
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายวรสิทธิ์ วรกิจธำรงค์ชัย นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งคอก อ.สองพี่น้อง จ.สุพรรณบุรี พร้อมด้วย นายณรงค์ ว่องกิจอุตสาหะ รองนายกเทศมนตรีฯ นายมานิต ตั้งสิทธิ์เสรีวงศ์ รองนายกเทศมนตรีฯ สมาชิกสภาเทศบาลตำบลคอก นายพร้อมรบ บำเพ็ญรัตน์ ปลัดเทศ บาลตำบลทุ่งคอก นางรวงทอง ศรนรินทร์ ผู้อำนวยการกองคลัง น.ส.ฐิตารีย์ ปภาวัฒน์วสุ ผู้อำนวยการกองการศึกษา ร่วมกันจัดให้มีโครงการอบรมให้ความรู้การบริการรับชำระภาษี เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับภาษีป้าย ภาษีที่ดิน และภาษีสิ่งปลูกสร้าง โดยได้รับเกียรติจาก นางวันวิสา ปรีชานันท์ หรืออาจารย์ออย นิติกรชำนาญการ สำนักบริหารคลังท้องถิ่น กรมส่งเสริมการปกครองส่วนท้องถิ่น มาเป็นวิทยากรผู้อบรมให้ความรู้เพิ่มเติมแก่พี่น้องประชาชน ผู้เสียภาษี รวมถึงกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำชุมชน ผู้อำนวยการกอง พนักงานเทศบาล และเจ้าหน้าที่เทศบาลตำบลทุ่งคอก ที่เกี่ยวข้องที่เข้าร่วมโครงการอบรมให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับการบริการรับชำระภาษีป้าย ภาษีที่ดิน และภาษีสิ่งปลูกสร้าง ณ ห้องประชุมศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลทุ่งคอก
นายวรสิทธิ์ วรกิจธำรงค์ชัย นายกเทศมนตรีตำบลทุ่งคอก กล่าวว่า โครงการอบรมหลักสูตร เตรียมความพร้อมในการจัดเก็บภาษีที่ดิน สิ่งปลูกสร้าง และภาษีป้าย ให้ให้ประชาชน และผู้เกี่ยวข้องรู้ขั้นตอน และวิธีการจัดการ และแนวทางให้คำปรึกษา เช่น ป้ายที่ต้องเสียภาษี ได้แก่ ป้ายแสดงชื่อยี่ห้อ หรือเครื่องหมายที่ใช้ในการประกอบการค้า หรือกิจการอื่นเพื่อหารายได้ ไม่ว่าจะแสดง หรือโฆษณาไว้ที่วัตถุใดๆ ตัวอักษร ภาพ หรือเครื่องหมายที่เขียนแกะสลัก จารึก หรือทำให้ปรากฏด้วยวิธีใดๆ ป้ายที่แสดงไว้ภายในอาคารที่ใช้ประกอบการค้า หรือประกอบกิจการอื่น หรือภายในอาคาร ซึ่งเป็นที่รโหฐาน ทั้งนี้เพื่อหารายได้ และแต่ละป้ายมีพื้นที่ไม่เกินกำหนดในกฎกระทรวง เมื่อผู้เสียภาษีได้รับแจ้งการประเมิน (ภป.3) แล้วเห็นว่าการประเมินนั้นไม่ถูกต้อง มีสิทธิอุทธรณ์การประเมินต่อผู้บริหารท้องถิ่น หรือผู้ได้รับมอบหมาย โดยต้องยื่นอุทธรณ์ภายใน 30 วัน ตั้งแต่วันที่ได้รับแจ้ง การประเมินผู้อุทธรณ์มีสิทธิอุทธรณ์คำวินิจฉัยของผู้บริหารท้องถิ่นต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่วันรับแจ้งคาวินิจฉัย
“ส่วนภาษีที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง เป็นภาษีที่จัดเก็บเป็นรายปีตามมูลค่าที่ดิน และสิ่งปลูกสร้าง เช่น บ้าน อาคาร ที่ครอบครองโดยมีองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นหน่วยงานรับผิดชอบการจัดเก็บ เริ่มใช้บังคับตั้งแต่ 13 มีนาคม 2562 และจะเริ่มเก็บภาษีตั้งแต่ 1 มกราคม 2563 เป็นต้นไป โดยอัตราภาษีจะคำนวณตามประเภทการใช้ประโยชน์ ซึ่งอัตราการสูงสุดที่เป็นไปได้อยู่ที่อัตราละ 3% ของมูลค่าที่ดิน และสิ่งปลูกสร้างทำให้ต้องยกเลิกการเก็บภาษีโรงเรือน และที่ดิน และการบำรุงท้องที่ด้วย บุคคลธรรมดา หรือนิติบุคคลซึ่งเป็นเจ้าของที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้าง หรือเป็นผู้ครอบครองหรือทำประโยชน์ในที่ดิน หรือสิ่งปลูกสร้างอันเป็นทรัพย์สินของรัฐ ซึ่งเป็นผู้มีหน้าที่เสียภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ และให้หมายความรวมถึงผู้มีหน้าที่ชำระภาษีแทนผู้เสียภาษี ตามพระราชบัญญัตินี้ด้วย” นายวรสิทธิ์ กล่าว.
Discussion about this post