วันที่ 8 ก พ.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่ศาลจังหวัดกาญจนบุรี นัดฟังคำพิพากษาคดี ครูปรีชาและทนายวรยุทธ ร่วมกันฟ้องเท็จ โดย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล พร้อมด้วย ทนายษิทรา เบี้ยบังเกิดเลขาธิการมูลนิธิทีมงานทนายประชาชน และคณะ นายปรีชา ใคร่ครวญ ทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส นางรัตนาพร สุภาทิพย์ และ นางพัชริดา พรมตา ต่างก็ได้เดินทางมาตามนัด ในช่วงเวลา 09.00 น.นั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 11.40 น. นายษิทรา เบี้ยบังเกิด พร้อมด้วย ร.ต.ท.จรูญ วิมูล และคณะได้เดินออกมาจากศาลจังหวัดกาญจนบุรี โดย นายษิทราฯ กล่าวว่า วันนี้มีทั้งหมด 3 คดี คดีแรกคดีที่ลุงจรูญฟ้อง ครูปรีชากับทนายวรยุทธ ร่วมกันฟ้องเท็จ คดีนี้ จริงๆศาลนัดอ่านในวันนี้ แต่ยังอยู่ในขั้นตอนที่จะส่งไปให้ท่านอธิบดีตรวจก่อน ฉะนั้นศาลก็เลยเลื่อนคดีนี้ ซึ่งเป็นคดีหลักในวันนี้ที่เราหวังว่าครูปรีชาจะติดคุก ไปวันที่ 20 มีนาคมนี้ ก็อีกประมาณเดือนเศษๆ คดีที่2 เป็นคดีที่ลุงจรูญ ฟ้องครูปรีชา บ้าบิ้น และเจ๊พัช 3 คน.ในเรื่องของการร่วมกันเบิกความเท็จ คดีนี้ครูปรีชาตอนแรกปฏิเสธ และก็รับสารภาพ แล้ววันนี้จะขอปฏิเสธอีกรอบ แต่ศาลไม่ให้แล้ว ศาลบอกว่าเป็นการประวิงคดี ศาลบอกในบัลลังก์ ว่าถ้าทำแบบนี้ คือการประวิงคดีแล้ว ศาลเลยให้ครูปรีชาคงรับสารภาพ แต่ว่ายังติดของเจ๊บ้าบิ่นกับเจ๊พัช 2 คนนี้ ยังปฏิเสธสู้คดีอยู่ ฉะนั้นศาลเลยเลื่อนอ่านคำพิพากษาในคดีที่ครูรับสารภาพเบิกความเท็จ ตอนอายัดเงินลุงจรูญ ในคดีแพ่งไปสืบพยานกันในเดือนกรกฎาคม พอสืบพยานของเจ๊บ้าบิ่นและเจ๊พัชเสร็จแล้ว ศาลจะพิพากษาครูปรีชาที่รับสารภาพไปในคราวเดียวกัน

และคดีสุดท้าย คดีที่ 3 เป็นคดีที่ลุงจรูญ ฟ้องพยานทุกคน10 คน ที่ลุงมองว่าเป็นการเบิกความเท็จ ในคดีที่มีการฟ้องลุงจรูญ คดีนี้ศาลนัดให้มีการไต่สวนมูลฟ้องในวันที่ 1 เมษายน 2567 ตนก็ติดคำพูดของครูปรีชา อยู่คำหนึ่ง ครูปรีชาตำ หนิลุงจรูญว่า มาฟ้องพยานแบบนี้สังคมจะอยู่ยังไง ทำให้ลุงโมโห เพราะลุงจรูญโดนฟ้องเป็น 10 คดี เกิดจากครูปรีชากับพยาน มาให้การที่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ทำให้ลุงต้องสู้คดีมายาวนานขนาดนี้ แล้วยังมาบอกว่าลุงทำให้สังคมอยู่ยากแบบนี้
