ปราจีนบุรี ถูกโกงค่าแรงเดินเท้าจากจันทบุรี-กลับชัยภูมิ

วันที่ 25 มค.67 ผู้สื่อข่าวจังหวัดปราจีนบุรีได้รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบหนุ่มช่างเชื่อมถูกโกงค่าแรงตัดสินใจเดินเท้าจากจังหวัดจันทบุรีกลับจังหวัดชัยภูมิ และได้นอนพักอยู่ที่ศาลาริมทางถนนสาย 304 กบินทร์บุรี หน้าโรงเรียนอนุบาลกบินทร์ ต.เมืองเก่า อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี และเดินเท้ามุ่งหน้าอยู่จังหวัดนครราชสีมา จึงเดินทางไปยังจุดรับแจ้งพบชายหนุ่มวัยกลางคนกำลังสะพายกระเป๋าเดินเท้ามาตามถนนทราบชื่อนายนิคม แก้วจันดา อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 120 ม.2 ต.ในเมือง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ

นายนิคมกล่าวว่าได้รู้จักกับนายนาจที่รู้จักกันเป็นผู้รับเหมาก่อสร้าง ชวนตนเองกับเพื่อน 4-5 คน ไปทำงานรับเหมาก่อสร้างที่จังหวัดจันทบุรี โดยตนเองเป็นช่างเชื่อมเดินทางไปทำงานที่จันทบุรีตั้งแต่วันที่ 3 มค.ที่ผ่านมาและได้ทำงานวันที่ 5-วันที่ 17 รวมวันทำงาน 12 วัน ซึ่งตกลงกันว่าจะให้ค่าแรงวันละ 500 บาท พอวันเงินออกวันที่ 17 ไม่จ่ายค่าแรงให้และไม่สามารถติดต่อได้ โทรไปก็ไม่รับสาย ตนเองกับเพื่อนร่วมงานจึงตัดสินใจแยกย้ายกันกลับตนเองตัดสินใจเดินเท้าจากจังหวัดจันทบุรี เพื่อที่จะกลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิค่ำไหนนอนนั่น ไม่มีตังค์ติดตัวแม้แต่บาทเดียวค่ำไหนนอนนั่น มีคนสอบถามด้วยความเมตตาสงสารซื้อข้าวให้กินบ้างบางครั้ง และช่วงเวลานอนหลับถูกขโมยกระเป๋าสะ
พายใบเล็กไปแต่ไม่มีเงิน มีแต่บัตรประจำตัวประชาชน มีคนช่วยค่ารถมาลงที่กบินทร์บุรี ไม่มีเงินค่ารถที่จะเดินทางต่อจึงตัดสินใจนอนอยู่ที่ศาลาริมทาง กระทั่งมีผู้พบเห็นให้เงินและซื้อข้าวให้กิน

นายนิคมฝากถึงนายนาจเป็นผู้รับเหมารายนี้ขอให้ทำแบบนี้เป็นครั้งสุดท้าย คนอื่นเขาเดือดร้อน ตนเองแยกทางกับแฟนเมื่อปี 2556 มีลูก 3 คนคนโตเป็นผู้ชายคนกลางเป็นผู้หญิงและคนเล็กเป็นผู้ชาย คนโตอายุ 26ปีอาศัยอยู่กับแม่อยู่ที่อำเภอโนนดินแดงจังหวัดบุรีรัมย์ ตนเองได้อาศัยอยู่กับญาติชื่อน้าสง่า โรจนะ เลขที่ 13 หมู่ 2 ต.ในเมือง อ.ภูเขียว จ.ชัยภูมิ นายนิคมยืนยันว่าจะเดินทางกลับบ้านมีพลเมืองดีให้เงินติดตัวไว้ 100 บาท และผู้สื่อข่าวให้เงินอีก 200 บาทเป็นค่ารถ และได้ส่งขึ้นรถประจำทางไปลงที่จังหวัดนครราชสีมา และคืนนี้จะนอนที่​ บขส.ในวันพรุ่งนี้เช้าจะเดินเท้ามุ่งหน้ากลับบ้านเกิดที่จังหวัดชัยภูมิต่อไป