
เมื่อช่วงกลางดึกของวันที่ 7 ม.ค. 67 พ.ต.ท.จิระเดช กันทะสาร สารวัตรสอบสวน สถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี ได้รับแจ้งเหตุไฟไหม้บ้านเรือนประชาชน จึงประสานขอรถน้ำสนับสนุนจากดับเพลิงเทศบาลเมืองสระบุรี พร้อมแจ้งขอกำลังสนับสนุนจากกู้ภัยสว่างฯสระบุรี เพื่อช่วยเหลือผู้บาดเจ็บหรือช่วยประชาชนขนย้ายสิ่งของ
เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุ มีชาวบ้านยืนมุงดูกันอยู่เป็นจำนวนมาก ขณะที่ เปลวไฟกำลังลุกโหมกระหน่ำอย่างรุนแรงที่บริเวณชั้นสองของตัวบ้าน เนื่องจากชั้นบนของตัวบ้านเป็นไม้ ส่วนชั้นล่างเป็นปูน เจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่า 1 ชั่วโมง จึงสามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ สอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า บ้านหลังเกิดเกตุ บ้านเลขที่ 30/7 ถ.มิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี มี นาย ฉะอ้อน กมูลสุข อายุ 81 ปี (เจ้าของบ้าน) ตอนเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ส่วนใหญ่จะไปอยู่กับน้องชาย ที่อยู่ไม่ไกลกันมาก เบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้มีขโมยมางัดบ้าน กวาดพระเครื่องที่ นาย ฉะอ้อนสะสมมาไปจนหมดเกลี้ยง นอกจากนี้ยังพยายามแยกชิ้นส่วนของตูู้เย็นออกจากกัน วางไว้เกลื่อนบ้าน และดึงสายไฟในบ้านออกมาปลอกเปลือกเพื่อลอกเอาแต่ทองแดง โดยคนที่มาเจอร่องรอยถูกงัดแงะคือ นาย สมบัติ กมูลสุข อายุ 66 ปี น้องชายนายชะอ้อน ตอนที่เอาข้าวมาให้ไก่ เมื่อนายสมบัติเห็นว่าบ้านพี่ชายถูกงัด จึงเข้าไปตรวจสอบ และไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา จนกระทั่งมาเกิดไฟไหม้ในช่วงค่ำ ทำให้นายสมบัติมั้นใจว่า ต้องเป็นพวกหัวขโมยกลับมาเผาเพื่อทำลายหลักฐานอย่างแน่นอน
นาย ไพศาล ศรีราช อายุ 52 ปี (เพื่อนบ้านที่เห็นเหตุการณ์) เล่าว่า ตนเองกำลังนอนดูหนังอยู่ แฟนของตนได้กลิ่นเหม็นไหม้ ตนจึงได้รีบลุกขึ้นมาดู ปรากฏว่า เห็นไฟกำลังลุกไหม้บ้านชั้นล่าง แล้วลุกลามที่ขึ้นไปไหม้ชั้น2อย่างรวดเร็ว ส่วนสาเหตุตนไม่รู้ว่าเกิดจากอะไร ขณะเกิดเหตุ บ้านหลังนี้ไม่มีคนอยู่ เพราะเขาไปอยู่บ้านอีกหลังหนึ่ง แต่ข้างในบ้านจะมีขี้นกแลขี้ฝุ่นเต็มเลย
นาย สมบัติ กมูลสุข (น้องชาย เจ้าของบ้าน ) เล่าว่า เมื่อช่างบ่ายของวันนี้ ตนเองพึ่งไปแจ้งความมา เพราะบ้านโดนงัด ซึ่งคนร้ายได้พระเครื่องไปเยอะ ตู้เย็นมันก็งัดเอาของไป แต่ไม่ยกไป และคนร้ายได้ของไปหลายอย่าง ซึ่งช่างเช้าวันนี้ตนเองเอาข้าวมาให้ไก่ ได้สังเกตเหตุหน้าต่างเปิดอยู่ จึงได้เดินไปดู และคิดว่าบ้านโดนงัดแน่เลย แล้วมาเรียกคนให้เช้าไปดูในบ้านเป็นเพื่อน พอเข้าไปในบ้าน ปรากฏว่า โดนงัดไปหมดเลย ทั้งสายไฟเอาไปหมดเลย ซึ่งคนร้ายได้มานั่งปลอกสายไฟอยู่ในห้อง ลื้อทั้งเสื้อผ้า ตู้เย็น ทีวี ตัดเอาสายไฟไปหมด ตนจึงได้โทรตามพี่ชาย แล้วพากันไปแจ้งความไว้ พอตกกลางคืนมาบ้านก็โดนไฟไหม้เลย ใจตนคิดว่า พวกคนร้ายน่าจะกลัวหาหลักฐาน จึงได้เผาบ้านซะเลย แต่ก็ต้องรอเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์ก่อน