นายษิทราฯ กล่าวอีกว่า ตอนนี้ลุงไม่ประสงค์จะไกล่เกลี่ย เพราะต้องการที่จะให้คนที่กระทำความผิดได้รับโทษ ครูปรีชา จะมาเสนอเงิน ว่าจะเอาเงินมาให้ คงจะลำบากแล้ว ถ้าสำนึกผิด ก็ให้เอาเงินไปวางศาลดีกว่า เพื่อให้ศาลบรรเทาโทษ แต่ลุงคงจะไม่ไปถอนฟ้องให้ แล้วก็เพิ่งจะทราบข่าวว่า ตำรวจกองปราบที่ตอนนั้นทำคดี เรื่องแจ้งความเท็จ ได้มีการเรียกครูปรีชาไปที่อัยการแล้ว น่าจะมีการส่งฟ้องในเร็วๆนี้ ทุกการกระทำ คนละกรรมกันหมด การแจ้งความเท็จ ตำรวจก็ดำเนินคดีไป เรื่องการฟ้องเท็จ การเบิกความเท็จ การให้การเท็จ ในศาล เราฟ้องเองทั้งนั้น แล้วครูปรีชาก็ต้องรับโทษ ในสิ่งที่ทำมาทุกเรื่อง ที่ผมมาวันนี้ ก็ปรึกษากับลุงแล้วว่า สิ่งที่เขาทำเรามา นอกจากจะฟ้องลุงและฟ้องตนด้วย เขาฟ้องเป็น 10 คดี เขาฟ้องมาแบบนี้เราไม่ควรไปเอาเงินเขา ลุงก็เห็นด้วยว่าเราควรจะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ให้เป็นเยี่ยงอย่างดีกว่า
ทนายษิทรา กล่าวเพิ่มอีกว่า เรื่องนี้ต้องมีคนรับผิดชอบแน่นอน ศาลท่านก็บอกแล้วว่าวันที่ 20 มีนาคม นี้ ไม่มีการเลื่อนคดีแล้ว ยังไงวันที่ 20 มีนาคมนี้ ทุกคนจะได้รู้ผลแล้วว่า ผลสรุปคดีหวย 30 ล้าน ที่ตามกันมาในหลายๆปีใครกันแน่ที่ต้องติดคุก
ร.ต.ท.จรูญ วิมูล กล่าวว่า จริงๆผมน่าจะพูดให้เขาฟังนะ เพราะมีคนอย่างคุณสังคมถึงอยู่ลำ บาก ผมก็บอกกับศาลว่า 6 ปีที่ผ่านมาทำกับตนเป้น 10 คดี ไม่เคยมีเรื่องไหนที่มาช่วยตนเลย จ้องจะเอาตนเข้าคุกอย่างเดียว แล้วจะให้ตนทำนั่นทำนี่ให้ตนคงทำให้ไม่ได้หลอก ก็เดินหน้าให้สุด วันนี้คุยกันไม่รู้เรื่องแล้ว วันหน้าก็เลิกคุยกันดี เพราะคุยกันมาหลายครั้งแล้ว ถ้ามีคนแบบนี้ ในสังคม คิดว่าจะมีคนติดคุก ยืนยันเรื่องเงิน ไม่ใช่ประเด็นหลัก ตนไม่ได้เดือดร้อนขนาดนั้น แต่ถ้าอยากจะจบก็จบได้ก็ให้โอกาส ในเมื่อให้โอกาสแล้วไม่ไขว่ขว้าไว้ก็ช่วยอะไรไม่ได้แล้ว ที่ผ่าน ก็เหนื่อยใจ เหนื่อยกาย จริงๆ ผมอายุเยอะ 68 แล้ว คิดไว้ตั้งแต่วันแรกๆที่มีเรื่องมีราว เรื่องแบบนี้ย่างน้อยๆก็ 5 ปี เขาก็เคยให้สัมภาษณ์ไว้ คิดว่าตนจะกลัวหรือเปล่าก็ไม่รู้ แต่ใจตนเป็นตำรวจเก่า ก็รู้อยู่แล้ว เวลาไม่ใช่เรื่องสำคัญสำหรับตน แต่ความจริงสำคัญกว่า ก็อยากให้เขาพูดบ่อยๆ นักข่าวพยายามถามเขาหน่อยว่า ยังยืนยันอยู่หรือเปล่า “ความจริงก็คือ ความจริง” ลองถามเขาดู ผมอยากให้เขาพูดบ่อยๆ “ความจริงก็คือความจริง” จะได้ปรากฏชัดๆเร็วๆขึ้น 6 ปีมานี้ ตนไม่เคยซื้อหวยเลย เพราะเคยพูดไปตั้งแต่แรกๆว่า ถ้าเรื่องยังไม่จบ ตนจะไม่ซื้อหวย มาถึงวันนี้เรื่องยังไม่จบ ตนก็จะไม่ซื้อหวย เพราะยังอยากทำตามที่เคยพูดไว้
