นนทบุรี – ปะทะเดือด สาวร้องสส.โป้งถูกพี่สาวลูกหนี้ฉีดน้ำใส่แม่ที่ป่วยติดเตียงขณะไปเจรจานัดวันเคลียร์หนี้

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 9 มี.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ต.ไทรน้อย อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี หลังได้รับการร้องเรียนจากน.ส.จิตรทิวา เพียรพิทยากุล หรือน.ส.ขนม อายุ 41 ปี อาชีพ ค้าขายออนไลน์ (ใส่แว่นเสื้อลายสก๊อตสีฟ้า) ว่าได้เข้าไปทวงถามนัดหมายเพื่อไปเจรจาเรื่องหนี้สินที่ติดค้างกันที่ศูนย์ดำรงธรรม กับ น.ส.โจ (ขอสงวนชื่อ-นามสกุล) เจ้าของร้านเสริมสวยในหมู่บ้านเดียวกัน แล้วถูกน.ส.โจกับพี่สาว ด่าทอด้วยคำหยาบคาย และใช้สายแรงดันสูงฉีดน้ำใส่หน้าน.ส.ขนม และแม่ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ มีรอยแดงที่ใบหน้า ซึ่งน้ำดังกล่าวมีกลิ่น ไม่แน่ใจว่าเป็นน้ำอะไร จึงมาร้องขอความเป็นธรรมกับนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือสส.โป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี เพื่อให้ช่วยเจรจาหาทางออกสำหรับเรื่องนี้

น.ส.จิตรทิวา หรือน.ส.ขนม (ใส่แว่นเสื้อลายสก๊อตสีฟ้า) กล่าวว่า ตนรู้จักกับน.ส.โจ คู่กรณีจากการเป็นลูกค้าร้านเสริมสวยของเขา ได้มีการแลก LINE กันเนื่องจากตนโอนเงินให้ค่าทำผม หลังจากนั้นจึงได้มีการพูดคุยและเริ่มสนิทกันเรื่อยมา ประมาณวันที่ 2 พ.ย. 65 คู่กรณีได้โทรมาขอยืมเงิน 5,000 บาท วันรุ่งขึ้นตนเลยให้เซ็นสัญญา และให้ดอกเบี้ยตนมา 500 บาท เดือนต.ค.ปี 65 ตนได้มีการไปกู้ยืมเงินจากสินเชื่อแห่งหนึ่ง ซึ่งคู่กรณีรับรู้ และมาขอยืมเงินตน 30,000 บาท บอกว่าจะเอาไปให้ที่บ้านทำนา จากนั้นมาขอเพิ่มอีก 20,000 บาท บอกว่าจะเอาไปปล่อยกู้ให้ตนเพราะสงสารที่ตนมีแม่พิการติดเตียงและค่าใช้จ่ายเยอะ ตนไม่มีรายได้ประจำ จากนั้นได้มีการคืนเงินมา 30,000 บาท ผ่านไปประมาณ 1 เดือน คู่กรณีได้โอนดอกเบี้ยมาให้ตน 5,000 บาท หลังจากนั้นก็ได้มีการยืมเงินเรื่อยๆโดยอ้างว่าเอาไปปล่อยกู้ แต่ไม่ได้ให้ดอกเบี้ยตนในส่วนที่เป็นเงินกู้หลักหมื่น มีแค่ส่วนที่เป็นเงินกู้หลักพันเท่านั้นที่ให้ดอกเบี้ย และมีการคืนเงินเป็นระยะๆ คืนบ้าง ยืมบ้าง วนเวียนไปเรื่อยๆ จนยอดคงเหลืออยู่ประ มาณ 70,000 บาท ช่วงหลังๆตนรู้สึกแปลกๆ จึงได้มีการพูดคุยกับคนในหมู่บ้าน มีคนมาเตือนให้ตนรีบทวงเงินคืน จากนั้นตนจึงทำการทวงเงินคืนและทำสัญญากู้ยืมเงินเอาไว้ คู่กรณีบอกว่าจะคืนเงินให้ทั้งหมด วันที่ 29 ธ.ค. 66 ตามสัญญา แต่หลังจากนั้นคู่กรณีรถล้มช่วงเดือนพ.ย. จึงขอทยอยใช้เงินคืนตนอาทิตย์ละ 1,000 บาท ช่วงหลังตนมีภาระค่าใช้จ่ายเยอะจึงต้องการเงินคืนมากกว่าเดิม แต่คู่กรณีไม่ให้ ไม่ยอมเจรจาใดๆ โดยระหว่างนั้นได้มีการทวงถามเงินที่เหลือ และมีการโต้เถียงกันมาตลอด คู่กรณีแจ้งว่าตนพูดถึงไม่ดี และไปด่าลับหลัง ซึ่งตนไม่เคยไปบอกให้ใครรู้ว่าเขาเป็นหนี้ ตนพยายามเจรจาดีมาโดยตลอด ตนไม่เคยไปทวงหนี้คู่กรณีต่อหน้าใคร ซึ่งคู่กรณียืนยันจะไม่คืนเงินให้ ตนจึงได้ไปร้องศูนย์ดำรงธรรม คู่กรณีก็ปฏิเสธที่จะไปเจรจา ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 มี.ค. ตนได้เข้าไปพูดคุยเพื่อสอบถามเกี่ยวกับการนัดหมายไปเจรจาตกลงกัน ตามคำแนะนำของศูนย์ดำรงธรรม ไม่ได้เข้าไปทวงเงิน แต่คู่กรณีกลับฉีดน้ำไล่ ซึ่งใช้หัวฉีดแรงดันสูงทำให้โดนตาแม่ของตน และไม่รู้ว่าใช้น้ำอะไรฉีดเนื่องจากมีกลิ่นแปลกๆ ตนจึงพาแม่ไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดวงตาว่าเป็นอันตรายหรือไม่ ตอนนี้ตนเสียใจอยากจะย้ายไปอยู่ที่อื่น ตนอยากให้สส.โป้ง ช่วยเจรจาหาทางออกสำหรับเรื่องนี้ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องหนี้สินหรือการนำตนไปว่ากับเพื่อนบ้านในหมู่บ้าน ว่าตนไปแย่งสามีคนอื่นซึ่งทำให้ตนรู้สึกอับอาย ทั้งที่จริงๆเขาสร้างเรื่องเยอะไปหมด

