ปราจีนบุรี แค้นคู่อริรุมทำร้ายเจอหน้าใช้ปืนยิงเสียชีวิตแล้วเข้ามอบตัว

วันนี้19 ม.ค.67เวลาประมาณ 07.30น. พ.ต.ต.อนวัช พรมปะ สว.สส.สภ.ศรีมหาโพธิ ได้รับแจ้งจากนายสิทธิเดช หรือหมู ศรีสุข(ทราบชื่อ-สกุลภายหลัง) ซึ่งได้มาพบกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน​ สภ.ศรีมหาโพธิ ที่ห้องสืบสวน​ สภ.ศรีมหาโพธิ แจ้งว่าตนได้ก่อเหตุยิงคนเสียชีวิต ที่บริเวณริมถนนภายในนิคมอุตสาหกรรม 304 ปาร์ค 7 (ด้านหลังบริษัท LETA STONE)

สาเหตุเกิดจากนายศักดิ์ดา หรืออิฐ เหล่ามา(ผู้เสียชีวิต)ได้เคยพาพวกมารุมทำร้ายตนก่อนจึงสร้างความเจ็บแค้นแก่ตนตลอดมา จนกระทั่งวันนี้(19 ม.ค.67เวลาประมาณ 07.00 น.ขณะที่ตนได้ขับขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นPCX150 สีแดง-ดำหมายเลขทะเบียน 1กฐ 3393 ปราจีนบุรีเพื่อไปทำงานมาถึงบริเวณริมถนนภายในนิคมฯพบนายศักดิ์ดาฯ(ผู้เสียชีวิตมาส่งแฟนทำงานและได้จอดซื้ออาหารที่บริเวณริมถนนดังกล่าว

ตนจึงได้เข้าไปใช้อาวุธปืนไทยประดิษฐ์ ลูกชองสั้นเบอร์ 16 ที่พกติดตัวมายิงที่บริเวณศรีษะของนายศักดิ์ดาฯจนคาดว่าน่าจะเสียชีวิต จากนั้นตนได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวหลบหนีและได้โยนอาวุธปืนที่ได้ใช้ในการก่อเหตุทิ้งที่เกาะกลางถนนห่างจากที่เกิดเหตุประมาณ4เมตรและได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวกลับมาที่บ้านเกาะเขมร(ใกลักับแยกสัญญาณไฟโคกขวาง ต.หนองโพรง อ.ศรีมหาโพธิ จ.ปราจีนบุรีแจ้งเหตุการที่เกิดขึ้นให้มารดาทราบและได้ขับรถจักรยานยนต์คันดังกล่าวมาที่ห้องสืบสวน​ สภ.ศรีมหาโพธิฯเพื่อแจ้งเหตุการที่เกิดขึ้นให้เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน​ สภ.ศรีมหาโพธิฯทราบ

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน​ สภ.ศรีมหาโพธิฯจึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบพร้อมทั้งประสานไปที่ชุดสืบสวน​ สภ.ระเบาะไผ่และได้นำตัวนายสิทธิเดชฯ(ผู้ก่อเหตุส่งมอบให้กับเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวน​ สภ.ระเบาะไผ่ฯนำตัวไปค้นหาอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุ

ต่อมาเวลา 11.00 น. พ.ต.ท.สาโรช คุ้มตะโก รอง ผกก.สส.ฯ รรท.ผกก.สภ.ระเบาะไผ่ พร้อมชุดสืบสวน ร่วมกับ จนท.พฐ.จว.ปราจีนบุรี เก็บพยานหลักฐาน (เขม่าดินปืน, DNA) ผู้ก่อเหตุ และอาวุธปืนที่ใช้ก่อเหตุและได้เชิญผู้เกี่ยวข้องคือแฟนของผู้เสียชีวิตมาให้ปากคำแก่เจ้าหน้าที่ แนะนำตัวไปทำแผนเพื่อประกอบคำรับสารภาพ ขณะที่ตำรวจจะนำตัวผู้ก่อเหตุลงจากรถยนต์ของชุดสืบสวน ได้มีญาติของผู้เสียชีวิตตรงเข้ามารุมทำร้ายผู้ก่อเหตุด้วยความโกรธแค้น ตำรวจจึงยกเลิกการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเป็นการด่วน เนื่องจากว่ามีญาติผู้เสียชีวิตมามุงดูมากกว่า 10 คนจึงรีบนำตัวขึ้นรถกลับไปควบคุมตัวไว้ที่คุมขังและจะได้นำตัวดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป