อบจ. เอ็มโอยู ทส. ฝึกอบรมนักบิน ช่างเครื่อง ซ่อมบำรุงอากาศยานหลังมีแผนซื้อ ฮ. มูลค่า 200 ล้านใช้ภารกิจไฟป่าหมอกควัน-เหตุฉุกเฉิน

วันที่ 16 พฤษภาคม 2568 ที่สวนรถไฟ อบจ.เชียงใหม่ นายพิชัย เลิศพงศ์อดิศร หรือ ส.ว.ก๊อง นายก อบจ.เชียงใหม่ เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือป้องกันแก้ไขปัญหาไฟป่าและภัยพิบัติ เหตุฉุกเฉินโดยใช้อากาศ ยานพื้นที่ จ.เชียงใหม่ หรือเอ็มโอยู กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยนายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวง ทส. นายศิวะ ธมิกานนท์ รองผวจ.เชียงใหม่ และนพ.วรัญญู จำนองประสาทพร นายแพทย์สาธารณสุข จ.เชียงใหม่ รวม 4 หน่วยงาน

นายพิชัย กล่าวว่า จังหวัดเผชิญกับความเสี่ยงจากปัญหาไฟป่า หมอกควัน (PM 2.5) ภัยพิบัติ
อย่างต่อเนื่อง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตของประชาชน การลงนาม MOU ดังกล่าว ถือเป็น
ก้าวสำคัญในการยกระดับการบริหารจัดการภัยพิบัติ โดยเป็นการผนึกกำลังทรัพยากรเทคโนโลยี องค์ความรู้จากทุกภาคส่วน เพื่อสร้างกลไกที่มีประสิทธิภาพรับมือกับสถานการณ์ฉุกเฉิน รวมถึงช่วยเหลือประชาชน การกู้ภัย และการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยฉุกเฉินในพื้นที่ทุรกันดารด้วยอากาศยาน

“เอ็มโอยู มีเป้าหมายเพื่อเสริมสร้างศักยภาพของจังหวัดเพื่อตอบสนองต่อสถานการณ์ฉุกเฉินอย่างรวดเร็ว มีประสิทธิภาพ โดยเฉพาะพื้นที่ที่เข้าถึงยาก การบูร ณาการใช้อากาศยาน เพื่อช่วยปฏิบัติภารกิจเป็นไปอย่างคล่องตัวและทันท่วงที ลดความสูญเสียและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างครอบคลุมซึ่งแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของจังหวัด ที่ให้ความสำคัญกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยพิบัติอย่างเป็นระบบ และพร้อมที่เทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่มาประยุกต์ใช้เพื่อความปลอดภัย และความเป็นอยู่ที่ดีประชาชนด้วย

นายจตุพร กล่าวว่า ทส. พร้อมสนับสนุนเอ็มโอยูดังกล่าว โดยให้ อบจ.มีส่วนร่วมอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพร้อมใช้ทรัพยากรของรัฐและท้องถิ่นร่วมกัน โดยสนับสนุนอบจ. จัดซื้ออากาศยาน หรือเฮลิคอปเตอร์ เพื่อใช้บินสำรวจไฟป่าหมอกควันที่สร้าง pm 2.5การโปรยน้ำดับไฟป่า โดย ทส.ดำเนินการฝึกอบรมนักบิน ที่ศูนย์ฝึกบนเครื่องจำลองที่นครสวรรค์ ช่างซ่อมบำรุง และการบำรุงรักษา พร้อมฝึกปฏิบัติภารกิจที่ศูนย์การบินไฟป่าภาคเหนือที่ จ.เชียงใหม่ ซึ่งใช้เวลาดำเนินการกว่า 1.6 ปี หรือปีครึ่ง เพื่อเตรียมความพร้อมเรื่องดังกล่าว

“เฮลิคอปเตอร์มีหลายรุ่นหลายแบบ ซึ่ง อบจ. มีความประสงค์จะซื้อแบบ ทส. ใช้ ซึ่งเป็นแบบเอนกประสงค์ สามารถทำภารกิจ 2 ทาง คือ เรื่องไฟป่าหมอกควัน กับเหตุภัยพิบัติ โดยเฉพาะการลำเลียงผู้ป่วยที่อยู่ห่างไกลจากถิ่นทุรกันดาน มายังโรงพยาบาลในตัวเมืองเชียงใหม่ เพราะมีถึง 25 อำเภอ ตั้งแต่ อ.แม่อายจนถึง อ อมก๋อย ส่วนมูลค่า ฮ.แบบเอนกประสงค์ ราคาไม่ต่ำกว่า 200 ล้านบาท/ลำ” นายจตุพร กล่าว