ด้าน นายปรีชา ใคร่ครวญ กล่าวว่า ถ้าพยานทุกคนถูกฟ้อง ต่อไปใครจะกล้าไปเป็นพยาน ต่อไปสังคมจะอยู่กันลำบาก สมมุติเพื่อนบ้านเห็นเหตุการณ์ขโมยเข้าบ้านเรา แต่เพื่อนบ้านไม่กล้าไปเป็นพยาน ทั้งๆ ที่รู้ว่าขโมยเป็นใคร ตนแค่ยกตัวอย่าง ให้เห็นว่า สังคมจะอยู่กันลำบาก ถ้าพยานทุกคนถูกฟ้อง พยานพูดความจริงของเขา ในเหตุการณ์ที่เขาเห็น แล้วทุกอย่างมาว่าเป็นพยานเท็จ หมายความว่าไง ปัญหาที่ไกล่เกลี่ยกันไม่ได้ น่าจะเป็นปัญหาความเข้าใจ เรื่องภาย ในมากกว่า ไม่ใช่เรื่องภายนอก ไม่ได้เกี่ยวกับเรื่องของเงินเพียงอย่างเดียว จะเป็นเรื่องของความเข้าใจกัน ก่อนที่จะมีเรื่องของกาชำระ ข้างในจะต้องเข้าใจกันก่อนว่าเราชำระไปเพื่ออะไร ชำระแล้วเกิดอะไรขึ้น ชำระแล้วต้องรักกัน ต้องเข้าใจกัน ทุกคนก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของครูไป พยานก็ใช้สิทธิ์ตามกฎหมายของเขาไป
การที่ทนายษิทรา บอกว่า ยังไงต้องมีคนติดคุกคดีนี้นั้น คือเป็นเหตุการณ์ข้างหน้า เราจะไปคาดเหตุการณ์ข้างหน้าไม่ได้ เพราะยังไม่รู้เลยว่า การนำสืบมีพยานหักล้างอะไรกันบ้าง เพราะต้องใช้เวลา 3-5 ปี อย่าลืม ระบบการกล่าวหา เรากล่าวหาคนนี้ คนนี้ก็กล่าวหาคนนี้ แต่คุณมีหลักฐานพร้อมหรือยัง ที่เขาจะพิสูจน์ว่าทุกคนเป็นเท็จ เท็จแล้วจริง คืออะไร เท็จก็ต้องมีจริง และที่บอกว่า ครูปรีชา ให้การกลับไปกลับมานั้น ไม่ใช่ว่าให้การกลับไปกลับมา เพียงแต่ว่า เพื่อความยุติแห่งคดี เพื่อความยุติด้วยความสมานฉันท์ต่อกัน เราเดินถอยคนละก้าว ก็ทำให้สังคมสงบสุข แล้วทุกคนก็มีความสุข
ส่วนวันที่ 20 มีนาคมนี้ หากศาลลงในด้านลบ ถ้าคุณพิสูจน์ได้ว่าเราเป้นเท็จ พิสูจน์ยังไง การพิสูจน์เป็นเท็จ คือ ต้องมีเรื่องจริง แล้วเรื่องจริงตรงไหนคือเรื่องจริงทุกคนรู้อยู่ ความจริงก็คือความจริง มีจริงก้ต้องมีเท็จ ถ้าไม่มีจริง จะมีเท็จได้ไง แต่ถ้าเราก้าวถอยกันคนละก้าวเพื่อความสมานฉันท์ เพราะเราเป็นคนเมืองกาญจน์ด้วยกันในความรู้สึกของครู เรามองในแง่ความเป็นพี่เป็นน้องเป้นกัลยาณมิตรต่อกัน เรามีคดีความจากความไม่เข้าใจกัน แต่วันหนึ่งเมื่อมีความเข้าใจกันได้ ความสมานฉันท์ก็เกิดขึ้นได้ ใจต้องมาก่อน เข้าเรียกกำลังภายในต้องมาก่อน แล้วถึงเป็นกำลังภายนอก ถ้ากำลังภายในไม่มา มาแต่กำลังภายนอกอย่างเดียวความสันติสุขก็ยังไม่บังเกิด มาถึงวันนี้ตนก็ยังไม่กังวล กังวลทำไม ครูไปแจ้งความ แจ้งความว่าลอตเตอรี่ครูหาย ครูไม่ได้แจ้งความว่าใครเอาลอตเตอรี่ไป แต่ขบวนการของตำรวจได้มาเท่านั้นเอง ครูไม่ได้ไปกล่าวโทษเขา ครูแจ้งความจากลอตเตอรี่ที่ครูมี ครูเชื่อโดยบริสุทธิ์ว่าลอตเตอรี่ของครู แต่ขบวนการสืบค้นของตำรวจได้พยานได้หลักฐานมา แต่ครูเองมีพยาน 2 ปาก คือ เจ็พัช กับเจ๊บ้าบิ่น ซึ่งเป็นพยานที่ขายลอตเตอรี่ให้ครูเท่านั้น แล้วครูก็เชื่อโดยสุจริตว่า ครูคือเจ้าของ แต่ ณ เวลานี้ การสืบของเราอาจมีช่องลงจึงทำให้การพิสูจน์ได้ไม่เต็มร้อบเท่านั้นเอง ส่วนคดีที่กองปราบ เป็นคดีตั้งแต่ปี 60 แล้ว เขาส่งอัยการเดือนหน้า แต่ก็ไม่เป็นไร เราก้ใช้สิทธิ์ของเรา เอาหลักฐานนำเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม ชีวิตก็มีความสุขตามวิถีเพราะกำลังภาย ในของเราดี จึงมีกำลังภายนอกที่ดี ขอให้ทุกคนมีความสุข รักกลมเกลียวกันไม่ต้องมีเรื่องคดีความดีที่สุด
