
วิรัตน์ แม่ฮ่องสอน
จากกรณีมีกระแสข่าวพระโจมตีตำรวจไม่รับแจ้งความ หลังมีวัยรุ่นตีกันกลางวัดดังเผยแพร่ในสื่อบางสำนักนั้น สรุปแล้วโอละเห่ เพราะทั้งพระและตำรวจต่างยืนยันเนื้อหาที่แชร์กันนั้นเกินความจริง แท้จริงเป็นแค่การสื่อสารคลาดเคลื่อน
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อช่วงค่ำของวานนี้ (วันที่ 4 กรกฎาคม 2567) ได้มีกลุ่มวัยรุ่นราว 4-5 คน อายุระหว่าง 15-17 ปี ได้ซ้อนรถจักรยานยนต์ขึ้นไปที่บนวัดพระธาตุดอยกองมู ซึ่งเป็นวัดดังกลางเมืองแม่ฮ่องสอนและเป็นวัดที่จำวัดของเจ้าคณะจังหวัดแม่ฮ่องสอน เมื่อไปถึงก็เดินตรงดิ่งไปหาวัยรุ่นชายคนหนึ่งที่บริเวณศาลาข้างวัด จากนั้นก็ลงมือชกต่อยกันเป็นพัลวัน จนทำให้วัยรุ่นชายคนดังกล่าวได้รับบาดเจ็บ ทราบชื่อต่อมาคือนายอนุสรณ์ (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 16 ปี หลังจากรุมต่อยจนหนำใจแล้วก็พากันหลบหนีไป(ตามคลิปวงจรปิด) ต่อมาสายตรวจและร้อยเวรสอบสวนประจำวัน คือ ร้อยตำรวจเอกสุวรรณ เจริญสุขของสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอนได้รับแจ้งเหตุจากพระครูอนุชิตกิจจานุกูล รองเจ้าคณะอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน ที่พบเหตุ ก็ได้นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บส่งโรงพยาบาลศรีสังวาลย์ เพื่อรักษาอาการบาดเจ็บ ต่อมาพระที่ประสบเหตุได้เดินทางมาลงบันทึกประจำวันและขอแจ้งความกรณีบุกรุกในยามวิกาลกับกลุ่มวัยรุ่นที่ก่อเหตุ แต่ระหว่างนั้นตำรวจกำลังดูแลคนเจ็บและให้ตำรวจเร่งติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุอยู่ จึงได้แจ้งกับพระว่าขอตามเหตุก่อน แล้วค่อยกลับมาดำเนินการทางเอกสารอีกครั้งหนึ่ง จนกลายเป็นเหตุเข้าใจผิดและพระนำคลิปเหตุการณ์ไปโพสต์ที่เฟสบุ๊ค จนกลายเป็นกระแสลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ซึ่งมีสื่อบางสำนักได้หยิบเอาคลิปไปขยายความจนกลายเป็นปัญหาดังกล่าว
และในช่วงค่ำของวันนี้ (วันที่ 5 กรกฎาคม 2567) หลังทราบว่ามีกระแสแพร่กระจายเป็นไวรัลทางโซเชี่ยล ว่าตำรวจไม่รับแจ้งเหตุ พันตำรวจเอกภาสวินท์ แก้วต่าย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน ได้เรียกร้อยเวรประจำวันและผู้ที่เกี่ยวข้องมาสอบถามถึงข้อเท็จจริง นอกจากนี้ยังได้ให้ตำรวจชุดสืบสวนติดตามตัวผู้ก่อเหตุ รวมถึงนิมนต์พระครูอนุชิตกิจจานุกูล ผู้โพสต์คลิปดังกล่าว มาเพื่อขอความชัดเจนถึงกรณีดังกล่าว จากนั้นก็ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชน
