
วันที่ 13 มี.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.ท. ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 พร้อมด้วย พล.ต.ต.ระพีพงษ์ สุขไพบูลย์ รอง ผบช.ภ.3, พล.ต.ต.รุทธพล เนาวรัตน์ ผบก.ภ.จว.บุรีรัมย์, รอง ผบก.ภ.จว.บุรี รัมย์, ผกก.(สอบสวน)ฯ ภ.จว.บุรีรัมย์, ผกก.สืบ สวน ภ.จว.บุรีรัมย์ และ หน.สภ.ในสังกัด ภ.จว. บุรีรัมย์ รวม 34 สภ.ร่วมประชุมกำชับมาตร การและการปฏิบัติในการป้องกันเหตุและแก้ไขปัญ หาการก่อเหตุทะเลาะวิวาทของกลุ่มวัยรุ่น ผ่านระบบการประชุมทางไกลผ่านจอภาพ (Video Conference) ณ ห้องประชุมชั้น 5 ภ.จว.บุรีรัมย์ อ.เมือง จ.บุรีรัมย์
โดยพล.ต.ท.ฐากูร นัทธีศรี ผบช.ภ.3 กล่าวว่าตามที่นักเรียน นักศึกษา มีการก่อเหตุทะเลาะวิวาทและทำร้ายร่างกาย บางกรณี ผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส บางรายถึงขั้นทุพพลภาพในเขตพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ จึงกำชับให้ทุก สภ. จัดประ ชุมร่วมและบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผน มาตรการ เพื่อให้การขับเคลื่อนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน เพื่อเป็นการป้องกันเหตุดังกล่าวมิให้เกิดขึ้นอีกทางตำรวจภูธรจังหวัดบุรี รัมย์ จึงได้กำหนดมาตรการเพิ่มเติมจากมาตร การ ข้อสั่งการ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติและตำรวจภูธรภาค 3 เพิ่มเติมอีกตามมาตรการดังนี้
โดยกำหนดมาตรการเชิงรุกให้ทุก สภ. ประสานสถานศึกษา โรงเรียน จัดทำข้อมูลประวัติของนักเรียน นักศึกษาทุกคนเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่จะกระทำความผิด พร้อมภาพ ถ่ายและประวัติผู้ปกครอง เสร็จแล้วให้แจ้งประ สานข้อมูลให้ผู้ปกครองร่วมกันแก้ไขปัญหาและเป็นการป้องปราม ,ให้ทุก สภ.สืบสวนหาข่าว ข้อมูลกลุ่มบุคคล/บุคคล นักเรียน นักศึกษา หัว หน้ากลุ่มแก๊ง ที่เคยก่อเหตุทะเลาะวิวาท และมีพฤติการณ์ก่อเหตุทะเลาะวิวาทเป็นประ จำ ทั้งออนกราวด์/ออนไลน์ โดยจัดทำแฟ้มและถ่ายภาพทำประวัติหากพบกรณีมีปัญหาทะเลาะวิวาท ให้ หน.สภ.เข้าไปดำเนินการแก้ไขปัญหา ร่วมกับอาจารย์ฝ่ายปกครองหรือกิจการนักเรียนของสถานศึกษาโดยด่วน ,ประสานกับสถานศึกษาที่มีความเสี่ยง จัดให้มีมาตรการเพื่อตรวจค้นอาวุธทุกชนิด ไม่ให้มีการนำเข้ามาในสถานศึกษา
มาตรการปฏิบัติการ กำหนดให้ หน.สภ.ทุกแห่ง ประสานผู้บริหารโรงเรียน สถานศึกษาในพื้นที่ แล้วจัดตั้งกลุ่มไลน์ สำหรับแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร และแจ้งเบาะแสหรือพฤติกรรมของเด็กนักเรียนเพื่อเป็นการเฝ้าระวัง , เพิ่มความเข้ม และความถี่ในการดำเนินการตามโครงการตำรวจประสานโรงเรียน (1ตำรวจ 1 โรงเรียน) เป็นการดำเนินการในลักษณะ ครู 3 ฝ่าย ตำรวจ 1 ฝ่าย คือ ครูฝ่ายพิสูจน์ ,ครูฝ่ายป้องกัน , ครูฝ่ายปก ครอง ,ตำรวจประสานโรงเรียน และโครงการเปิดโรงเรียน เปิดโรงรถ
โดยจะมีการปรับปรุงแก้ไขคำสั่งข้าราชการตำรวจผู้ปฏิบัติหน้าที่ให้เป็นปัจจุบัน และติดตามผลการปฏิบัติของตำรวจประจำโรงเรียน มีการจัดทำฐานข้อมูลเด็กที่มีพฤติกรรมเสี่ยงของแต่ละโรงเรียน และประชุมวางแผนแนวทางการปฏิบัติร่วมกัน ส่วนมาตรการบังคับใช้กฎหมาย
ให้ทุก สภ. นำมาตรการทางกฎหมายเกี่ยวกับการร่วมรับผิดของบิดา มารดาหรือผู้ปกครอง กรณีเด็กหรือเยาวชนกระทำผิด อย่างจริงจัง
ทั้งนี้ยังมีการกำหนดมาตรการป้องกันให้ทุก สภ. ประสานข้อมูลเกี่ยวกับงานหรือปฏิทินการปฏิบัติของสถานศึกษา โรงเรียนร่วมเขียนแผนหรือเพิ่มกิจกรรมในวันปฐมนิเทศนักเรียน นักศึกษา หรือวันเปิดเทอมของทุกสถานศึกษา ก่อนเปิดเทอมจะมีการปฐมนิเทศ อบรมธรรมะ เข้าค่ายพัฒนาจิต โดยให้ สภ. จัดวิทยากรเข้าไปร่วมวางแผนร่วมกิจกรรมกับสถานศึกษาด้วย.
Discussion about this post