
จากกรณีเมื่อวันที่ 15 ธ.ค.66 ร.ต.อ.นิพนธ์ พลสวัสดิ์ รองสว.(สอบสวน) สภ.รัตนาธิเบศร์ ได้รับแจ้งเหตุรถยนต์พุ่งชนคนเสียชีวิต เหตุเกิดภาย ในซอยประชานิเวศน์ 3 ซอย 8/3 แยก 16 ต.ท่า ทราย อ.เมืองนนทบุรี จ.นนทบุรี จึงรุดไปตรวจสอบพร้อมแพทย์จากสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และเจ้าหน้าที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุบริเวณกลางซอยดังกล่าว พบรถกระบะอีซูซุ ชนอัดรถจยย. 2 คันพังยับข้างรถจยย.พบร่างผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือ นายสุเมธ อายุ 36 ปี ถูกรถกระบะคันดังกล่าวชนอัดกับเสาไฟฟ้าจนเสียชีวิต ห่างไปเล็กน้อยพบรถ ยนต์ซูซุกิ สีขาว ด้านหน้ารถพังยับได้รับความเสียหาย
จากการสอบถาม นางสาวศิริยา อายุ 27 ปี อาชีพขายผลไม้ กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองได้ไปกู้เงินนอกระบบ 13,000 บาท มาจากผู้เสียชีวิต ผ่อนส่งวันละ 700 บาท โดยผ่อนมาแล้ว 90 วัน เป็นเงินกว่า 63,000 บาท ทนทุกวัน ก่อนเกิดเหตุตนได้โทรหาผู้ตายเนื่องจากตนมีปัญหาเป็นซีสต์ที่บริเวณเต้านม ต้องใช้เงินไปผ่าตัดจึงจะขอหยุดส่งแต่ผู้ตายไม่ยอม ขี่รถจยย.มาหา จากนั้นได้มายืนเอะอะโวยวายอยู่หน้าร้านผลไม้ ทำให้ตนตก ใจกลัวไม่กล้าออกมาเนื่องจากมีลูกเล็กอยู่ภาย ในบ้าน จากนั้นได้โทรไปบอกสามี ชื่อนายวิน อายุ 40 ปี เป็นช่างบิ้วอิน เมื่อสามีทราบเรื่องจึงรีบขับรถมา หลังจากนั้นตนได้ยินเสียงดังโครมครามอยู่หน้าร้าน พอเปิดประตูออกมาพบว่า ผู้เสียชีวิตถูกสามีตัวเองขับรถชนอัดติดอยู่กับเสาไฟฟ้า ทั้งรถจยย.และรถของตนเองได้รับความเสียหาย นอกจากนี้รถกระบะของสามียังพุ่งชนรถเก๋งอีซูซุ สีขาว ซึ่งเป็นของตนเอง เสียหายไปอีกคัน ก่อนที่นายวิน สามีของตนเอง จะเปิดประ ตูรถแล้ววิ่งหลบหนีไป
หลังเกิดเหตุการณ์ ทาง พล.ต.ต.ปรารถนา แผ่นผา ผบก.ภ.จว.นนท บุรี, พ.ต.อ.สมพล วงศ์ศรีสุนทร รอง ผบก.ภ. จว.นนทบุรี สั่งการให้ พ.ต.อ. คมกฤษณ์ คำบุศย์ ผกก.สส.ภ.จว.นนทบุร พ.ต.อ.พิสุทธิ์ จันทรสุวรรณผกก.สภ.รัตนาธิ
เบศร์พร้อมกำลังชุดสืบกก.สส.ภ.จว.นนทบุรี , สืบสวน สภ.รัตนาธิเบศร์ หาหลักฐานตรวจสอบกล้องวงจรปิดจนทราบว่าสาเหตุมาจากนายสุเมธ (สงวนนามสกุล)(ผู้เสียชีวิต) ได้มาทวงเงิน น.ส. ศิรินยา (สงวนนามสกุล)ซึ่งเป็นภรรยาผู้ก่อเหตุ ต่อมา น.ส.ศิรินยาฯ ได้โทรศัพท์ไปหา นายบุญฤทธิ์ หรือวิน ทับเฉลิม (ผู้ก่อเหตุ) บอกว่า นายสุเมธมาทวงเงินอีกแล้ว ต่อมา นายบุญฤทธิ์ พบเห็นนายสุเมธนั่งอยู่หน้าบ้านของตนจึงขับรถยนต์กระบะอีซูซุ รุ่นดีแม็ก สีขาว หมายเลขเลขทะเบียน ระนอง พุ่งชนนายสุเมธฯ จนเสียชีวิต จากนั้นหลบหนีไป
ซึ่งต่อมาทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงขออนุมัติหมายจับที่ จ.996/2566 ลงวันที่ 5 ธ.ค.2566 โดยกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และจากสืบสวนในเวลาต่อมาก็ทราบว่า นายบุญฤทธิ์ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ หมู่บ้านธารทิพย์ ถ.ศิริลักษณ์ ต.ท่าช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้ประสานกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวน สภ.พุนพิน ให้ทำการตรวจสอบ จนทราบว่า นายบุญฤทธิ์ ได้หลบหนีไปพักอาศัยอยู่ที่ดังกล่าวจริง
ต่อมาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 67 เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนได้สนธิกำลังร่วมกันจับกุมตัว นายบุญฤทธิ์ หรือวิน ที่หน้สบ้านธารทิพย์ 8 ถ.ศิริลักษณ์ ต.ท่าช้าง อ.พุนพิน จ.สุราษฎร์ธานี ตามหมายจับทันที โดยกล่าวหาว่า “ฆ่าผู้อ่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน” และจากการตรวจสอบพบว่า นายบุญฤทธิ์ เป็นผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี จึงแจ้งข้อกล่าวหาว่า “ร่วมกันพยายาม่าผู้อื่น, ร่วมกันพาอาวุธไปในเมืองหมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่มีเหตุอันควร” จึงได้จับกุมตัวและได้นำตัวผู้ต้องหามาส่งพนักงานสอบสวน สภ. รัตนาธิเบศร์ โดยผู้ต้อง หาอ้างว่า สาเหตุที่ขับรถชนเพราะกลัวคู่กรณีพกพาอาวุธมา เลยตัดสินใจขับรถพุ่งชน รวมทั้งตน เองก็ เกิดอารมณ์โกรธแค้น ที่มาทวงหนี้ภรรยา ทั้งๆที่เก็บดอกเบี้ยไปจนท่วมต้นท่วมดอกหมดแล้ว.
Discussion about this post