พันตำรวจเอกภาสวินท์ แก้วต่าย ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรเมืองแม่ฮ่องสอน กล่าวว่า จากกรณีที่เกิดขึ้นที่วัดพระธาตุดอยกองมูนั้น ทางร้อยเวรเจ้าของคดีและตำรวจที่เกี่ยวข้อง ไม่ได้นิ่งนอนใจและมีการติดตามผลทางคดีและผู้ก่อเหตุมาตลอด ส่วนกรณีที่เกิดความเข้าใจผิดกันระหว่างทางวัดกับตำรวจนั้น ขณะนี้ทางวัดและพระที่โพสต์เองก็ทราบแล้วว่าทางตำรวจได้ดำเนินการให้ครบทุกอย่าง ทั้งการลงบันทึกประจำวัน การแจ้งความเอาผิดผู้ก่อเหตุ นอกจากนี้ยังติดตามตัวเยาวชนผู้ก่อเหตุทะเลาะวิวาทมาได้ 2 ราย คือนายเอ (นามสมมุติ) อายุ 16 ปีและนายบี (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ในเบื้องต้นยอมรับว่าเป็นผู้ก่อเหตุตามคลิปวีดีโอวงจรปิดจริง แต่รายละเอียดอื่นๆ นั้นจะต้องรอการสอบสวนอย่างละเอียดร่วมกับทางสหวิชาชีพอีกครั้งหนึ่งตามระเบียบ ซึ่งมีข่าวบางสำนักที่เผยแพร่ออกไปไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ซึ่งจากนี้ไปตำรวจเองก็จะต้องเพิ่มความถี่ของการตรวจตราที่วัดพระธาตุดอยกองมูมากขึ้น เพราะตำรวจเองได้รับแจ้งมาบ่อยว่ามีกลุ่มวัยรุ่นลอบไปมั่วสุมกันตามแนวที่ชมวิวของวัด บางครั้งก็เลยเถิดจนกลายเป็นทะเลาะวิวาทกันแล้วก็มี
ทางด้านพระผู้โพสต์เฟสบุ๊ค คือ พระครูอนุชิตกิจจานุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า กรณีที่เกิดขึ้นอาตมาเองยอมรัยว่าเป็นการสื่อสารที่ไม่ตรงกันหรือไม่เข้าใจระบบการทำงาน เพราะเบื้องต้นคือต้องการให้ลงบันทึกประจำวันหรือมีการแจ้งความไว้ เพื่อป้องกันเหตุซึ่งอาจจะเกิดขึ้นได้อีก แต่ก็เข้าใจมากขึ้นหลังจากที่พบว่าตำรวจนั้นมีการดำเนินการเรียบร้อยหลังจากเสร็จสิ้นการส่งคนเจ็บเข้ารักษาตัวและได้สั่งการให้มีการติดตามตัวผู้ก่อเหตุ แต่การที่สื่อไปลงว่าให้กลับไปเอาหลักฐานนั้น อาตมาเองไม่ได้พูด สื่อเอาไปเขียนเอง ส่วนโพสต์ดังกล่าวก็ได้ลบออกจากระบบเรียบร้อยแล้วเช่นกัน
ในขณะที่หนึ่งใน 2 ผู้ก่อเหตุ ยอมให้สัมภาษณ์สั้นๆ โดยอ้างว่า ชนวนเหตุการณ์ทะเลาะวิวาทในครั้งนี้ มาจาก 2 เรื่อง คือเรื่องที่ผู้เสียหายมักจะไปลักทรัพย์มาแล้วชอบนำไปซุกซ่อนที่หอพักของพวกตน เคยเตือนมาแล้วก็ยังทำ เพราะแต่ละคนก็กลัวว่าหากโดนจับขึ้นมาจะพากันเดือดร้อน และอีกเรื่องก็มาจากผู้บาดเจ็บหนีขึ้นมาอยู่บนวัดแล้วชอบโพสต์ท้าทายอยู่บ่อยๆ จนทนไม่ได้จึงพากันมาก่อเหตุขึ้นดังกล่าว
///////////////////////////////
วิรัตน์ นันทะพรพิบูลย์ จ.แม่ฮ่องสอน
Discussion about this post