วันที่ 31 พ.ค.67 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีที่นายแดเนียล ซิโฮมบิง รองกงสุลสถานกงสุลสาธารณรัฐอินโดนีเซีย ประจำจังหวัดสงขลา เดินทางเข้าพบกับพนักงานสอบ สวน สภ.เมืองพัทลุงเมื่อวันที่ 11 พ.ค.67 เพื่อให้ช่วยเหลือนายชาวานา อายุ 29 ปี สัญชาติ อินโดนีเซีย ได้ถูกชายไทยไม่ทราบชื่อ จำนวน มารับตัวจากพื้นที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา แล้วนำมากักขังหน่วงเหนี่ยวในพื้นที่ จ.พัทลุง ต่อมาตำรวจพัทลุงสามารถเข้าไปช่วยเหลือนายชาวานาได้สำเร็จ ขณะถูกควบคุมตัวอยู่ในบ้านเลขที่ 123 หมู่ที่ 7 ต.ท่าแค อ.เมืองพัทลุง และ ตร.สามารถจับกุมตัว นายวีระศักดิ์ ทองอุบล อายุ 36 ปี ผู้ต้องหาในคดีดังกล่าว และจากการตรวจค้นในบ้านหลังดังกล่าว ตร.ยังพบชาวอินโดนีเซียที่ถูกกักขังอยู่ในบ้านหลังดังกล่าวอีก 2 คน (รวมเป็น 3 คน) ต่อมาทาง ตร. ได้นำนายไซดี เจ๊ะโก๊ะ อายุ 36 ปี และนาย รูสวัณ อูเซ่ง อายุ 40 ปี ชาว ต.เอราวัณ อ.แว้ง จ.นราธิวาส มาสอบปากคำเพิ่มเติม จนนำไปสู่การออกหมายจับผู้ต้องอีก 2 คน ขณะนี้อยู่ในระหว่างการติดตามจับกุมตัวของตำรวจ และเมื่อคอนเย็นวันที่ 17 พ.ต.67 ศาลได้อนุมัติหมายจับผู้ต้องหาอีก 1 ราย ซึ่งเป็นตำรวจหญิง

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนวันที่ 17 พฤษภาคม 2567 พ.ต.อ. สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก.สส.ภ.9 นายตำรวจที่เกี่ยวข้อง ได้นำหมายจับของศาลจังหวัดพัทลุง ที่ 180/2567 ลงวันที่ 17 พฤษภา คม 2567 เข้าจับกุมตัว ดต.หญิง ตำแหน่ง ผช. พนักงานสอบสวน สภ.หนึ่ง ที่ร้านตำนานหมูกระทะ ท้องที่ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี พร้อมด้วยรถยนต์เก๋งโตโยค้าวีฮอส สีเทา ที่เป็นยานพาหนะของผู้ต้องหารายนี้ โดยในเบื้องต้นผู้ต้องได้ปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา ต่อมาทางตำรวจได้นำไปฝากขังที่ศาลจังหวัดพัทลุง โดยศาลไม่ให้ประกันตัว
ต่อมาทางด้าน พล.ต.ต.ภัทรวิชญ์ คีตโมทนียกุล ผบก.ภ.จว.ตรัง ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนวินัยร้ายแรงกับตำรวจหญิงยศดาบตำรวจคนดังกล่าว และได้มีคำสั่งให้ตำรวจหญิงคนดังกล่าวออกจากราชการไว้ก่อนแล้ว
ในขณะที่ พ.ต.อ.สมพงษ์ สุวรรณวงศ์ รอง ผบก. สส.ภ.9 ได้ร่วมกับตำรวจพัทลุง ได้ขยายผลการจับกุมตำรวจหญิงคนดังกล่าว จนสามารถทราบที่ซ่อนตัวของนายเชาวลิต ทองด้วง อายุ 37 ปี และรายงานให้ พล.ต.ท.ปิยะวัฒน์ เฉลิมศรี ผบช.ภ.9 ได้รับทราบ และมีการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาตามลำดับชั้นได้รับทราบ จนนำไปสู่การจับกุมนายเชาวลิตฯได้โดยละม่อม ขณะหลบหนีอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2567 ตามข่าวที่เสนอมาแล้วนั้น.
ผู้สื่อข่าว จ.พัทลุง รายงานว่า เมื่อตอนสายวันนี้(ที่ 31) ที่ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดพัทลุง พ.ต.อ.ธรรมรัตน์ ภิรมย์รักษ์ รอง ผบก.ภ.จว. พัทลุงได้เป็นประธานในการประชุม ตร.ชุดสอบสวนในคดีการอุ้มชาวอินโดนีเซียมาเรียกค่าไถ่ ในขณะที่ พล.ต.ต.ณฐกรญ์ กาญจนาภรณ์ ผบก.ภ.จว.พัทลุง ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.จุมพฏ เลี่ยมแก้ว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง ได้มอบหมายให้ ตร.ชุดเฉพาะกิจ สภ.เมืองพัทลุง ไปรับตัวนายชาวานา อายุ 29 ปี เหยื่อที่ถูกคนร้ายอุ้มมาเรียกค่าไถ่จำนวน 2.3 ล้านบาท และนายฮารี ยาดี อายุ 30 ปี และนายชาร์ มินี อายุ 40 ปี 3 ชาวอินโดนี เซีย จากสถานคุ้มครองสวัสดิภาพผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์ อ.รัตภูมิ จ.สงขลา มาให้ชุดสอบ สวนในคดีดังกล่าวสอบปากคำเพิ่มเติมที่ห้องประ ชุม สภ.เมืองพัทลุง
ทางด้าน พ.ต.อ.จุมพฏ เลี่ยมแก้ว ผกก.สภ.เมืองพัทลุง เผยว่า ในวันนี้(ที่ 31) คณะทำงานสอบ สวนในคดีดังกล่าวจะได้มีการนำตัวชาวอินโดนี เซียทั้ง 3 คน ซึ่งเป็นพยานปากสำคัญมาสอบสวนเพิ่มเติม เพื่อให้คดีมีความละเอียดครบถ้วน สมบูรณ์ มีความรัดกุมเพิ่มขึ้น เนื่องจากคดีดังกล่าวเป็นคดีที่สำคัญ ส่วนการสอบปากคำกลุ่มผู้เสียหายทั้ง 3 คน จะเชื่อมโยงไปยังผู้ใดบ้าง หรือจะมีการเชื่อมโยงไปยังนายเชาวลิต ทองด้วง (แป้ง นาโหนด) หรือจะเชื่อมโยงไปถึงตัว ดต.หรือไม่นั้น ขณะนี้ไม่สามารถที่จะให้รายละเอียดได้จนกว่าจะมีการสอบปากคำพยานทั้ง 3 คนได้เสร็จสิ้นลง.
Discussion about this post