เจ้าอธิการจีรศักดิ์ จิรธัมโม เจ้าอาวาสวัดป่าตาลวก ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ มีแนวคิดอยากอนุรักษ์ความเป็นสุรินทร์ ที่มีปราสาทหินตั้งอยู่มากมาย ได้ริเริ่มสร้างอุโบสถ-เมรุ ลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณ ด้านในประดับตกแต่งด้วยพระเครื่องจากทั่วโลก ไว้เป็นที่ปฏิบัติธรรม พักผ่อนหย่อนใจ แก่ญาติโยม ถือเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอีกแห่งหนึ่งของชาวจังหวัดสุรินทร์ให้ผู้คนได้รู้จักสุรินทร์มากยิ่งขึ้น
วันที่ 2 มีนาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่วัดป่าตาลวก ต.กังแอน อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ พระมหาทวีสุข อภิสุขโข เจ้าคณะอำเภอปราสาท เจ้าอธิการจีรศักดิ์ จิรธัมโม เจ้าคณะตำบลกังแกน (เจ้าอาวาสวัดป่าตาลวก) ได้จัดงานครบรอบวันมรณะภาพ อดีตเจ้าอาวาสวัดองค์แรก หลวงปู่เลือน สุมังคโล ซึ่งได้มรณะภาพไปเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2551 เพื่อเป็นการกตัญญูกตเวทิตาต่อท่าน ปีนี้ทางวัดได้จัดขึ้นเป็นปีที่ 17 โดยช่วงเช้าจะมีพิธีทำบุญตักบาตร สวดทักษิณานุปทาน พิธีทอดผ้าป่า

โดยอุโบสถที่ใช้ประกอบพิธี ผู้คนต้องสะดุดตาเป็นอย่างมาก น่าจะมีแห่งเดียว ซึ่ง เจ้าอธิการจีรศักดิ์ จิรธัมโม เจ้าคณะตำบลกังแกน (เจ้าอาวาสวัดป่าตาลวก) ได้กล่าวว่า ด้านหน้าวัดที่ทุกคนเห็นที่มีองค์พระขนาดใหญ่ ลักษณะคล้ายปราสาทหินแบบขอมโบราณนั้น ตอนนี้ยังเป็นวิหารอยู่ ซึ่งกำลังดำเนินการขอวิสุงคามสีมา เพื่อยกระดับให้เป็นอุโบสถต่อไป ซึ่งแนวคิดที่สร้างรูปแบบเช่นนี้เพราะว่า ในเขตพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ได้รับอิทธิพลมาจากอารยธรรมขอม จึงอยากจะรักษาศิลปะนี้ไว้ให้คนทั่วไปที่ได้มาจังหวัดสุรินทร์ หรือในเขตอีสานใต้เรา ได้เห็นในสิ่งที่เรามี มีทั้งปราสาท มีทั้งของเก่าแก่ ในส่วนของการตกแต่งภายในนั้น จะประดับไปด้วยพระพุทธรูปองค์เล็กๆ ที่ผู้มิจิตศรัทธาจากทั่วโลกนำมาถวาย
ช่วงบ่ายจะเป็นพิธีฌาปนกิจ ตาเจ๊ก(ภาษาเขมรท้องถิ่นคือกล้วย) ยายกล้วย ที่ธรรมสถานฌาปนกิจ (เมรุ) หลังใหม่ ที่มีอุบาสกอุบาสิกาดำเนินการจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นประโยชน์ในการใช้ประกอบพิธีฌาปนกิจศพตามประเพณี โดยเริ่มสร้างขึ้นตั้งแต่ปี พ.ศ.2566 ในงบประมาณ 2 ล้าน 7 แสนกว่าบาท ซึ่งวันนี้มี ดร.นพพล ศรีสุข ที่ปรึกษาประธานรัฐสภากิตติมศักดิ์ เดินทางมาเป็นประธานในพิธีฉลองเมรุใหม่ โดยจัดคล้ายกับงานศพทุกอย่าง ต่างเพียงนำต้นกล้วยมาใส่ในโลงแทนศพ โดยเหตุผลที่เลือกต้นกล้วยเพราะมีน้ำอยู่ในลำต้นมากเปรียบเสมือนเลือดคน เพื่อเป็นการทดสอบว่าเมรุหลังใหม่สามารถใช้งานได้จริงหรือไม่ อีกทั้งยังเป็นการถือปฏิบัติมาแต่โบราณ เมื่อมีการสร้างเมรุใหม่แล้วเสร็จ จะต้องประกอบพิธีดังกล่าวก่อน
ถือเป็นไฮไลท์…ทุกคนที่เดินทางเข้ามาร่วมพิธีที่วัดแห่งนี้ ต่างต้องสะดุดตากับรูปทรงของเมรุ ที่ทุกคนมักจะมองว่า เป็นสิ่งที่น่ากลัว ไม่น่าเข้าใกล้ แต่ไม่ใช่ที่วัดแห่งนี้ โดยได้สร้างเมรุที่มีลักษณะเป็นสถาปัตยกรรมแบบขอมโบราณ ที่ดูเหมือนเป็นปราสาทหินตามแหล่งท่องเที่ยวต่างๆ เพราะ เจ้าอธิการจีรศักดิ์ จิรธัมโม เจ้าคณะตำบลกังแกน (เจ้าอาวาสวัดป่าตาลวก) ไม่อยากให้ทุกคนที่มาส่งร่างไร้วิญญาณของญาติสนิทมิตรสหาย เกิดความเศร้าหมอง และยังเป็นรูปลักษณ์ที่แปลกใหม่ ไม่มีที่ไหนมาก่อน ถือเป็นแห่งแรกและแห่งเดียวในโลกเลยก็ว่าได้
เจ้าอธิการจีรศักดิ์ ยังกล่าวต่ออีกว่า สำหรับเมรุที่มีลักษณะคล้ายปราสาทหินนั้น ทุกคนมักจะมองว่า เมรุ เป็นสิ่งที่น่ากลัว ไม่น่าจะเข้าใกล้ แต่อาตมามองว่า เมรุเป็นที่สงบที่สุด เป็นสถานที่ ที่ไม่มีใครไปรบกวน อาตมาจึงมีแนวคิดที่ว่า ไม่อยากให้ทุกคนที่มาส่งร่างไร้วิญญาณของญาติสนิทมิตรสหายของเราเศร้าหมอง และยังเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมอีกด้วย สุดท้ายอาตมาขอขอบคุณท่านทั้งหลายที่ได้มาร่วมสร้าง มาเยี่ยมเยือนวัดป่าตาลวก ซึ่งถือว่าเป็นสถานที่ให้ออกซิเจนของศรัทธาญาติโยม เหมือนเป็นอาหารใจ ท่านอาจจะมีความทุกข์ ก็มานั่งในวิหารพิจารณาการเกิดขึ้น ตั้งอยู่ ดับไป ทำให้จิตใจสงบ โดยทางวัดนั้น มีที่พักรับรองสำหรับญาติโยมที่มาเยี่ยมเยือน หรือมาปฏิบัติธรรม และไม่ได้จำกัดว่าผู้ที่มาปฏิบัติธรรมจะต้องเป็นใครมาจากไหน สามารถเดินทางมาได้หมด โดยอยากให้ถือว่าเป็นการตอบแทนศรัทธาญาติโยม ที่ให้ข้าวให้น้ำกับทางวัด เพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป
วรกิตติ์ เครือศรี จ.สุรินทร์/0987714913
Discussion about this post