จากกรณีเมื่อวันที่ 26 ก.พ.67 นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมเจ้าหน้าที่บ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนนทบุรี ร่วมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.ไทรน้อย ได้ลงพื้นที่บริเวณสถานรับเลี้ยงเด็กแห่งหนึ่ง ในหมู่บ้านชื่อดัง ย่าน ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังจากได้รับการร้องเรียนจากพลเมืองดีว่ามีการนำเด็กพิการ 7 คน ขังไว้ในห้องไม่มีแอร์ ไม่มีพัดลม ไม่มีที่นอน ไม่มีหมอน บางคนถูกแก้ผ้าขังรวมไว้ในห้องให้เพื่อนดู มีการทำร้ายร่างกาย ตบหัว ดึงหู ให้เด็กอดน้ำ จนเด็กต้องกินน้ำในห้องน้ำ
ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอไทรน้อย นางวาริน สุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี และนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือทนายโป้ง ส.ส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี ลงพื้นที่เข้าช่วยเหลือเด็กทั้ง 7 คน นำออกจากศูนย์ฯดังกล่าว และเดินทางไปที่บ้านพักเด็กจังหวัดนนทบุรี เพื่อรอติดต่อผู้ปกครองมารับกลับไปดูแล โดยจากการสอบถามผู้ดูแลศูนย์ดังกล่าว ปฏิเสธให้สัมภาษณ์และแจ้งว่าไม่ได้ทำผิดกฎหมายและทำไม่ได้ทำร้ายเด็ก
นายตุ๊ก (นามสมมุติ) ผู้ปกครองที่เคยนำลูกมาฝากเลี้ยงเมื่อสามปีที่แล้ว กล่าวว่า ตนนำลูกมาฝากเลี้ยงไว้ที่นี่เมื่อ 3 ปีที่แล้ว เรียนที่นี่ประมาณ 8 เดือน มีค่าใช้จ่ายเดือนละ 18,000 บาท กินนอนอยู่ที่นี่ รับกลับทุกศุกร์-อาทิตย์ ลูกของตนเป็นเด็กพิเศษอาจจะพูดอะไรมากไม่ได้ในการสื่อสาร แต่ที่เคยมาเรียนที่นี่จะมีบาดแผลกลับมาบ้าง ตนเห็นแล้วก็ไม่สบายใจเพราะตนจำเป็นต้องพาลูกมาเรียนที่นี่เพื่อปรับพฤติกรรม แต่เราไม่รู้ว่าจะเป็นขนาดนี้พอเห็นข่าวรู้สึกตกใจ มีการกระทำที่ตนรับไม่ได้ คาดว่าลูกตนคงเจอแบบนี้ ตอนนั้นทางครูแจ้งว่าลูกของตนล้มโดนลูกบิดแต่ตนไม่เชื่อ มีแผลเป็นรอยเจาะที่ข้างหูทุกวันนี้ยังเป็นแผลเป็นอยู่ ลูกของตนมีความรู้สึกหวาดกลัวและไม่ค่อยกล้าที่จะมาเรียน
ตนรู้จักที่นี่จากครอบครัวที่มีลูกเป็นเด็กพิเศษ ตนได้พูดคุยและประสานกับผู้ปกครองที่เคยนำลูกมาเรียนที่นี่ ว่าตนอยากเข้ามาให้ข้อมูลกับหน่วยงานต่างๆ การนำลูกมาฝากเรียนไว้ตามศูนย์ฯ ต้องเป็นคนที่เป็นพ่อเป็นแม่ของเด็กพิเศษถึงจะเข้าใจ พอตนได้ยินข่าวขนาดเรื่องของตนผ่านมา 3 ปี ยังรู้สึกโมโหมาก ตอนนี้ลูกตนได้เรียนที่โรงเรียนประจำที่จังหวัดฉะเชิงเทรา เมื่อก่อนตอนที่ตนมารับลูกทางศูนย์จะให้เข้าแค่ด้านในเฉพาะเวลาที่จ่ายเงิน เวลามารับลูกจะต้องรออยู่ด้านนอก ทราบว่าคนชื่อแหม่มกับผู้ชายอีกคนเป็นเจ้าของ ลูกของตนมีความหวาดกลัวสถานที่นี้ขนาดนั่งอยู่ในรถยังไม่กล้าลงมาจากรถ เรื่องของตนมันผ่านมานานแล้วอาจจะดำเนินการทางกฎหมายอะไรไม่ได้ มันอาจจะลำบาก และไม่รู้ว่าตอนนี้ทางศูนย์ยังดูแลเด็กเหมือนเดิมไหม ถ้าเรื่องราวมันเป็นแบบนี้ก็อยากให้ทางศูนย์ปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม
