วันนี้ (9 มี.ค.68) เวลา 06.00 น. นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 10,000 รูป สมโภชเมืองนครราชสีมา 557 ปี ถวายเป็นพุทธบูชา น้อมถวายเป็นพระราชกุศลแด่สมเด็จพระบรมไตรโลกนาถ สมเด็จพระนารายณ์มหาราช ผู้สถาปนาเมืองนครราชสีมา พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร อุทิศส่วนกุศลแด่ท้าวสุรนารี วีรสตรีเมืองโคราช และผู้มีอุปการคุณต่อประเทศชาติพระพุทธศาสนาและแผ่นดิน โดยได้รับความเมตตาจาก พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา พร้อมด้วย พระราชวชิราลังการ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา(ธ) เป็นประธานสงฆ์ และได้รับเกียรติจาก นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เป็นผู้กล่าวต้อนรับ ณ อนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี ต.ในเมือง อ.เมืองฯ จ.นครราชสีมา
ภายในงานพุทธศาสนิกชนหลายหมื่นคนได้ร่วมกันกล่าวคำแสดงตนเป็นพุทธมามกะ อาราธนาศีล 5 บำเพ็ญทักษิณานุปทาน คณะสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์สมโภชเมืองนครราชสีมา จากนั้นเป็นพิธีตักบาตรพระสงฆ์ 10,000 รูป และอปโลกน์สังฆทาน เพื่อนำข้าวสารอาหารแห้งที่ได้จากการบิณฑบาตในครั้งนี้ไปบรรเทาความเดือดร้อนของคณะสงฆ์ 323 วัดใน 4 จังหวัดภาคใต้ พร้อมทั้งช่วยเหลือครูและทหารที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่เสี่ยงภัยภาคใต้ และมอบช่วยเหลือประชาชนในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมาที่ประสบความเดือดร้อนจากภัยต่างๆ เป็นสาธารณะสงเคราะห์อีกด้วย
พระเทพสีมาภรณ์ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา กล่าวว่า การทำบุญตักบาตรเป็นอริยประเพณี มีอานิสงส์ยิ่งใหญ่ เป็นการแสดงออกซึ่งความสามัคคีของชาวพุทธ มีอานิสงส์คือจะเจริญด้วยโภคทรัพย์ และที่เราชักชวนกันทำบุญยังเป็นการสร้างบริวารสมบัติ การทำบุญกับพระ 10,000 รูปนี้หาโอกาสได้ยาก เพราะฉะนั้นมหาทานบุญใหญ่อย่างนี้ปีหนึ่งมีเพียงครั้งเดียว ขออนุโมทนากับทุกท่านที่มีส่วนร่วมในมหาทานกุศลครั้งนี้
พระราชวชิราลังการ เจ้าคณะจังหวัดนครราชสีมา(ธ) กล่าวว่า การทำบุญตักบาตรพระหมื่นรูปนี้ทำให้เกิดความมั่นคงของพุทธศาสนา เกิดขึ้นด้วยศรัทธาและความร่วมมือของทุกส่วนทั้งคณะสงฆ์และฆราวาสญาติโยมเป็นสิ่งที่น่าอนุโมทนาอย่างยิ่ง
นางสาวสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ปฎิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี กล่าวว่าวันนี้นายกรัฐมนตรีมอบหมายให้ดิฉันมาร่วมบุญใหญ่กับชาวโคราช ซึ่งคณะสงฆ์ ภาครัฐและภาคเอกชนในจังหวัดจังหวัดนครราชสีมาได้จัดทำบุญกับคณะสงฆ์จำนวนมากเป็นประเพณีต่อเนื่องมาหลายปี และตั้งใจจัดต่อเนื้่องในปีต่อๆไป เป็นกิจกรรมที่บ่งบอกถึงความเอื้ออาทร และเชื่อมโยงกันระหว่างคณะสงฆ์ และพุทธศาสนิกชน ที่เดินทางมาร่วมงานจากหลายจังหวัด ส่งผลให้เกิดกระแสรักษ์บ้านเกิด ความกตัญญูต่อบรรพชนที่เสียสละกล้าหาญรักษาผืนแผ่นดินไว้คู่กับพระพุทธศาสนา เป็นแบบอย่างที่ดีแก่ประชาชนสืบไป
Discussion about this post