วันที่ 22 ธันวาคม 2566 เวลา 14.00 น. ณ บริเวณหน้าอาคารหน้ากองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ พลตำรวจโทฐากูร นัทธีศรี ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 3 พร้อมด้วยนายพิจิตร บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่ป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ได้รวมกันแถลผลจับกุมเครือข่ายคดียาเสพติดรายสำคัญ จับกุม 1 เครือข่าย ผู้ต้องหา 1 คน ของกลางยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 5 กระสอบ 228 ถุง น้ำหนัก 228 กก.
ภายใต้การสั่งการของ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. , พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุเพ็ชร์ รอง ผบ.ตร. ได้นำนโยบายรัฐบาลมาเป็นแนวทางในการป้อง กันปราบปรามยาเสพติด ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าว สู่การปฏิบัติทุกพื้นที่ ตำรวจภูธรภาค 3 โดย พล.ต.ท. ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์รอง ผบช.ภ.3 ได้สั่งการให้ทุกหน่วยในสังกัด เร่งรัดสืบสวนจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ระดมกวาดล้างยาเสพติดในทุกมิติ การสกัดกั้นการลำเลียงยาเสพติดตามแนวชายแดนและพื้นที่ชั้นใน ดำเนินการปิดล้อมตรวจค้น และการทำลายเครือข่ายตัดวงจรยาเสพติดทุกระดับ ดำเนินการสืบสวนจับกุม ขยายผล เครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดให้ได้ผลอย่างต่อเนื่อง และจริงจัง

ตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ต.สุคนธ์ ศรีอรุณ ผบก.ภ.จว. สุรินทร์, พ.ต.อ.กิตติเชษฐ์ ศักยภาพวิชานนท์ รอง ผบก. ภ.จว.สุรินทร์, พ.ต.อ.เชษฐา เชยชุ่ม รอง ผบก.ภ. จว.สุรินทร์, พ.ต.อ.ธรรมนูญ ฉิมวงษ์ รอง ผบก. สส.ภ.3 , พ.ต.อ.อิทธิพล พงษ์ธร ผกก.สืบสวน ภ.จวสุรินทร์, พ.ต.อ.วีระพันธ์ ณ ลำปาง ผกก. สภ.เมืองสุรินทร์ และ พ.ต.อ.ฐาปนนท์ หน่องพงษ์ ผกก.ตชด. 21 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง โดยภายใต้การอำนวยการของ นายพิจิต บุญทัน ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ในปกครองร่วมกันสืบสวนจับกุมเครือข่ายยาเสพติดรายสำคัญ เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2566 ชุด ชป.ปส.ภ.จว.สุรินทร์ ได้สนธิกำลังประกอบด้วย ชปส.กก.ตชด.21, ชุดปฏิบัติการพิเศษกองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 21 และชปส.ร้อย ตชด.217 ร่วมกันจับกุมตัวผู้กระทำผิดตามประ มวลกฎหมายยาเสพติด จำนวน 1 ราย ผู้ต้องหา 1 คน คือ นายไกรศักดิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 56 ปี พร้อมของกลาง ยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (คีตามีน) จำนวน 5 กระสอบ รวมของกลางทั้ง หมด คีตามีน จำนวน 228 ถุง น้ำหนักประมาณ 228 กก. โดยเจ้าหน้าที่ได้เข้าจับกุม บริเวณหน้าห้องหมายเลข 8 ภายในรีสอร์ทแห่งหนึ่ง ใน ม.10 ต.ท่าตูม อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์
