เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 23 พฤษภาคม 2568 ที่สถานีตำรวจภูธรวังชิ้น จังหวัดแพร่นายสุเทพ สร้อยป่า อายุ 57 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ นำ นางยวง ไชยวุฒิ อายุ 76 ปี บ้านเลขที่ 222/1 บ้านแม่ป้าก หมู่ 4 ตำบลแม่ป้าก อำเภอวังชิ้น จังหวัดแพร่ เข้าพบ พ.ต.ท.จีรศักดิ์ นาคำ พนักงานสอบสวน สภ. วังชิ้น เพื่อให้หลักฐานเพิ่มเติม กรณี ใช้เอกสารเท็จ ลงชื่อถอดถอนผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 4 คือ นายสุเทพ สร้อยปา ไปแล้วนั้นและขณะนี้กำลังอยู่ในชั้นสอบสวนของคณะกรรมการระดับจังหวัด

ล่าสุด มีหนังสือของคณะกรรมการสอบสวนระดับจังหวัด เพื่อมาสอบถามข้อเท็จจริงปรากฏว่า หนังสือของทางราชการไม่ถึงมือ นางยวง ไชยวุฒิ แต่อย่างใด โดยมีกลุ่มคนในหมู่บ้าน โดยถือวิสาสะเปิดหนังสือของคนอื่น ทั้งที่มีการระบุชื่อเสียงเรียงนามที่ชัดเจน และมีการนำลงรายละเอียดในเอกสารว่า ยืนยันตามเจตนาเดิมคือ ต้องการไล่ผู้ใหญ่บ้าน (นายสุเทพ สร้อยปา)
ซึ่งนางยวงฯ ได้ยืนยันว่า ตนไม่มีเจตนา ไล่ผู้ใหญ่บ้านออก ตั้งแต่ครั้งแรก และได้มาแจ้งความไว้ที่ สภ. วังชิ้นเป็นหลักฐานไว้ก่อนแล้ว ว่า เอกสารที่ลงนามขับไล่ผู้ใหญ่บ้านนั้นเป็นเท็จ
และมาครั้งนี้ซึ่งเป็นเอกสารของทางจังหวัด ที่จะให้ยืนยันในการขับไล่ผู้ใหญ่ ซึ่งตนก็ไม่มีเจตนาดังกล่าว จึงได้นำความพร้อมหลักฐานมาแก้ต่อพนักงานสอบสวนประกอบกับคดีเดิม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า แม้ว่าเป็นหนังสือของคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงจากจังหวัดแพร่ มาถึงนางยวงฯแต่ในกระบวนการส่งหนังสือไม่ถึงผู้รับกับมีบุคคลกลุ่มหนึ่งได้เปิดอ่าน แล้วใส่ข้อมูลอันบิดเบือน ซึ่งเป็นการใช้ข้อมูลอันเป็นเท็จ
จากกรณีส่งหนังสือดังกล่าว ไม่เพียงแต่นางยวงเท่านั้น ที่ถูกเปลี่ยนแปลงข้อมูล ยังมีชาวบ้านใน หมู่ 4 ที่มีรายชื่อ ขับไล่ถอดถอน ผู้ใหญ่บ้านอีกจำนวนมากที่ได้รับหนังสือการสอบสวนของคณะกรรมการระดับจังหวัด เจ้าของหนังสือ เป็นผู้สูงอายุ และเป็นผู้อ่านหนังสือไม่เก่ง มีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลอันเป็นเท็จ มีเจตนาต่อข้อสงสัยของคณะกรรมการสอบสวน
ในรื่องนี้หนังสือของคณะกรรมการระดับจังหวัดแพร่ ส่งผ่านทางระบบของไปรษณีย์ สาขาอำเภอวังชิ้น แต่บุรุษไปรษณีย์มิได้นำส่งไปยังผู้รับโดยตรง แต่ไปส่งรวมไว้ที่บ้านผู้ใหญ่บ้านคนปัจจุบัน ทำให้มีกลุ่มบุคคลได้เปิดอ่าน และมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูล ในเรื่องนี้
ทางนายสุเทพ สร้อยปา อดีตผู้ใหญ่บ้านหมู่ 4 ผู้เสียหาย ได้นำหลักฐานส่งต่อศาลปกครองเชียงใหม่เพิ่มเติมไปแล้ว เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งทางศาลปกครองฯ ได้มีหนังสือตอบรับการเพิ่มเติมเอกสาร ร้องต่อศาลปกครองแล้ว
ทางด้าน ว่าที่ร้อยตรีภาคิน ชมภูพันธ์ ทนายผู้ดูแลคดีดังกล่าว เปิดเผยว่า การร้องขอความเป็นธรรมของนายสุเทพ สร้อยปา ไปถึงผู้ว่าราชการจังหวัดแพร่และร้องต่อศาลปกครอง เป็นส่วนหนึ่ง ที่เป็นสิทสิทธิ ของผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมที่จะดำเนินการ
“ในคดีที่ได้แจ้งความร้องทุกข์ไว้ถ้าหากทางพนักงานสอบสวนสภ.วังชิ้น มีความเห็นเป็นอย่างอื่นหรือสั่งไม่ฟ้องผู้ถูกกล่าวหา ทางเสียหายจะได้ใช้สิทธิ์ที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุดกับผู้ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมายด้วยตนเองต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กรณีดังกล่าว น่าจะมีเบื้องหน้าเบื้องหลังทางการเมืองหรือไม่ ที่ผ่านมารวมถึงความขัดแย้งของการเมือง ที่ต้องการแผ่ขยายอิทธิพลในชุมชน จึงทำให้เกิดความแตกแยกประกอบกับอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ถูกถอดถอนดังกล่าว เป็นผู้ที่ทำงานด้านการปราบปรามยาเสพติดในระดับอำเภอ จนได้รับรางวัลในระดับภาคเหนือมาแล้ว
ซึ่งแหล่งข่าวกล่าวว่า ทางพนักงานสอบสวนไม่สามารถสรุปสำนวนได้ ซึ่งข้อมูลทางฝ่ายปกครองอำเภอวังชิ้งชิ้นยังไม่ส่งเอกสารหลักฐาน การลงนามถอดถอนผู้ใหญ่บ้าน ที่มีรายชื่อชาวบ้านในหมู่บ้านลงนามให้กับพนักงานสอบสวน จึงทำให้การดำเนินคดีล่าช้า และมีการขอเจรจาไกล่เกลี่ยกับอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ถูกถอดถอน ยกคำร้อง ถอนแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน
แต่ทางอดีตผู้ใหญ่บ้านที่ถูกถอดถอน คือ นายสุเทพ สร้อยปา ยืนยันจะดำเนินคดีให้เห็นถึงกลไกลการทุจริตในระบบราชการมหาดไทยในจังหวัดแพร่ให้ถึงที่สุด
ธีรพงษ์ ธงออน/แพร่
061-595-5297
Discussion about this post