ความคืบหน้ากรณีโปรกอล์ฟร้องสื่อมวลชนเพื่อร้องขอให้หน่วยงานภาครัฐเข้าตรวจสอบสนามกอล์ฟชื่อดัง เนื่องจากนักธุรกิจซึ่งเป็นชาวพม่าที่มาเช่าสนามนำแรงงานชาวพม่าด้วยกันมาเป็นแคดดี้ รวมถึงหมอนวด สำหรับให้บริการนักกอล์ฟชาวเกาหลีใต้โดยเฉพาะ ส่งผลให้แคดดี้ที่เป็นชาวบ้านในพื้นที่ได้รับความเดือดร้อน ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วเมื่อวันที่ 5 พ.ค.ที่ผ่านมานั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีข้างต้น เมื่อวันที่ 6 พ.ค.68 ที่ผ่านมา นายอธิสรรค์ อินทร์ตรา ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรี ได้มอบหมายให้นายมนต์ชัย เดชพล แรงงานจังหวัดกาญจนบุรี ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหมดเข้าประชุมหารือและวางแผนนำกำลังเข้าตรวจสอบ ซึ่งประกอบไปด้วย ตม.จว.กาญจนบุรี ,กอ.รมน.กาญจนบุรี ,กรมแรงงาน จ.กาญจนบุรี ,กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จว.กาญจนบุรี, ตำรวจท่องเที่ยว จ.กาญจนบุรี , ตำรวจภูธรจังหวัดกาญจนบุรี และเจ้าหน้าที่ ตร.สภ.ลาดหญ้า การประชุมเริ่มในเวลา 09.30 น.
จากการประชุมหารือกันในส่วนตำแหน่งงานที่เป็นแคดดี้ พบว่าตำแหน่งงานดังกล่าวไม่อยู่ในงานห้ามคนต่างด้าวทำตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าวพ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ดังนั้นหากพบคนต่างด้าวทำงานและมีใบอนุญาตทำงาน ก็สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องมาเปลี่ยนประเภทงาน เนื่องจากงานดังกล่าวไม่อยู่ในงานห้ามตามกฎหมาย
จากนั้นเวลา 13.30 น.คณะเจ้าหน้าที่ทั้งหมดได้เดินทางไปยังสนามกอล์ฟที่ได้รับการร้องเรียนจากการตรวจสอบพบคนงานชาวไทย จำนวน 8 คน และแรงงานชาวเมียนมาทั้งชายหญิงมีทั้งทำหน้าที่เป็นแคดดี้ และใช้แรงงานอื่นๆทั้งหมด จำนวน 168 คน จากการตรวจสอบเอกสารปรากฎว่า แรงงานจำนวน 167 คน มีใบอนุญาตให้ทำงานถูกต้องตาม พ.ร.บ.การทำงานของบุคคลต่างด้าว พ.ศ.2551 ส่วนแรงงานชาวเมียนมาที่เป็นแคดดี้นั้นไม่อยู่ในงานห้ามของคนต่างด้าว ตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ.2560 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2 พ.ศ.2561) จึงสามารถทำงานเป็นแคดดี้ได้
ส่วนแรงงานชาวพม่าอีก 1 คน เป็นชาย อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นลูกชายของแรงงานชาวพม่า มีหนังสือเดินทางถูกต้องตามกฎหมาย แต่ชายรายดังกล่าวนั้น ไม่ได้แจ้งสถานที่พักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ทั้งๆที่อาศัยอยู่ในจังหวัดกาญจนบุรีมานาน 8 เดือนแล้ว
ซึ่งผู้ต้องหายอมรับสารภาพ เจ้าหน้าที่ ตม.จังหวัดกาญจนบุรี จึงนำตัวไปเนินคดีในข้อกล่าวหา เป็นบุคคลต่างด้าวไม่แจ้งที่พักอาศัยต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในยี่สิบสี่ชั่วโมง ตามมาตรา 37(2)แห่ง พรบ.คนเข้าเมือง พ.ศ.2522 ปรับเป็นเงินจำนวน 4,000 บาท พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายที่เกี่ยวข้อต่อไป
///////////////////////////////////////////////////
ข่าวภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์
