นราธิวาส/ข่าว-ซาการียา ดอเลาะ
สำหรับความคืบหน้ากรณีเกิดเหตุสะพานข้ามคลองไอร์บือแต ม.4 ต.ช้างเผือก อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ได้เกิดการทรุดตัว ทำให้เกิดอุบัติเหตุรถยนต์กระบะ จำนวน 1 คัน และรถจักรยานยนต์ จำนวน 1 คัน ตกลงจากคอสะพานเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 1 ราย คือ นายอามัน เจ๊ะมะ ซึ่งขี่รถ จยย.และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 3 ราย คือ นายแวอิสมะแอ มะ นายมะรอวี มะลีรอแน และนายอัสรี ยูโซ๊ะ เหตุเกิดเมื่อเวลา 05.45 น.ของวันที่ 19 มี.ค.68 ที่ผ่านมานั้น
ล่าสุด พบว่าขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารพราน กรมทหารพรา 49 กำลังใช้อากาศยานไร้คนขับ หรือ โดรน บินสำรวจเหตุที่เกิดขึ้นที่บริเวณสะพานแห่งนี้ สามารถบันทึกภาพรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีเขียวไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน ที่มีนายแวอิสมาแอ มะ เป็นคนขับและมีนายอัสรี ยูโซ๊ะ นั่งคู่กันมาในห้องโดยสาร ได้วิ่งพุงจากหัวสะพานลงไปที่สะพานที่ทรุดและรถยนต์ได้ชนกับขอบสะพานที่ทรุดอย่างจัง จนทั้ง 2 คน ได้รับบาดเจ็บ ส่วนนายอามัน เจ๊ะมะ ที่ขี่รถ จยย.และนายมะรอวี มะลีรอแน คนนั่งซ้อนท้าย ได้เกิดอุบัติเหตุไปก่อนหน้านี้ ซึ่งคาดว่าทั้งรถยนต์กระบะและรถ จยย.วิ่งพุ่งลงไปที่สะพานทรุดแบบตั้งตัวไม่ทัน เนื่องจากในช่วงเวลาดังกล่าวมีทัศนวิสัยค่อยข้างมืด แถมเป็นคนนอกพื้นที่ที่ไม่คุ้นชินกับเส้นทาง จนเกิดอุบัติเหตุขึ้นดังกล่าว
และจากการติดตามสถานการณ์ที่บริเวณสะพานข้ามคลองไอร์บือแต ในวันนี้ พบว่า ทางเจ้าหน้าที่แขวงทางหลวงนราธิวาส ได้มีการใช้เครื่องจักรกลยกหรือเคลื่อนย้ายรถยนต์กระบะและรถจักรยานยนต์ ขึ้นมาจากสะพานที่ทรุดตัว และมีเจ้าหน้าที่การประปาส่วนภูมิภาค สาขารือเสาะ ได้เดินทางมาทำการซ่อมแซมท่อประปาที่ทรุดหรือหักจากผลพวงของสะพานที่ทรุดตัวลง เพื่อให้ประชาชนสามารถกลับมาใช้น้ำประปาได้ดั่งเดิม
ส่วนด้านแนวทางการช่วยเหลือในเบื้องต้นสำหรับผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกัน จ.นราธิวาส ให้การช่วยเหลือกรณีเสียชีวิตเป็นค่าปลงศพ เป็นเงิน 35,000 บาท (กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ) กรณีได้รับบาดเจ็บจ่ายค่ารักษาพยาบาลตามจริง ไม่เกิน 30,000 บาท (กองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถ)สำนักงาน ยุติธรรม จ.นราธิวาส ช่วยเหลือ ค่าตอบแทนกรณีเสียชีวิต ให้จ่ายตั้งแต่ 30,000 บาท แต่ไม่เกิน 100,000 บาท ค่าจัดการศพ จ่ายไม่เกิน 20,000 บาท ค่าขาดไร้อุปการะ จ่ายไม่เกิน 40,000 บาท ค่าตอบแทนความเสียหายอื่น จ่ายไม่เกิน 50,000 บาท กรณีได้รับบาดเจ็บ ค่ารักษาพยาบาลตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 40,000 บาท ค่าขาดประโยชน์ทำมาหาได้ ตามอัตราค่าแรงขั้นต่ำของจังหวัด จำนวนวันที่ไม่สามารถทำงานได้ตามปกติ เป็นระยะเวลาไม่เกิน 1 ปี และค่าตอบแทนความเสียหายอื่น ไม่เกิน 50,000 บาท
