
เมื่อเวลา 21.20 น. วันที่ 19 ธ.ค.67 ร.ต.อ.บัณฑิต ประเสริฐ พนักงานสอบสวน สภ.เบตง ได้รับแจ้ง มีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บ ที่บ้านเลขที่ 18 ถ.มงคลวิถี เขตเทศบาลเมืองเบตง อ.เบตง จ.ยะลา จึงรีบรุดไปที่เกิดเหตุ พร้อม พ.ต.อ.จิรวัฒน์ ดูดิง ผกก.สภ.เบตง พ.ต.ท.รุสมาน ดีนามอ รอง ผกก.สอบสวน พ.ต.ท.ทศพล พลอยงาม รอง ผกก.ป. เจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน ชุดปราบปราม เจ้าหน้าที่ ตชด. และฝ่ายปกครอง
บ้านเกิดเหตุเป็นบ้านปูนสองชั้นปลูกติดกันหลายหลัง บริเวณหน้าบ้านมีเลือดกองเต็มพื้น ส่วนผู้บาดเจ็บ ทราบชื่อ นายสุวรรณ แซ่ติ้ง อายุ 40 ปี ถูกยิงด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาด เข้าที่ศีรษะ ภรรยาได้นำส่งโรงพยาบาลเบตงแล้ว ส่วนผู้ก่อเหตุคือนายปฏิพัทธ์ มากกาญจนกุล อายุ 34 ปี ที่อยู่บ้านติดกัน หลังก่อเหตุแล้ว ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ยามาฮ่า รุ่น ฟีลาโน่ สีเทาดำ ป้ายทะเบียน กก 995 เบตง หลบหนีไปและนำอาวุธปืนไปด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ จึงแจ้งวิทยุ ให้จุดตรวจจุดสกัดของหน่วยกำลังต่างๆในพื้นที่ สกัดจับ
น.ส.ทัศดี เรียมแสน ภรรยาผู้ได้รับบาดเจ็บ เล่าว่า ตอนเกิดเหตุ ตนอยู่ในบ้านนั่งอยู่ตรงประตู แล้วก็แอบดูอยู่เรื่อยๆ ก็คิดว่าทั้งสองคนคงเคลียร์ปัญหากันแบบลูกผู้ชาย ระหว่างนั้นก็มีพี่ชายของผู้ก่อเหตุพยายามห้าม แต่ก็ไม่รู้ผู้ก่อเหตุเอาปืนมายิงตอนไหน มารู้ก็ตอนได้ยินเสียงเหมือนของตก จึงเปิดม่านดู ก็เห็นแฟนนอนอยู่ที่พื้นแล้ว สองคนนี้เคยทะเลาะมีปากเสียงกันแล้วครั้งนึงแต่ไม่ได้รุนแรงแบบนี้ ส่วนอาการของแฟน ขณะนี้แพทย์ ได้ทำการช่วยเหลือ และกำลังจะทำการส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลศูนย์ยะลา
ส่วนพี่ชายของผู้ก่อเหตุ ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เล่าว่า สองคนนี้เคยมีปัญหากันมาแล้วครั้งนึง เรื่องส่งเสียงดัง เมื่อประมาณ 2 เดือนที่แล้ว และผู้บาดเจ็บได้มาต่อยน้องชายตน พอมาวันนี้ หลังจากที่ตนขี่รถจักรยานยนต์กลับมาบ้านโดยน้องชายนั่งซ้อนท้าย ผู้ได้รับบาดเจ็บ ก็เดินเข้ามาหาแล้วถามน้องชายตน ว่ามองหน้าทำไม จากนั้นทั้งสองก็มีปากเสียงกัน ตนก็พยายามห้ามทั้งสองฝ่าย น้องก็เข้าบ้านไป ตนก็ยืนคุยกับผู้บาดเจ็บว่าให้ทั้งสอง ใจเย็นลงก่อนแล้วค่อยมาคุยกัน ซึ่งตนก็คิดว่าเรื่องคงจะจบแล้ว จู่ๆ น้องตนก็เดินออกมาจากบ้าน แล้วพูดประมาณว่ายังไม่ยอมจบอีกเหรอ ก่อนจะลงมือก่อเหตุ ซึ่งตนก็ตกใจมาก แต่ก็ยังพอมีสติ จึงรีบโทรแจ้งกู้ภัย แจ้งตำรวจ
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้ถ่ายภาพเก็บหลักฐานทำการตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียง นำผู้เห็นเหตุการณ์ ผู้ใกล้ชิด ไปสอบสวนโดยละเอียดเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และจะทำการติดตามผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป โยธิน ประชามติรัฐ/ข่าว
อับดุลมานะ ดอฆอ/ภาพ
อ.เบตง จ.ยะลา รายงาน
Discussion about this post