ซึ่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบทราบว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดรายสำคัญลักลอบขนยาเสพติด ชนิด คีตามีน จาก สปป.ลาว ข้ามฝั่งแม่น้ำโขงเข้ามายังประเทศไทย เพื่อจะส่งต่อไปยังประเทศกัมพูชา โดยเครือข่ายดังกล่าวจะรับ คีตามีน จากพื้นที่ อ.บึงโขงหลง จว.บึงกาพ แล้วลำเลียงโดยรถ ยนต์ขับไปส่งให้กับเครือข่ายที่อยู่ในประเทศกัมพูชา ผ่านชายแดนด้าน อ.กาบเชิง จ.สุรินทร์ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงเฝ้าติดตามพฤติการณ์ของเครือข่ายผู้ค้ายาเสพติดดังกล่าว
ต่อมาวันที่ 21 ธ.ค.2566 เจ้าหน้าตำรวจชุดจับ กุมสืบทราบว่าจะมีการลำเลียง คีตามีน เข้ามาในพื้นที่ จว.สุรินทร์ จึงได้รายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ และประสานกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง เพื่อวางแผนการจับกุม จากการเฝ้าสังเกตการณ์ และตรวจสอบข้อมูล พบ รถยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อ ออนด้า รุ่นซีวิค สีดำ หมายเลขทะเบียน สต 8587 กทม. ขับจากพื้นที่ จว.บึงกาฬ มาพื้นที่ จว.สุรินทร์ โดยรถยนต์ดังกล่าวมีลักษณะพิรุธเจ้าหน้าที่ตำรวจเห็นดังนั้น จึงสะกดรอยติดตาม กระทั่งเวลา 18.10 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจพบนายไกรศักดิ์ ขับรถยนต์ไปจอดหน้าห้องดักในรีสอร์ท เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้แสดงตัวว่าเป็นตำรวจ และขอตรวจค้นภายในรถยต์คันดังกล่าว พบกระสอบสีดำ วางอยู่ภายในรถยนต์ จำนวน 5 กระสอบ ซุกซ่อนอยู่ที่เบาะคนนั่งด้านหลัง จึงแกะออกดู ปรากฏว่า ภายในกระ สอบดังกล่าว มียาเสพติดประเภทที่ 2 (คีตามี) บรรจุอยู่ พบว่าภายในกระสอบดังกล่าวเป็น คีตามีน
สอบถามนายไกรศักดิ์ฯ รับว่า ตนรับจ้างขน คีตามี จากนายพร ชายชาวลาว จำนวน 5 กระสอบ จากริมแม่น้ำโขง พื้นที่บ้านเหล่าหลวง ต.ดงบัง อ.บึงโขงหลง จว. บึงกาฬ เพื่อนำมาส่งให้กับเครือข่ายของนายพรฯ ที่จังหวัดสุรินทร์ เพื่อจะส่งต่อให้กับเครือข่ายที่อยู่ผั่งประเทศเพื่อนบ้านผ่านทางด่านชายแดนด้านจังหวัดสุรินทร์ โดยได้รับค้าจ้างครั้งละ 50,000 บาท แต่มาถูกจับกุมได้เสียก่อน
ขณะเดียวกัน ตำรวจภูธรภาค 3, จังหวัดสุรินทร์ และตำรวจภูธรจังหวัดสุรินทร์ จึงขอความ ร่วมมือมายังพี่น้องประชาชน และสถานประกอบการทุกแห่ง ในการแจ้งเบาะแส/ข้อมูล ผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ทั้งผู้เสพ ผู้ค้า ในสถานประกอบ
การฯ และอาศัยสถานประกอบการฯ ในการกระทำผิด โดยแจ้งข้อมูลผ่านสายด่วนยาเสพติด 1599 , สายด่วน 191 , Application Police | lert U และ ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดสุรินทร์ สายด่วน 1567ได้ตลอด 24 ชม. เพื่อดำเนินการปราบปราม จับกุม ดำเนินคดีผู้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติด และลดปัญหายาเสพติด ในภาพรวมอย่างต่อเนื่องและเข้มข้น เพื่อให้สังคมมีความปลอดภัยจากปัญหายาเสพติด ปัญหาอาชญา กรรมที่เกี่ยวเนื่องกับยาเสพติดต่อไป.
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์
Discussion about this post