ศาลนนทบุรีอ่านคำพิพากษาคดีการเสียชีวิตของ “แตงโม นิดา” แม่ยืนยันให้อภัยทุกคน ด้าน “แซน” ลั่นถึงเวลาสิ้นสุดข่าวลวง

วันนี้ (23 พ.ค.68) ศาลจังหวัดนนทบุรี นัดอ่านคำพิพากษาในคดีการเสียชีวิตของนางสาวนิดา พัชรวีระพงษ์ หรือ “แตงโม” นักแสดงชื่อดัง ซึ่งตกเรือเสียชีวิตเมื่อปี 2565 โดยในวันนี้มีจำเลย 4 รายเข้ารับฟังคำพิพากษา ได้แก่ นางอิจศรินทร์ จุฑาสุขสวัสดิ์ (กระติก), นางสาววิศาพัช มโนมัยรัตน์ (แซน), นายณิทัศน์ กีรติสุทธิสาธร (จ๊อบ) และนายธรรมธีรศรี หรือ “เอ็ม” ซึ่งทั้งหมดถูกกล่าวหาในข้อหา “กระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย”

ตั้งแต่ช่วงเช้า กระติกเดินทางมาถึงศาลเป็นคนแรก โดยมาพร้อมทนายความ และแม้จะไม่ให้สัมภาษณ์ แต่แสดงท่าทีเป็นมิตรด้วยการยิ้มทักทายสื่อมวลชน จากนั้นจ๊อบและแซนเดินทางมาถึงตามลำดับ ขณะที่แม่ของแตงโม นางภนิดา ศิระยุทธโยธิน มาถึงศาลโดยไม่ให้สัมภาษณ์เช่นกัน

โดยทนายเดชา กิตติวิทยานันท์ ผู้รับผิดชอบคดีในส่วนของแม่แตงโม ให้สัมภาษณ์ว่า คดีนี้อยู่ในดุลยพินิจของศาลว่าจะตัดสินว่าเป็นอุบัติเหตุ ประมาท หรือเกี่ยวพันกับข้อหาอื่น เช่น การแจ้งความเท็จหรือทำลายพยานหลักฐานหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เขายืนยันว่ามีความมั่นใจในพยานหลักฐานที่จัดทำโดยตำรวจภูธรภาค 1 และสำนักงานอัยการ

ทนายเดชาเปิดเผยเพิ่มเติมว่า แม่ของแตงโมไม่ได้โกรธแค้นผู้ใด และพร้อมยอมรับคำตัดสินของศาล โดยมีท่าทีให้อภัยทุกคนที่เกี่ยวข้องในคดี และยังไม่มีการติดต่อใดๆ จากจำเลยนอกจากแซน ที่เคยแสดงความรับผิดชอบด้วยการวางเงินชดเชยต่อศาลจำนวน 100,000 บาท

ด้านแซน วิศาพัช ให้สัมภาษณ์ว่า แม้จะรู้สึกตื่นเต้น แต่ไม่ได้กังวลใจกับคำพิพากษา เพราะเชื่อมั่นในข้อเท็จจริงและพร้อมรับผลลัพธ์ไม่ว่าจะออกมาในทางใด เธอกล่าวอีกว่า ตลอดเวลาที่ผ่านมาถูกกระแสข่าวลวงโจมตีอย่างต่อเนื่อง และรู้สึกว่า “วันนี้คือจุดจบของข่าวปลอม” พร้อมระบุว่าไม่ได้เชื่อเรื่องลี้ลับ และไม่เคยรู้สึกถึงแตงโมแม้แต่น้อย แต่ได้ทำบุญให้ตลอด

แซนยังกล่าวถึงกรณีกลุ่มอินฟลูเอนเซอร์ยื่นเรื่องต่อ DSI ว่า ไม่รู้สึกกังวล เพราะมองว่าไม่ได้มีน้ำหนักในกระบวนการยุติธรรม พร้อมย้ำว่าไม่ได้มีการกระทำผิดในวันเกิดเหตุ

ขณะที่ทนายพรศักดิ์ วิภาสอาภานนท์ หรือ “ทนายตุ๋ย” ตัวแทนฝ่ายจำเลย ระบุว่า ทุกจำเลยพร้อมรับฟังคำพิพากษา และหากมีการตัดสินออกมาอย่างไรก็พร้อมดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เช่น อุทธรณ์หรือฎีกา โดยในคดีนี้ จำเลยทุกคนยืนยันว่าตนเองเป็นเพียงผู้โดยสาร ไม่มีบทบาทในเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการเสียชีวิต ซึ่งเป็นประเด็นที่ใช้ในการต่อสู้คดีมาตลอด