ทุกวันนี้ก็ซื้อลอตเตอรี่ งวดละ 2-3 ใบ ถูกบ่อย คนถูกลอตเตอรี่ คือ คนมีดวง งวดนี้ก็ซื้อเลขวันวาเลนไทน์ คือ 14 วันนี้ก็ยังมั่นใจว่าลอตเตอรี่เป็นของตน ความจริงก็คือความจริง อยู่เสมอ บนโลกไม่รู้ สิ่งศักสิทธิ์ก็รู้ ต่อไปลอตเตอรี่จะไม่หายแล้ว เพราะซื้อสลากดิจิตอล ซื้อผ่านแอป สนับสนุนรัฐ ราคาถูก แล้วก็ไม่หายด้วย ถามว่าเข็ดไหมกับการที่จะซื้อเป็นใบ การที่ไปแจ้งความว่าลอตเตอรี่หายนั้น ไม่ได้ตั้งใจจะมีเรื่อง ตั้งใจแค่สืบหาลอตเตอรี่ของเรา ที่เรามีความเชื่อโดยสุจริตมากกว่า
ส่วน ทนายวรยุทธ บุญวงษ์ใส กล่าวว่า วันนี้ศาลท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพากษา เนื่องจากคู่กรณีไม่สามารถตกลงกันได้ ท่านก็เลยส่งไปให้ภาค ตรวจร่างคำพิพากษาสะก่อน แล้วก็เลื่อนไปนัดอ่านวันที่ 20 มีนาคมนี้ ท่านยังไม่ได้อ่านคำพิพาก ษา จึงไม่ทราบว่าศาลท่านมีคำพิพากษายังไง ก็อยู่ที่เงิน ถ้ามีเงินมาทางหมวดจรูญ ก็พร้อมที่จะรับ ตอนนี้เท่าที่ทราบข่าว ก็ตกลงกันที่ 2.5 ล้าน แต่ปรากฏว่า ครูปรีชา ไม่สามารถนำเงินมาชำระได้ทางหมวดจรูญเลยไม่ประสงค์ที่จะเจรจาไกล่เกลี่ยต่อไป ก็เลยอยากจะให้อ่านคำพิพากษา ตนก็ไม่ขัดข้องอะไรในส่วนที่ท่านทั้ง 2 จะเจรจากัน ผลกระทบกับตนคงไม่มี ตนยังเชื่อมั่นในวิชาชีพทนายความอยู่ การที่ตนมาถูกดำเนินความคดีก็เป้นการทำหน้าที่ในฐานะวิชาชีพทนายความ ซึ่งทางทนายความก็ยังอยู่ที่จะดูอยู่
ทางด้าน นางรัตนา สุภาทิพย์ หรือเจ้บ้าบิ่น กล่าวว่า ไม่กังวลอะไรทั้งนั้น ขอกลับไปขายของก่อน วันนี้วันจ่าย เลขดังงวดนี้ คือ10 วันตรุษจีน และ14 วันวาเลนไทน์ รักทุกคนขอให้มีความสุข
ส่วน นางพัชริดา พรมทิพย์ หรือเจ๊พัช กล่าวว่า กรณีที่มีข่าวว่า เจ้พัช เจ้บ้าบิ่น และครูปรีชาแตกกันนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าแตกจริง วันนี้ก็คงไม่มา เพียงแต่ว่าตอนนี้เราแยกกันไปทำมาหากิน เพราะการทำมาหากิน ตอนนี้ลอตเตอรี่ขายลำ บาก แม่ค้าเยอะ เมื่อก่อนต้องไปศาล ไปกองปราบก็ไปด้วยกัน เพราะถ้าแยกกันไปค่าใช้จ่ายเยอะ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นยังไง ความจริงเรารู้อยู่แก่ใจว่าใครผิดใครถูกในคดีนี้ แต่เราไม่สามารถจะพูดได้ แต่รู้ว่าในอนาคตก็ขอให้ไปตามเวรตามกรรม แล้วกัน ชาติปางก่อนเราอาจจะทำเขามา ชาตินี้เราอาจจะชดใช้ตรงนี้.
ภูริตา สานแก้ว/กาญจนบุรี
Discussion about this post