
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากกรณีชาวบ้านพบช้างป่าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระเสียชีวิตอยู่ชายไร่ของชาวบ้านในพื้นที่บ้านทุ่งนา หมู่ 4 ต.หนองเป็ด อ.ศรีสวัสดิ์ จ.กาญจนบุรี เมื่อช่วงเช้าวันนี้ 28 พ.ค.68 โดยนายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) นายมานะ เพิ่มพูล ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สั่งการให้คณะสัตวแพทย์สังกัดสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง)เดินทางลงพื้นที่เพื่อทำการผ่าพิสูจน์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริง ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุดเมื่อเวลา 17.30 น.นายชุติเดช กมนณชนุตม์ ผู้อำนวยการสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 (บ้านโป่ง) ได้รับรายงานจากนายประวุธ เปรมปรีดิ์ หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ว่าเจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ ร่วมกับ เจ้าหน้าที่ฝ่ายจัดการสุขภาพและคลินิกสัตว์ป่า ส่วนอนุรักษ์สัตว์ป่า สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ 3 (บ้านโป่ง) เข้าทำการตรวจสอบ กรณีพบซากช้างป่าตายอยู่บริเวณไร่ตาป่า หมู่ที่ 4 ตำบลหนองเป็ด อำเภอศรีสวัสดิ์ จังหวัดกาญจนบุรี โดยได้รับแจ้งจากนายมานิต มุกสิกบุตร ชาวบ้านในพื้นที่ แจ้งว่าได้ยินเสียงช้างร้อง 2-3 ตัว ในช่วงกลางคืน
ช่วงเช้าจึงเข้าตรวจสอบยังพบช้างป่าตัวดังกล่าวพยายามจะลุกยืนแต่ต่อมามีอาการดิ้นและชักจนตาย จุดพบซากช้างตายอยู่นอกเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ พิกัดที่ 47P 0518525E 1602519N ตรวจสอบเบื้องต้นพบว่า เป็นช้างป่า เพศผู้ (สีดอ) อายุมากกว่า 60 ปี โดยประเมินจากรอยพับบริเวณใบหู ความยาวของเล็บเท้า และชุดฟันที่หลุดแล้ว
จากการตรวจสอบปรากฏบริเวณที่พบซากช้าง พบร่องรอยของช้างนอนดิ้นเป็นบริเวณกว้าง และพบร่องรอยช้างตัวอื่นประมาณ 2-3 ตัว อยู่ร่วมกัน เจ้าหน้าที่ได้ทำการตรวจสแกนด้วยเครื่องสแกนโลหะ พบวัตถุโลหะ(ลูกตะกั่ว) ตามลำตัวช้าง ฝังอยู่บนผิวหนังมาเป็นเวลานาน ซึ่งไม่เป็นผลทำให้ช้างป่าตัวดังกล่าวตายทันที อีกทั้งยังพบแผลเปิดขนาดประมาณ 7-10 เซนติเมตร จำนวน 3 แผล บริเวณขมับด้านขวาคาดว่าแผลดังกล่าวเป็นแผลเรื้อรัง อักเสบ มีหนอง และดินโคลน ทำให้เกิดการอักเสบบริเวณขมับด้านขวา เมื่อผ่าเปิดพบมีหนองบริเวณดังกล่าว จนเกิดภาวการณ์ติดเชื้อเข้าสู่กระแสเลือด
เจ้าหน้าที่ได้ทำการเก็บตัวอย่างชิ้นเนื้อ ตับ ม้าม ไต หัวใจ และปอด ส่งศูนย์ชันสูตรโรคภาคตะวันตก เพื่อตรวจชันสูตรหาเชื้อโรคต่อไป ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ทำการแจ้งความ ลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่สถานีตำรวจภูธรศรีสวัสดิ์ และได้ทำการย้ายซากจากตำแหน่งที่ช้างนอนตายมาทำการทำลายซากโดยวิธีการใช้รถแบคโฮทำการขุดหลุมฝังกลบ ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าสลักพระ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อโรคตามหลักวิชาการ ก่อนทำการฝังกลบเจ้าหน้าที่ได้นิมนต์พระสงฆ์ จำนวน 4 รูป มาทำพิธีทางศาสนา ตามความเชื่อ
///////////////////////////////////////////////////////////////
ข่าวภภูมิภาคกาญจนบุรี / ปรีชา ไหลวารินทร์