พ.ต.ท.จิระเดช กันทะสาร กล่าวว่า เบื้องต้นได้สั่งการให้ชุดสืบสวนลงหาข่าว เนื่องจากเป็นเหตุการณ์ต่อเนื่องจากเมื่อช่วงสายที่ถูกขโมยขึ้นบ้าน และให้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในพื้นที่ เพื่อหาข้อมูลผู้กรัทำความผิดมาลงโทษตามกฎหมายต่อไป ส่วนค่าเสียหายหรือสาเหตุการเกิดเพลิงไหม้่่ ต้องรอให้เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานเข้าตรวจสอบในวันพรุ่งนี้

จากกรณีเกิดเหตุเพลิงไหม้ บ้านเลขที่ 30/7 ถ.มิตรภาพ ต.ปากเพรียว อ.เมือง จ.สระบุรี มี นาย ฉะอ้อน กมูลสุข อายุ 81 ปี (เจ้าของบ้าน) ตอนเกิดเหตุไม่อยู่บ้าน ส่วนใหญ่จะไปอยู่กับน้องชาย ที่อยู่ไม่ไกลกันมาก เบื้องต้นทราบว่า เมื่อช่วงสายของวันนี้มีขโมยมางัดบ้าน กวาดพระเครื่องที่ นาย ฉะอ้อนสะสมมาไปจนหมดเกลี้ยง นอกจากนี้ยังพยายามแยกชิ้นส่วนของตู้เย็นออกจากกัน วางไว้เกลื่อนบ้าน และดึงสายไฟในบ้านออกมาปลอกเปลือกเพื่อลอกเอาแต่ทองแดง โดยคนที่มาเจอร่องรอยถูกงัดแงะคือ นาย สมบัติ กมูลสุข อายุ 66 ปี น้องชายนายชะอ้อน ตอนที่เอาข้าวมาให้ไก่ เมื่อนายสมบัติเห็นว่าบ้านพี่ชายถูกงัด จึงเข้าไปตรวจสอบ และไปแจ้งความที่ สภ.เมืองสระบุรี เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา จนกระทั่งมาเกิดไฟไหม้ในช่วงค่ำ ทำให้นายสมบัติมั้นใจว่า ต้องเป็นพวกหัวขโมยกลับมาเผาเพื่อทำลายหลักฐานนั้น
วันนี้เมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ทางเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานได้ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณที่เกิดเหตุ เพื่อเก็บร่องรอยที่คาดว่าว่าอาจยังเหลืออยู่ เนื่องจากบริเวณที่ถูกไฟไหม้หมดคือชั้น 2 ของตัวบ้าน ที่ชั้นล่างยังคงเหลือร่องรอยที่คนร้ายทิ้งไว้อีกเป็นจำนวนมาก จึงเก็บรวบรวมเพื่อหารอยนิ้วมือแฝงและส่งพิสูจน์ต่อไป
ต่อมาผู้สื่อข่าวได้มีโอกาสพบกับคุณตาฉะอ้อน เจ้าของบ้าน จึงเข้าไปพูดคุยและสอบถามถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น คุณตาชะอ้อน เล่าว่า นาย สมบัติ ซึ่งเป็นน้องชายของตน ได้โทรมาบอกว่า บ้านพี่ถูกงัดเอาของไปหมดแล้ว ตนจึงได้มาดูในช่วงกลางวัน ปรากฏว่า ไม่มีอะไรเหลือแล้ว แม้แต่สายไฟ บนเพดานหรือหลอดไฟ และพัดลม มันแกะสายไฟลื้อออกหมดเลย แล้วเอาไปปลอกไว้ในห้องที่อยู่ใต้ถุนบ้าน ทรัพย์สินที่คนร้ายได้ไปมี ตู้กับข้าว 1 หลัง , ที่นอนสปริงอย่างดี , เหล็กดัดรอบบ้าน ก็งัดไปหมดเลย ตอนนี้เหลืออยู่บานเดียว ส่วนตู้เย็น คนร้ายไม่เอาไป แต่ว่าได้แกะเอาทองแดงออกมาเพื่อที่จะนำไปขาย ส่วนโทรทัศน์ของตนมันเสียอยู่ก่อนแล้ว ขณะเกิดเหตุ ตนเองอยู่บ้านแฟนที่หลังเกษมราษฎร์ ไม่ได้อยู่บ้าน แต่นานๆทีจะมา ตนเองรู้สึกเสียใจ เพราะบ้านโดนไฟไหม้ไปหมดแล้วไม่มีอะไรเหลือเลย คิดไม่ถึงว่าคนร้ายจะกล้าขนาดนั้น และคิดว่าคนร้ายน่าจะกลัวมีหลักฐานอะไรที่ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจโยงไปถึงตัวมัน มันจึงได้ย้อนกลับมาเผา ณ ตอนนั้นถ้าตนยังอยู่ที่บ้าน ก็หนีไม่รอดอยู่แล้ว ยิ่งถ้าเจอคนร้าย มันก็ต้องทำร้ายตน แต่ครั้งนี้โชคดีที่ตนไม่อยู่ เพราะที่นี่ไม่เคยเกิดการงัดแงะหรือข้าวของเสียหาย คนร้ายสามารถเข้าได้ทุกทางเพราะมันเป็นป่า และคาดว่าคนร้ายไม่น่าจะมาคนเดียว น่าจะมาไม่ต่ำกว่า 2 คน ถึงยกของไปไหว ที่นี่ไม่เคยเกิดการงัดแงะหรือขโมย เนื่องบริเวณนี้มีแต่พี่น้องกัน ซึ่งตนเองเป็นลูกคนโต จึงได้แบ่งๆกัน แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรเลย ส่วนน้องคนรองของตนได้ไปอยู่กรุงเทพ แต่เสียชีวิตแล้ว ทางด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจเขาบอกว่าเดี๋ยวจะเดินเรื่องและติดตามให้ ตามรูปการที่ไปดูในที่เกิดเหตุ ส่วนสาเหตุเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งไม่รู้ว่ายศอะไร น่าจะเป็นสารวัตร ได้บอกว่า ไฟไหม้น่าจะมาจากการวางเพลิง เพราะไฟฟ้ามันตัดไปแล้ว น้องชายของตนได้ไปเอาตู้วางโทรทัศน์ออกมาช่วง 6 โมงกว่าๆ พอประมาณ 1 ทุ่มกว่าๆ ไฟก็ไหม้แล้ว ตนอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตามจับตัวคนร้ายมาให้ได้ เพราะอยากรู้ว่าเป็นใครกันแน่ แต่เจ้าหน้าที่ก็กำลังพิสูจน์ดูอยู่ว่า คนไหนที่หน้าจะเป็นคนจุด เพราะช่วงระยะเวลาไม่นาน ตนไม่รู้ว่าของหายตอนไหน แต่น้องชายมาดูตอนเช้า เขาได้ไปจุดสุมป่า ตัดหญ้าตัดอะไร ตอนนั้นเขายังไม่รู้เลย สักพักเขากลัวไฟจะลาม จึงได้กลับไปดู ก็เห็นว่าทำไมหน้าต่างมันเปิด จึงได้โทรหาตนแล้วพากันไปแจ้งความ หลังจากแจ้งความยังไม่มีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาดู เพราะว่ามีงานอยู่ เขาบอกเดี๋ยวตามมา แต่ก็ยังไม่มา จนเกิดไฟไหม้ถึงมา พร้อมรถดับเพลิงอีกหลายคัน
ด้าน พ.ต.อ.สุริยะ สุดกังวาล ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรเมืองสระบุรี กล่าวว่า ได้ไปตรวจสถานที่เกิดเหตุ และพูดคุยกับคุณลุงเจ้าของบ้านแล้ว ว่าต้องรอผลการตรวจพิสูจน์ว่า เพลิงไหม้เกิดจากสาเหตุใด และขณะนี้เร่งรัดให้ชุดสืบสวน ติดตามคนร้ายที่ลักของไป มาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
หิรัญยวัต อธิวัฒน์เดชากร / สระบุรี 0623601234
Discussion about this post