เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ห้องประชุมโครงการชลประทานแพร่ นายชิดชนก ชุมพล ผู้อำนวยการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ เขต 5 (ปปท.เขต 5) เป็นประธานการประชุมรับฟังข้อมูลการดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคม อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ โดยมี นายวัชรดุลย์ ธนามี ผู้อำนวยการสำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 (ผสก 4) ,นายวรพล เดชสุวรรณ์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฯ นายกฤษณะ บุตรบูรณ์ หัวหน้าโครงการก่อสร้างอ่างแม่แคม ,นายอัสนี จารุชาต ผู้อำนวยการโครงการชลประทานแพร่ ,นายบุญฤทธิ์ ปรางจันทร์ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมฯ นายณรงค์ฤทธิ์ ศิริกันตะวัฒน์ หัวหน้าฝ่ายส่งน้ำและบำรุงรักษาที่ 1 พร้อมเจ้าหน้าที่ฯ และมีนายพิสิษฐ์ ตระการสิริ ผู้รับจ้างในการดำเนินการโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคมฯ เข้าร่วม
ในส่วนเครือข่ายที่เข้าร่วมการประชุมฯ โดยมี พันเอกชัยณรงค์ เชียงทอง ผู้ช่วยจเร กอ.รมน, ร้อยตำรวจเอกดำรงค์ สืบวาท พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ DSI ,พันเอกจรินทร์ บัวเล็ก นักบริหารงานสืบสวน, นางสาวรัตน์สุดาโอดเทิง เจ้าพนักงานป้องกันการทุจริตชำนาญการ สำนักงาน ปปช.จังหวัดแพร่ ทางคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ โดย นายอิทธิพล ช่างกลึงดี ผู้ตรวจสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ ได้มอบหมายให้ ว่าที่ร้อยตรีภาคิน ชมภูพันธ์ รองคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ และ นายธีรพงษ์ ธงออน ที่ปรึกษาคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัดแพร่ นางสาวเสาวลักษณ์ กิติวงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานคุมประพฤติจังหวัดแพร่ นายรัฐพล แสงดอก คณะกรรมการอาสาสมัครคุมประพฤติ จังหวัดแพร่ ทางจังหวัดแพร่ พันเอกธำรงศักดิ์ บุญทักษ์ รอง ผอ.รมน.จังหวัดแพร่ มอบหมายให้ เจ้าหน้าที่ กอ.รมน .จังหวัดแพร่
ทาง นายชิดชนก ชุมพล ประกาศชัดในที่ประชุมว่า ถ้าผมยังไม่ตายก่อน ร่วมกับเครือข่ายฯลงพื้นที่ติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคม ต่อไป
และในช่วงเวลา 13.30 น.ทางคณะฯ ตรวจเยี่ยมและติดตามโครงการอ่างเก็บน้ำแม่แคม อำเภอเมืองแพร่ จังหวัดแพร่ นายณัฐ วังกาวรรณ นายกเทศมนตรีตำบลสวนเขื่อน มอบหมายให้ ร้อยตำรวจเอกสมฤทธิ์ เขื่อนแก้ว รองนายกเทศมนตรีตำบลช่อแฮ พร้อมเจ้าหน้าที่ ชาวบ้านตำบลสวนเขื่อน ร่วมต้อนรับ
ทั้งนี้พบว่า โครงการยังไม่สามารถถมแนวคันดินสันอ่างเก็บน้ำได้ เนื่องจากยังไม่สามารถปิดถนนทางสัญจรของชาวบ้านได้ การสร้างถนนทดแทนถนนเดิมจะต้องมีการเปลี่ยนแปลงแบบให้สอดคล้องกับหลักความปลอดภัยของกรมทางหลวง เป็นสาเหตุทำให้ต้องชะลอโครงการอัดดินแนวสันเขื่อนและสถานการณ์ของโรคโควิด 19 ที่ต้องหยุดกิจการโครงการไปนานถึง 2 ปี
ซึ่งกรมชลประทานยืนยันว่า ปัญหาอุปสรรคอยู่ระหว่างดำเนินการเช่นกันตัดลดระดับความลาดชันของภูเขา เพื่อทำเส้นทางใหม่
ทาง นายวัชรดุลย์ ธนามี ผอ.สำนักงานก่อสร้างชลประทานขนาดกลางที่ 4 กรมชลประทาน ชี้แจงว่า โครงการนี้เป็นภาระหน้าที่ของกรมชลประทาน ได้เร่งรัดให้เป็นไปตามแผน คาดว่าจะสามารถดำเนินการให้แล้วเสร็จได้ในวันที่ 18 มีนาคม 2568 ถนนทดแทนจะมีการถ่ายโอนงบประมาณให้กรมทางหลวงดำเนินการต่อ ซึ่งในระยะทาง 3 กิโลเมตรกว่า จะให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปี โครงการนี้หลังปิดโครงการจะมีพื้นที่รับประโยชน์จำนวน 7,500 ไร่ ในตำบลป่าแดง ตำบลสวนเขื่อน ตำบลกาญจนา ตำบลบ้านถิ่น และตำบลนาจักร อำเภอเมืองแพร่
ส่วนปัญหาการร้องเรียนเรื่องราวเวนคืนที่ดินที่ไม่ได้รับความเป็นธรรมและมีกระแสการทุจริตในส่วนนี้ทางปปท. จะมีการสืบสวนสอบสวนและติดตามเพื่อให้เกิดความโปร่งใสเป็นธรรมแก่ราษฎรในพื้นที่และเกิดประโยชน์สูงสุดเพราะเป็นอ่างเก็บน้ำอันเนื่องมาจากพระราชดำริในหลวงรัชกาลที่ 9 ซึ่งในหลวงรัชกาลที่ 10 กำลังสานต่อโครงการ
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
Discussion about this post