหญ่ 1 ลำ พร้อมด้วยรถยนต์ 1 คัน หลังได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนไม้หวงห้ามจากฝั่งไทยไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ตำบลบางทรายน้อย อำเภอหว้านใหญ่ จังหวัดมุกดาหาร
สืบเนื่องจากวันที่ 7 ธันวาคม 2566 เวลาประมาณ17.00 น. ภายใต้การอำนวยการของพลเรือตรี นรินทร์ ขาวเจริญ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบ ร้อยตามลำแม่น้ำโขง และนาวาเอกวรรณะ เกื้อทิพย์ ผู้บังคับหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบ ร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนคร พนม โดยนาวาโท ศิริพงษ์ นพไธสง หัวหน้าสถานีเรือมุกดาหาร ได้รับแจ้งจากสายลับว่าจะมีการลักลอบขนไม้หวงห้ามจากฝั่งไทยไปยังฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน ณ บริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหารจึงได้ประชุมวางแผนเพื่อสกัดกั้นและจับกุม โดยการประสานการปฏิบัติร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงนพื้นที่
จากนั้นจึงได้แบ่งกำลังชุดปฏิบัติการของหน่วยออกเป็น 2 ชุด ประกอบด้วย ชุดที่ 1 เป็นชุดลาดตระเวนทางเรือ ได้นำเรือจู่โจมลำน้ำ จำนวน 2 ลำ ออกลาดตระเวนในแม่น้ำโขง และชุดที่ 2 เป็นลาดตระเวนทางบกทำการเฝ้าตรวจในพื้นที่ที่สายลับแจ้งและบริเวณใกล้เคียง จนกระทั่งเวลาประมาณ 20.15น. ชุดลาดตระเวนทางบกได้ตรวจพบเรือเหล็กต้องสงสัยจำนวน 1 ลำ กำลังเคลื่อนที่ตามแม่น้ำโขงจากตอนเหนือของบ้านบางทรายน้อยฯ และเรือได้มาจอดตรงบริเวณริมฝั่งแม่น้ำโขง บ้านบางทรายน้อย ต.บางทรายน้อย อ.หว้านใหญ่ จ.มุกดาหาร
ต่อมาเวลาประมาณ 20.30 น. เจ้าหน้าที่ก็ได้ตรวจพบกลุ่มบุคคลต้องสงสัย จำนวนประมาณ 20 คน กำลังลำเลียงไม้ต้องสงสัยลงไปยังเรือเหล็กลำดังกล่าวห่างจากจุดเฝ้าตรวจประมาณ 200 เมตร เมื่อเห็นดังนั้นชุดลาดตระเวนทางบก จึงได้ออกจากจุดเฝ้าตรวจและเคลื่อนตัวปิดระยะเข้าหาพร้อมกับแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ นรข. เพื่อขอตรวจสอบ เมื่อกลุ่มบุคคลดังกล่าวรู้ว่าเป็นเจ้าหน้าที่ จึงทิ้งไม้ดังกล่าวฯ แล้วอาศัยความมืดและความชำนาญในพื้นที่วิ่งหลบหนีไปได้อย่างรวดเร็ว
เจ้าหน้าที่จึงเข้าตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวและบริเวณใกล้เคียง พบว่าเป็นไม้พะยูงอยู่ในเรือเหล็ก จำนวน 24 ท่อน และไม้พะยูงอยู่บนรถเข็น จำนวน 28 ท่อน รวมทั้งหมด 52 ท่อน/เหลี่ยม เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการตรวจยึดของกลางทั้งหมด ประกอบด้วย เรือเหล็ก 1 ลำ ไม้พะยูง 52 ท่อน และรถเข็น 1 คัน มายัง สน.เรือมุกดาหาร เพื่อทำการตรวจสอบให้ละเอียดอีกครั้ง
จากนั้นเจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาที่หลบหนีว่า เป็นความผิดตาม “มาตรา 48 ฐานมีไม้หวงห้ามแปรรูป (พะยูง) ไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมาตรา 70 ฐานซ่อนเร้น จำหน่าย หรือช่วยพาเอาไปเสียให้พ้น ซึ่งไม้ที่ตนรู้อยู่แล้วว่าเป็นไม้ที่ได้มาโดยการกระทำผิด “ พร้อมตรวจยึดของกลางทั้งหมดนำส่ง สภ.หว้านใหญ่ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป.
อนุศักดิ์ – เสาวภา แสนวิเศษ // มุกดาหาร
Discussion about this post