นายกัน จอมพลัง กล่าวว่า ตอนนี้สามารถพาน้องๆ ออกมาจากศูนย์ฯ ได้แล้วทั้ง 7 คนอยากฝากประชาสัมพันธ์กับผู้ปกครองที่นำเด็กมาฝากไว้ ให้รบกวนติดต่อมาที่บ้านพักเด็กจังหวัดนนทบุรี เพราะตอนนี้ติดต่อผู้ปกครองได้แค่ 2 คนเท่านั้น หากติดต่อไม่ได้ทางพัฒนาสังคมจะต้องนำน้องไปดูแลก่อน อยากให้ครอบครัวมาติดต่อมาเพื่อรับน้องไปดูแลโดยตรงจะดีกว่า
ขณะที่ น.ส.วาริน สุนทร หัวหน้าบ้านพักเด็กและครอบครัวจังหวัดนนทบุรี กล่าวว่า ตอนนี้จากที่ตนได้เข้าไปด้านในกับนายอำเภอและทางปลัดอำเภอ สถานรับเลี้ยงเด็กนี้ดำเนินการไม่ถูกต้องตามหลักในเรื่องของการจดนิติบุคคล เพราะสถานรับเลี้ยงเด็กนี้มีเด็กที่อายุเกินกว่าจะเป็นสถานรับเลี้ยงเด็ก เนื่องจากส่วนใหญ่จะมีอายุเกินกว่า 7 ปี ถ้าจะตั้งจริงๆ จะต้องเป็นในส่วนของสถานสงเคราะห์เอกชน ซึ่งจากการตรวจสอบสถานที่ไม่ได้รับการจดทะเบียนที่ถูกต้อง และไม่ถูกสุขลักษณะ ทั้งเรื่องของที่นอนเก่า เรื่องสระน้ำ หรือที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ทางศูนย์ฯค่อนข้างให้ข้อมูลที่ไม่ละเอียดและรู้สึกกลัวที่มีคนมาเยอะ ตนได้ชี้แจงให้ทางสถานประกอบการเข้า ใจในด้านของข้อกฎหมาย ตอนนี้ได้ประสานผู้ปกครองให้มารับเด็ก หากผู้ปกครองท่านไหนไม่สามารถติดต่อได้จะประสานกับทางบ้านพักเด็กและนำตัวเด็กไปดูแลก่อน ซึ่งจากการพูดคุยในหลายๆเรื่องทางศูนย์ฯอ้างว่าอยู่ระหว่างการปรับปรุงตามที่ติดป้ายไว้
ส่วนเด็กกลุ่มนี้จะต้องทานยา เพราะมีในเรื่องของสมาธิและพัฒนาการต่างๆ ผู้ปกครองจะมารับพาไปหาหมอ ส่วนบางรายทางสถานประกอบการจะเป็นคนนำไปหาหมอเอง ตอนนี้จากที่ดูน้องๆสภาพร่างกายเป็นปกติ ไม่มีร่องรอยของบาดแผล ส่วนค่าใช้จ่ายในเรื่องของการฝากเลี้ยงจะไม่เท่ากันและในเรื่องของการฝากเลี้ยงช่วงวันหยุดจะมีค่าใช้จ่าย ทางศูนย์ฯแจ้งว่าวันละ 700 บาท แต่ทางผู้ปกครองแจ้งว่าวันละ 1,000 บาท ซึ่งพูดไม่ตรงกัน ตอนนี้ต้องอยู่ที่ดุลยพินิจของจังหวัดว่าจะทำการปิดศูนย์ฯนี้ในระยะเวลานานเท่าไหร่ เพราะมีหลายอย่างที่ต้องตรวจสอบทั้งเรื่องของการเลี้ยงดู สภาพแวดล้อมหลายๆอย่าง และเช็คในระบบแล้วสถานประกอบการนี้ไม่ได้มีการขึ้นทะเบียน ตอนนี้อาจจะเข้าข่ายในเรื่องของการเปิดศูนย์ฯไม่ถูกต้อง ถ้าทางผู้ดูแลอยากที่จะประกอบกิจการต่อก็ให้ดำเนินการให้ถูกต้อง
นายปริญ นิทัศน์เอก นายอำเภอไทรน้อย กล่าวว่า ในส่วนของอำเภอไทรน้อยที่เข้ามาร่วมตรวจสอบภายในของศูนย์รับเลี้ยงเด็กฯ แบบนี้อาจจะไม่ถูกต้องและไม่เหมาะสมในการดูแลเด็ก โดยเฉพาะเด็กพิเศษ และได้มีการขอให้ทางศูนย์ฯปิดดำเนินการไปก่อน ในเรื่องของข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทางผู้ว่าราชการจังหวัดนนทบุรีได้ย้ำว่าให้ทางบ้านพักเด็กดำเนินการทางกฎหมาย ทางฝ่ายปกครองต้องดูแลในภาคของความเรียบร้อยในโดยรวมตอนนี้ได้ประสานทางผู้ใหญ่บ้านว่าแต่ละชุมชนมีการดำเนินกิจการอะไรที่ผิดต่อกฎหมาย ก็ให้ร่วมกันตรวจสอบ.
Discussion about this post