นายเอก เตมีย์ศิลปิน อายุ 51 ปี อาชีพรับจ้างทั่วไป (สามี-เสื้อโปโลสีกรมท่า) และ น.ส.ปรางทอง รัศมี อายุ 47 ปี อาชีพแม่บ้าน กล่าวว่า ตนถูกคู่กรณีถ่ายรูปขณะทำงานตัดสังกะสีอยู่หน้าบ้านและโพสต์ด่าในเฟซบุ๊ก ซึ่งทำให้ตนได้รับความอับอาย ตนทำงานรับจ้างทั่วไปและขณะที่คู่กรณีถ่ายภาพตนได้รับจ้างงานมาจากน้องนักศึกษาเพื่อทำชิ้นงาน หารายได้ที่บ้านเนื่องจากตนมีปัญหาเรื่องสุขภาพ และได้สอบถามกับทางนิติแล้วว่าสามารถทำงานใช้เสียงได้ตอนไหน กี่โมง ซึ่งตั้งแต่มีปัญหามาก็ไม่มีใครมาว่าจ้างให้ทำงานอีกเลย ซึ่งตนไม่ได้ไปทำอะไรให้ แต่คู่กรณีว่าทุกคนว่าเป็นคนไม่ดี ตนไปแจ้งความแล้วตั้งแต่ 16 ต.ค. 66 ก็ยังไม่ได้เรื่องหรือความคืบหน้าอะไร ซึ่งตนอยากให้ต่างคนต่างอยู่แล้วไม่มายุ่งเกี่ยวกับครอบครัวตนอีก

