จากกรณีมีผู้ใช้ Facebook โพสต์ลง สื่อโซเชียล โรงงานแห่งหนึ่งสูบน้ำจากโรงงานลงในพื้นที่ของชาวบ้าน จนเกิดความเดือดร้อน ส่งผลกระทบทั้งระบบนิเวศ และ พืชไร่การเกษตร ไม่ว่าจะเป็น ป่ายูคาลิปตัส ไร่ข้าวโพดไร่มันสำปะหลังนาข้าว ต่างได้ผลกระทบทั้งหมด
จากการลงพื้นที่ในจุดที่ โรงงานดังกล่าวได้ สูบน้ำแล้วปล่อยลงในพื้นที่ของชาวบ้าน ซึ่งโรงงานดังกล่าว ได้ปลูกอยู่บนพื้นที่หลายร้อยไร่ และได้พบบริเวณด้านหลังโรงงาน ได้มีเครื่องสูบน้ำแบบ ท่อพญานาค ขนาดเส้นผ่าศูนย์กลางตั้งแต่หน้า 6 ถึงหน้า 10 จำนวน 4 เครื่อง ซึ่งหันท้าย มาบริเวณคลองหน้าโรงงาน หันหัวออกทางป่ายูคาลิปตัสที่เป็นพื้นที่ของชาวบ้าน ขณะที่ผู้สื่อข่าวไปถึงได้ทำการปิดเครื่องไม่ได้ปล่อยน้ำแล้ว ซึ่งอยู่ใกล้กันมีศาลาปลูกแบบชั่วคราวคล้ายมีคนมานั่งเฝ้าอยู่ตลอด แต่ไม่พบคนมีเครื่องสูบน้ำอยู่หลังโรงงาน ทราบว่าโรงงานดังกล่าวเป็นโรงงานทำกระเบื้อง พร้อมกันนี้ฝ่ายปกครองอำเภอศรีมหาโพธิ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบและสอบถามรายละเอียดกับชาวบ้านเพื่อที่จะสอบถามฝ่ายโรงงาน ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอีกครั้งหนึ่ง

จากการสอบถามชาวบ้านได้ออกมายืนดู มวลน้ำ ที่ทางโรงงานได้ปล่อยออกมา บอกว่า ต้องทนอยู่แบบนี้มาตั้งแต่โรงงานเริ่ม เปิดทำการ 3-4 ปีแล้ว ทางโรงงานจะสูบน้ำออกแบบนี้เป็นประจำ ยิ่งถ้าเป็นหน้าฝนยิ่งหนัก สูบน้ำแทบทุกวันและน้ำดังกล่าวก็ มีกลิ่นเหม็น บางครั้งอากาศนิ่งๆกลางคืน ออกมานอกบ้านแทบไม่ได้แสบจมูก มีทั้งเด็กเล็กและคนแก่ จึงอยากจะให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ลงมาตรวจสอบและ ดำเนินการแก้ไขให้หน่อย ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ คงจะเป็นอันตรายต่อสุขภาพอย่างแน่นอน เพราะน้ำที่ ปล่อยออกมาจะไหลไปตามพื้นที่ของรอยต่อระหว่างพื้นที่หมู่ที่ 7 กับหมู่ที่ 8 ตำบลหัวหว้า ซึ่งทางผ่านของน้ำนั้นอยู่ห่างจากแท่งน้ำประปาของหมู่บ้าน ไม่ถึง 100 เมตร ทุกวันนี้น้ำประปาที่ใช้อยู่เริ่มจะมีกลิ่น ถึงไม่มากแต่ที่ผลกระทบสุดคืออาบแล้วบางคนแพ้มีผื่น ขึ้นตามตัวและก็คัน ทั้งตัว ถ้าขืนปล่อยไว้แบบนี้ต่อไป อนาคตข้างหน้า คิดว่าคงจะอยู่กันแบบลำบากแน่นอน
Discussion about this post