จังหวัดแพร่ “จัดการแสดง” แสง สี เสียง ยามค่ำคืน “อักษรจา พุทธรรม พระธาตุพันปีวัดหลวงไชยช้างค้ำ”บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองแพร่ส่งเสริมการท่องเที่ยว เที่ยวแพร่สนุกทุกฤดู

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 22 มิถุนายน 2567 ที่วัดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์การแสดง แสง สี เสียงยาม
ค่ำคืน @แพร่ “อักษรจารธรรม-พระธาตุพันปี-วัดหลวงไชยช้างค้ำ” โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ จัดขึ้นในโครงการส่งเสริม
การตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ เที่ยวแพร่สนุกทุกฤดู เพื่อประชาสัมพันธ์การเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ สร้างรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยให้แก่ชุมชนใน
พื้นที่จัดกิจกรรมและพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของคนในท้องถิ่น และธุรกิจขนาดเล็กในชุมชน

โดยการแสดง แสง สี เสียง ยาม
ค่ำคืน เรื่องอักษรจารพุทธรรม พระธาตุพันปีวัดหลวงไชยช้างค้ำ ได้นำเอาเรื่องราวที่มีอยู่ในจารึกทางประวัติศาสตร์ มาถ่ายทอดเรื่องราวอัน
ทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์เมืองแพร่ ในรูปแบบการแสดงแสงสีเสียง แบ่งการแสดงออกเป็นทั้งหมด 4 องค์ องค์ที่ 1 ปฐมภูมิ นครแพร่เป็นการบอกเล่าเรื่องราว ของการสร้างเมืองพล
และการสร้างวัดหลวงในครั้งอดีตกาลนับ 1000 ปี องค์ที่ 2 การเมืองการปกครอง เป็นการเล่าถึงการความเรืองอำนาจ การปกครองเมืองแพร่จาก
อดีตตั้งแต่ครั้งอาณาจักรขอมที่เข้าตีเมืองพล และเสื่อมอำนาจลง จนถึงช่วงที่มีการเจริญสัมพันธ์อันดีกับพม่า และในช่วงเวลานั้นวัดหลวงได้รับการ
บูรณะ จากความศรัทธาเสื่อมใสในพระพุทธศาสนาของผู้ปกครองเมืองแพรในขณะนั้น ดั่งปรากฎให้เห็นเป็นเสาหงส์ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อถวาย
เป็นพุทธบูชา องค์ที่ 3 แสงธรรมส่องนครแพร่ในยุคต่อมาเมื่ออาณาจักรทางใต้ อย่างอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรือง พระยาลิไท ได้เสด็จมาบูรณะ
วัดวาอาราม ร่วมถึงการสร้างวัดในเมืองแพล เป็นจำนวนมาก

วัดหลวงแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่พระองค์ทรงบูรณะรวมไปถึงพระธาตุไชยช้างค้ำและยังทรงโปรดพระราชทานนามว่า วัดหลวงสมเด็จ องค์ที่ 4 ความเลื่อมใสแห่งศรัทธาเป็นการบอกเล่าถึงความงดงามของความเลื่อมใสและความศรัทธาต่อวัดหลวงแห่งนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จะแสดงออกถึงความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมล้านนาผ่านการฟ้อน เพื่อเป็นการบูชาองค์พระธาตุ 1000 ปี เพราะเมืองแพร่เป็นเมืองแห่งบวรพระพุทธศาสนานับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และตราบนานเท่านาน

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่

จังหวัดแพร่ “จัดการแสดง” แสง สี เสียง ยามค่ำคืน “อักษรจา พุทธรรม พระธาตุพันปีวัดหลวงไชยช้างค้ำ”บอกเล่าเรื่องราวประวัติศาสตร์เมืองแพร่
ส่งเสริมการท่องเที่ยว เที่ยวแพร่สนุกทุกฤดู