นายสุรเชษฐ์ รุ่งเรือง หรือนายกอล์ฟ อายุ 45 ปี อาชีพค้าขาย (เสื้อคอกลมสีกรมท่า) กล่าวว่า ตนโดนคู่กรณีอัดคลิปและส่งไปให้เพื่อนบ้านในหมู่บ้านกล่าวหาว่าตนเป็นคนไม่ดี ตนเคยแจ้งตำรวจและได้มีการเข้ามาพูดคุยแล้วแต่คู่กรณีก็ยังทำอีก ตนขายของดีก็ไปยุให้คนอื่นมาทะเลาะกับตน คู่กรณีเคยแจ้งความว่าบ้านตนค้ายาและมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาค้นบ้าน แต่ก็ไม่พบอะไรเนื่องจากตนไม่ได้ค้ายาเสพติด ตนขายต้มเลือดหมู ซึ่งตนได้รับความเสียหายเพราะคนในหมู่บ้านก็คิดว่าเป็นเรื่องจริง ตำรวจก็ไม่ได้มาขอโทษตน ตนได้รับความเดือดร้อนและถูกกลั่นแกล้งมาตลอด 7 ปีที่อยู่ข้างบ้านกัน ซึ่งเพื่อนบ้านแต่ละคนในหมู่บ้านที่มารวมตัวกันวันนี้ต่างก็ได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ จากคู่กรณีคนเดียวกัน ซึ่งอยากให้มีการดพเนินการที่เด็ดขาดและไม่อยากให้คู่กรณีทำแบบนี้กับคนอื่น ไม่อยากให้แจ้งความและมาจ่ายค่าปรับแค่ 500-1,000 บาท แต่คนอื่นกลับได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบในการใช้ชีวิต

ด้านนายเกียรติคุณ ต้นยาง หรือสส.โป้ง สส.พรรคก้าวไกล เขต 7 จ.นนทบุรี กล่าวว่า เรื่องนี้มีหลายเรื่องราว ทั้งเรื่องกู้ยืมเงิน หมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา พรบ.คอมพิวเตอร์ ซึ่งมีหลายเรื่องราว ที่ชาวบ้านไปแจ้งความไว้ที่สภ.ไทรน้อย แต่ไม่มีความคืบหน้า เดี๋ยวจะต้องเรียบเรียงในแต่ละหลายๆเรื่อง สัญญากู้ยืมเดี๋ยวจะติดตามทวงถามและฟ้องแพ่ง ส่วนเรื่องข้อความในการกู้ยืมเงินหากเป็นข้อความเท็จ อาจจะผิดในเรื่องการฉ้อโกง ซึ่งแต่ละเรื่องมีผู้เสียหายบางส่วนไปแจ้งความแล้วเพียงแต่คดีไม่คืบ ส่วนที่ยังไม่แจ้งความอาจจะรวบรวมและไปแจ้งความพร้อมกันพรุ่งนี้ และติดตามเรื่องเก่าๆด้วย ว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการออกหมายเรียกไปให้กับทางคู่กรณีมารับทราบข้อกล่าวหาแล้วหรือยัง ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องไปพูดคุยและสอบถามข้อเท็จจริงกับอีกฝั่งนึงด้วย เพราะฝั่งที่ร้องเรียนเข้ามามีผู้เสียหายเป็น 10 คน ซึ่งบุคคลทั้งหมดมีเรื่องราวคล้ายๆกันและถูกใส่ร้ายด้วย ทำให้บุคคลทั้งหมดเกลียดชังกัน เสียหายเป็นหมู่คณะ และการที่รวมตัวกันเกือบครึ่งหมู่บ้าน เดี๋ยวต้องไปติดตามข้อเท็จจริงต่อ เบื้องต้นเท่าที่ดูในคลิปจะเป็นในเรื่องของการทำร้ายร่างกาย ส่วนเป็นอันตรายสาหัสหรือไม่ต้องดูผลตรวจจากคุณหมอที่ตรวจตาของคุณแม่น.ส.ขนม ว่าได้รับอันตรายประมาณไหน ต้องรอผลชันสูตรของแพทย์อีกที.