สำหรับการแก้ปัญหาสะพานที่ทรุดตัวในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้สรุป ให้ปิดเส้นทางจราจรติดตั้งป้ายเตือนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้ทางโดยไปใช้ทางเบี่ยง ซึ่งแขวงทางหลวงนราธิวาสร่วมกับองค์การบริหารส่วนตำบลช้างเผือก จะใช้เส้นทางเบี่ยงบ้านไอร์บือแต ซึ่งห่างจากสะพานที่ทรุดตัวประมาณ 500 เมตร ถนนกว้าง 4 เมตร มีระยะทางยาวประมาณ 1 ก.ม. ซึ่งเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องต้องมีการขยายเส้นทางเบี่ยงที่คับแคบ เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้ใช้เส้นทาง นอกจากนี้ได้ขอรับการสนับสนุนติดตั้งสะพานชั่วคราว จากกองพันทหารช่างที่ 15 ค่ายพญาอินทิรา จ.ปัตตานี โดยเจ้าหน้าที่ทหารจะเข้ามาสำรวจว่าสามารถติดตั้งสะพานแบริ่ง หรือ MODULAT FAST BRIDGE ( MFB ) ได้หรือไม่ เพื่อช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรในเส้นทางดังกล่าว ในระหว่างการซ่อมแซมสะพานให้กลับมาใช้งานได้ดั่งเดิม
ด้านอับดุลเลาะ สือแม นายก อบต.ช้างเผือก กล่าวว่า ขณะนี้บ้านไอร์บือแตเส้นทางที่สัญจรไปมา ทำให้เส้นทางอัมพาตไม่สามารถสัญจรไปมาได้ แต่ก็ยังโชคดีที่เส้นทางนั้นยังมีเส้นทางที่สามารถเบี่ยงได้ แต่ขนาดของถนนความกว้างแค่ 4 เมตร ซึ่งไม่กว้างพอ ซึ่งขณะนี้ได้ขอกับแขวงการทางแล้วให้ขยายให้กว้าง อีกทั้งได้คุยกับชาวบ้านแล้วซึ่งชาวบ้านเองก็ยินดีที่จะให้เปิดเส้นทางให้กว้างเพื่อใช้สัญจรไป-มา และอีกอย่างเป็นถนนที่ต้องใช้สัญจรไปมามากพอสมควร จากอำเภอศรีสาครไปยังอำเภอจะแนะ ซึ่งถ้าประเมินตามเหตุการณ์ของสะพานที่ล่มนั้น ซึ่งสะพานนั้นก็ใช้งานร่วมระยะเวลากว่า 30 ปีแล้ว และคาดการณ์ว่าน่าจะต้องก่อสร้างใหม่ และก็ต้องใช้เวลาเวลานานพอสมควรกว่าจะเสร็จสมบูรณ์ ซึ่งในขณะนี้มีเส้นทางเบี่ยงได้คาดว่าสะพานแบริ่งก็ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ เพียงแต่ว่าอยากให้ทางแขวงการทางมาเปิดเส้นทางให้กว้างขึ้นเพื่อให้สัญจรไป-มาสะดวกขึ้น ซึ่งในพื้นที่แห่งนี้เมื่อสองปีที่แล้วจากอุทกภัยน้ำท่วมค่อนข้างที่จะหนักมากมา 2 ปี ซ้อน ซึ่งก็อยากจะให้ทางทางหลวงแขวงการทางอยากให้มาสำรวจและตรวจสอบและประเมินแต่ละสะพาน เพื่อไม่ให้เหตุการณ์แบบนี้ซ้ำรอยเกิดขึ้นอีก
ด้านนางคอลีเยาะ วิชา ชาวบ้านไอร์บือแต กล่าวว่า จากกรณีเหตุสะพานทรุดได้ยินเสียงดังมากคล้ายระเบิด ตอนตี 5.40 น.มันยังมืดมากวิ่งออกมาดู มีรถลงไปแล้วมีศพแล้ว ตอนที่ก๊ะไปมีทั้งรถยนต์รถมอเตอร์ไซด์อยู่ในนั้นแล้ว ส่วนข้อซักถามเกี่ยวกับชาวบ้านที่สัญจรไปมานั้น นางคอลีเยาะ กล่าวว่า ต้องรอทางโน้นเขามาทำมันลำบาก จะไปทางเบี่ยงเส้นทางมันแคบถามว่าไกลมั๊ยมันไม่ไกลเท่าไรแต่ต้องวิ่งเรียบแม่น้ำ สะพานมันแคบรถ10ล้อรถพวงมันเข้าไม่ได้ สะพานนี้มันถึงอายุมันแล้วตั้ง 30 ปี สะพานทางเบี่ยงก็เหมือนกันเขาสร้างพร้อมกัน อยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวมารีบดำเนินการให้โดยเร็ว ชาวบ้านเขากลัวกันหมดแล้ว ไม่ใช่เฉพาะสะพานนี้สะพานทางเบี่ยงก็เริ่มทรุดเหมือนกัน สะพานนี้ก่อนหน้านี้น้ำมันกัดเซาะหัวกับท้ายและเสาตอหม้อตรงกลาง 4 ต้นมันลอยแล้วเป็นปีแล้ว แฟนที่บ้านแกรู่เพราะแกมาบุกเบิกโรงเรียนที่นี่ แกบอกว่า 30 ปี มันหมดอายุใช้งานแล้ว นั่งคุยกับแกไปส่งปาล์มทางโน้นสะพานมันทรุดเหมือนกัน บอกว่าเธออย่างไปทางนี้มันน่ากลัว แกบอกว่ามันไม่น่ากลัวเหมือนกับสะพานที่บ้าน พอหัวรุ่งสะพานทางนี้หล่นกลัวๆมาก
ด้าน น.ส.ณัชชา หนูเกลือ ชาวบ้านไอร์บือแต กล่าวว่า บ้านหนูอยู่ก่อนถึงสะพานที่สามแยก ได้เดินทางเบี่ยงมาอีกทางซึ่งเป็นทางลัดไม่ไกลประมาณ 10 นาที อยากให้เสร้างสะพานให้เสร็จเร็วๆ เพราะมีคนใช้รถมาก ทางโน้นซึ่งเป็นทางเบี่ยงทางก็เล็ก