เมื่อเวลา 17.30 น.วันที่ 22 มิถุนายน 2567 ที่วัดหลวง อำเภอเมือง จังหวัดแพร่ นายธรรมนูญ ศรีวรรธนะ รองผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่ เป็นประธานเปิดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว เชิงสร้างสรรค์การแสดง แสง สี เสียงยาม
ค่ำคืน @แพร่ “อักษรจารธรรม-พระธาตุพันปี-วัดหลวงไชยช้างค้ำ” โดยสำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดแพร่ จัดขึ้นในโครงการส่งเสริม
การตลาดและการประชาสัมพันธ์การท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ เที่ยวแพร่สนุกทุกฤดู เพื่อประชาสัมพันธ์การเดินทางท่องเที่ยวจังหวัดแพร่ สร้างรายได้จากการจับจ่ายใช้สอยให้แก่ชุมชนใน
พื้นที่จัดกิจกรรมและพื้นที่ใกล้เคียง ช่วยสนับสนุนเศรษฐกิจของคนในท้องถิ่น และธุรกิจขนาดเล็กในชุมชน

โดยการแสดง แสง สี เสียง ยาม
ค่ำคืน เรื่องอักษรจารพุทธรรม พระธาตุพันปีวัดหลวงไชยช้างค้ำ ได้นำเอาเรื่องราวที่มีอยู่ในจารึกทางประวัติศาสตร์ มาถ่ายทอดเรื่องราวอัน
ทรงคุณค่าของประวัติศาสตร์เมืองแพร่ ในรูปแบบการแสดงแสงสีเสียง แบ่งการแสดงออกเป็นทั้งหมด 4 องค์ องค์ที่ 1 ปฐมภูมิ นครแพร่เป็นการบอกเล่าเรื่องราว ของการสร้างเมืองพล
และการสร้างวัดหลวงในครั้งอดีตกาลนับ 1000 ปี องค์ที่ 2 การเมืองการปกครอง เป็นการเล่าถึงการความเรืองอำนาจ การปกครองเมืองแพร่จาก
อดีตตั้งแต่ครั้งอาณาจักรขอมที่เข้าตีเมืองพล และเสื่อมอำนาจลง จนถึงช่วงที่มีการเจริญสัมพันธ์อันดีกับพม่า และในช่วงเวลานั้นวัดหลวงได้รับการ
บูรณะ จากความศรัทธาเสื่อมใสในพระพุทธศาสนาของผู้ปกครองเมืองแพรในขณะนั้น ดั่งปรากฎให้เห็นเป็นเสาหงส์ได้จัดสร้างขึ้นเพื่อถวาย
เป็นพุทธบูชา องค์ที่ 3 แสงธรรมส่องนครแพร่ในยุคต่อมาเมื่ออาณาจักรทางใต้ อย่างอาณาจักรสุโขทัยเจริญรุ่งเรือง พระยาลิไท ได้เสด็จมาบูรณะ
วัดวาอาราม ร่วมถึงการสร้างวัดในเมืองแพล เป็นจำนวนมาก

วัดหลวงแห่งนี้เป็นหนึ่งในวัดที่พระองค์ทรงบูรณะรวมไปถึงพระธาตุไชยช้างค้ำและยังทรงโปรดพระราชทานนามว่า วัดหลวงสมเด็จ องค์ที่ 4 ความเลื่อมใสแห่งศรัทธาเป็นการบอกเล่าถึงความงดงามของความเลื่อมใสและความศรัทธาต่อวัดหลวงแห่งนี้จากอดีตจนถึงปัจจุบัน จะแสดงออกถึงความงดงามทางศิลปวัฒนธรรมล้านนาผ่านการฟ้อน เพื่อเป็นการบูชาองค์พระธาตุ 1000 ปี เพราะเมืองแพร่เป็นเมืองแห่งบวรพระพุทธศาสนานับจากอดีตจนถึงปัจจุบัน และตราบนานเท่านาน

ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่