
วันที่ 29 พค.68 ผู้สื่อข่าวรับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 234 หมู่ที่ 5 ต.บ้านนา อ.กบินทร์บุรี จ.ปราจีนบุรี เจ้าของบ้านผวาเมื่อได้ยินเสียงหลานชายวัย2ขวบร้องกรี๊ดลั่นอยู่บ้านจึงรีบวิ่งออกมาดูหลานถึงกับยืนตลึงผวาตัวสั่น ภาพที่เห็นเบื้องหน้าเป็นงูตัวใหญ่เท่าแขนกำลังคาบคางคกอยู่ในปาก วินาทีนั้นรู้เลยว่าเป็นงูจงอางขนาดใหญ่เท่าแขนเกือบ2เมตร จึงรีบถอยออกห่าง แล้วรีบไปตามเพื่อนบ้านมาช่วย ซึ่งขณะนั้นเห็นงูตัวดังกล่าวอยู่ข้างตอต้นคูณหน้าบ้าน จากนั้นจึงขอกำลังเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยมูลนิธิสัจจะพุทธธรรมกบินทร์บุรี(แห่งประเทศไทย)มาช่วยจับงูตัวดังกล่าว เมื่อเจ้าหน้าที่มาถึงก็เห็นตัวงูและยืนยันว่างูที่เห็นเป็นงูจงอางของแทร่
ต่อมาได้นำรถแบคโฮขนาดเล็กมาขุดตอต้นคูณออกแต่ไม่พบตัวงูตัวดังกล่าว ไม่รู้ว่างูตัวดังกล่าวหายไปไหนซึ่งขณะที่รถแม็คโครขุดมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยฯ หลายคนยืนล้อมเป็นวงกลมเพื่อที่จะจับตัวงูแต่ไม่มีใครพบเห็นตัวงู พลบค่ำด้วยเอาแห่มาคลุมต่อต้นคูณไว้ เพื่อที่จะดักจับงูตัวดังกล่าวให้ได้ รุ่งเช้าก็ไม่พบว่างูติดแหที่คลุมตออยู่ เชื่อว่าน่าจะเป็นงูเจ้าที่ ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบกับเจ้าของบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเป็นบ้านปูนชั้นเดียวมีร่องรอยขูดต่อต้นคูณออกจากบริเวณหน้าบ้านออกไปวางไว้ข้างบ้าน นางปนัดดา พาลา อายุ 46 ปี กล่าวว่า ช่วงเย็นวานนี้หลานชายอายุ 2 ขวบออกมาหน้าบ้านแล้วส่งเสียงร้องกรี๊ดลั่นบ้าน จึงรีบวิ่งออกมาดูเห็นหลานยืนตัวแข็งทื่อและเห็นงูตัวใหญ่คาบคางคกอยู่ในปาก
ตนเองตะลึงและผวาด้วยความกลัวรีบเอาหลานถอยออกห่าง จากนั้นไปบอกเพื่อนบ้านให้มาเฝ้าดูและแจ้งกู้ภัยฯมาช่วยจับงู พร้อมกับนำรถแบคโฮขนาดเล็กมาขุดตอคูณออกแต่ก็ไม่พบตัวงู ซึ่งก่อนหน้านี้เมื่อ 2 ปีที่ผ่านมาตนเองได้ตัดต้นคูณทิ้ง ถึงกับล้มป่วยกระทันหัน 7 วัน 7 คืนและฝันเห็นคนแก่มาหาจึงจุดธูปขอขมาจึงหายป่วย ซึ่งก่อนจะเห็นงูตัวนี้ฝันว่ามีคนแก่เป็นผู้หญิงแต่งชุดขาวมาหาแล้วบอกว่าจะให้เงินให้โชคจากนั้นได้เขียนตัวเลขใส่กระดาษเลข11แล้วหญิงแต่งชุดขาวก็หายไปในความฝัน