ช่วงสายของวันที่ 10 มกราคม 2567 ที่บริเวณท่าเทียบเรือหน้าทอน อำเภอเกาะสมุย เรือสำราญหรู AlDabella (อัลดาเบลล่า) นำนักท่องเที่ยวกว่า 2,500 คน เดินทางมาจากท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี เข้ามายังเมืองท่าเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี แบบ One Day Trip เพื่อพักผ่อน รับประทานอาหาร ท่องเที่ยวดื่มด่ำกับธรรมชาติทะเลที่สวยงาม มีชื่อเสียง บนชายหาดเฉวง หาดละไม หาดหน้าทอน สัมผัสศิลปวัฒนธรรมท้องถิ่น วัดพระใหญ่ วัดปลายแหลม หินตาหินยาย เลือกซื้อสินค้าที่ระลึกท้องถิ่นในย่านศูนย์การค้า สำคัญของเกาะ สมุย
นายอภิรัฐ มณีวัต ผู้ประกอบการกิจการร้านอาหาร(ร้านมุมทอง)ในตัวเมืองเกาะสมุย กล่าวว่า รู้สึกดีใจมากที่เรือสำราญให้ความสำคัญและมาเทียบท่าที่เกาะสมุย เพราะได้ส่งผลดีต่อทุกๆภาคส่วนในพื้นที่ไม่ว่าจะเป็นกิจการรถตู้/รถแท๊กซี่/รถ 2 แถว/ร้านอาหาร และร้านขายของที่ระลึกต่างๆ/ร้านนวด ทำให้มีเม็ดเงินสะพัด กระ จายรายได้ไปทุกภาคส่วน เช่น ร้านอาหาร ก็ต้องไปซื้ออาหารทะเลของแม่ค้าขายอาหารทะเล ก็จะส่งผลถึงชาวประมง ที่ออกหาปลา หาอาหารทะเล แม่ค้าขายผัก ขายผลไม้ และอาหารต่างๆ ทางร้านอาหารก็ต้องไปซื้อมาบริการนักท่องเที่ยว

ด้าน นาวาเอกณัฐพล สินพูลผล รอง ผอ.ศรชล. จังหวัดสุราษฏร์ธานี ศรชล.ภาค 2 กล่าวว่า ทุกเที่ยวเรือสำราญที่เข้ามาจอดเทียบท่ายังเกาะ สมุย เจ้าหน้าที่ศรชล.จว.สุราษฎร์ธานี และศคท. จว.สุราษฎร์ธานี พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงอำเภอเกาะสมุย บูรณาการร่วมกับหน่วยงานในพื้นที่ประกอบ ด้วยสำนักงานเจ้าท่าภูมิ ภาคสาขาเกาะสมุย ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศเกาะสมุย ด่านตรวจคนเข้าเมือง (ต.ม.) เกาะสมุย และด่านศุลกากรเกาะสมุย สำนักงานขนส่ง ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรในพื้นที่ เทศบาลนครเกาะสมุย หน่วยงานท่องที่ยวในพื้นที่ ได้อำนวยความสะดวก และทำการตรวจระบบความปลอดภัย อุปกรณ์ความปลอดภัยประ จำเรือ เพื่อความปลอดภัยให้กับนักท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง
ซึ่งตามโปรแกรมเรือสำราญที่จะนำนักท่องเที่ยวมาทัวร์เกาะสมุย ในช่วงเดือนมกราคม 2567 มีจำนวนเพิ่มอีก 8 ลำ มีนักท่องเที่ยวกว่า 19,000 คนไม่รวมลูกเรือที่จะเข้ามายังเกาะสมุย และจะส่งผลให้เกิดการหมุนเวียนของเศรษฐกิจ กระจายรายได้ให้กับภาคธุรกิจท่องเที่ยวในพื้นที่ประมาณกว่ายอดเงิน ในเดือนมกราคม 2567 ไม่ต่ำกว่า 100 ล้านบาท.
Discussion about this post