สุรินทร์-วันที่ 2 มิ.ย. 68 หลังกระทรวงพาณิชย์เตรียมประกาศขึ้นทะเบียน “เนื้อสุรินทร์” ซึ่งเป็นเนื้อโคขุนคุณภาพสูง มีลักษณะเนื้อสีแดงอมชมพู มีไขมันแทรก เมื่อปรุงสุกจะให้รสชาติที่ดี เนื้อนุ่ม และไม่มีกลิ่นสาบ มีระดับคะแนนไขมันแทรกที่ 3 ขึ้นไปตามมาตรฐานการตัดเกรดเนื้อโคของญี่ปุ่น ซึ่งผลิตจากโคเนื้อลูกผสมระหว่างโคสายพันธุ์ลูกผสมในพื้นที่และโคสายพันธุ์วากิว 100 เปอร์เซ็นต์ ทำให้ได้โคเนื้อลูกผสมสายเลือดวากิว 50 เปอร์เซนต์ขึ้นไป ผ่านกระบวนการเลี้ยง โดยใช้ผลผลิตที่ได้จากการปลูกหญ้าและปลูกข้าวที่มีคุณภาพดีในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ประกอบกับสภาพอากาศที่มีความเหมาะสมกับการเลี้ยงโค ส่งผลให้โคมีสุขภาพแข็งแรง กินอาหารได้มาก และไม่ป่วยง่าย ประกอบกับ กระบวนการแปรสภาพ และการตัดแต่งซากตามมาตรฐานสากล ในพื้นที่จังหวัดสุรินทร์ ปัจจุบันมีปริมาณการผลิตกว่า 144,000 กิโลกรัมต่อปี มูลค่าการตลาดรวมกว่า 43 ล้านบาทต่อปี

โดยที่ฟาร์มเนื้อสุรินทร์ เลขที่ 104 หมู่ 3 บ้านทนง ต.สลักได อ.เมือง จ.สุรินทร์ พื้นที่ 7 ไร่ นางเคียงเดือน สงวนชื่อ หรือเจ้กุ้ง อายุ 54 ปี เจ้าของฟาร์มและเป็นประธานวิสาหกิจชุมชนโคขุน สุรินทร์โกเบครบวงจร ตำบลสลักได ได้พาผู้สื่อข่าวเข้าชมกระบวนการเลี้ยงโคขุนพันธุ์วากิวเลือดผสม ในฟาร์มปิดที่เข้มงวด โดยผู้ที่เข้าไปภายในฟาร์มทุกคนต้องสวมรองเท้าบูทเยียบผ่านน้ำยาฆ่าเชื้อก่อนเข้า เพื่อป้องกันเชื้อโรคสู้วัวในฟาร์ม ที่มีอยู่ประมาณ 200 กว่าตัว ไล่ลำดับขนาดตั้งแต่อายุ 6 เดือนไปจนถึงขนาด 25 เดือน(26 เดือนครบกำหนดกระบวนการแปรสภาพ) ภายในฟาร์มมีระบบสุขาภิบาลที่ดีเพื่อการจัดการและดูแลโคอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการดูแลเรื่องอาหาร น้ำ สุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของโคขุนวากิวเลือดผสม ส่งผลให้โคขุนมีสุขภาพแข็งแรง กินอาหารได้มาก และไม่ป่วยง่าย เป็นไปตามระบบมาตรฐาน ตามข้อกำหนดในการนำไปพิจารณาในการขึ้นทะเบียน GI เนื้อสุรินทร์ โดยการขึ้นทะเบียนสินค้า GI เนื้อสุรินทร์ เกษตรกรจะได้ประโยชน์ในจุดนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแข่งขันเรื่องของมูลค่าทางการตลาด การการันตีคุณภาพของเนื้อวัว ที่รับรองโดยตรา GI จากหน่วยงานของรัฐ เป็นตราที่กำหนดมาตรฐาน ก็จะเป็นผลดีต่อสินค้า ได้มูลค่าเพิ่ม ได้ความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองมาตรฐานชัดเจน สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้บริโภค สร้างมูลค่าเพิ่มให้กับ “เนื้อสุรินทร์” ยกระดับคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ให้กับพี่น้องเกษตรกรอย่างยั่งยืนและเป็นรูปธรรมต่อไป
นางเคียงเดือน สงวนชื่อ กล่าว่วา ทางกลุ่มวิสาหกิจฯ ได้มีการพัฒนาระบบการจัดการทั้งการพัฒนาคุณภาพของสายพันธุ์ และ การจัดการระบบของการบริหารฟาร์มที่เป็นระบบได้คูณภาพและมาตรฐานมาอย่างต่อเนื่อง เป็นระยะเวลากว่า 10 ปี จนกระทั่งปี 2556 ก็เริ่มมาจดทะเบียนวิสาหกิจชุมชนขึ้นมา เพื่อจะให้เป็นกลุ่มที่สามารถมีระเบียบข้อบังคับตามเกณฑ์ที่กำหนด และขอสนับสนุนจากหน่วยงานของรัฐได้ มีตั้งข้อระเบียบต่างๆขึ้น คือแม่พันธุ์ผสมเทียมด้วยน้ำเชื้อพ่อพันธุ์ที่กำหนด ลูกออกมานำไปขายที่ใด ราคาอย่างไร ก็ปรับกันมาเรื่อยๆ ส่วนคนที่มีประสบการณ์ก็จะเป็นคนขุน โดยส่วนใหญ่ประมาณ 90 % จะเป็นเกษตรกรที่มีแม่พันธุ์แล้วได้ลูกออกมา ซึ่งคนขุนก็จะมีโรงเรือนในลักษณะที่ได้มาตรฐานอยู่ประมาณ 10 ราย ในกลุ่มวิสาหกิจฯ
การพัฒนาจนมาถึงระดับหนึ่งที่เรียกว่า GI คือ สิ่งที่บ่งชี้ทางภูมิศาตร์ ซึ่งเราก็มีพร้อมคือการใช้พืชที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่น คือ ข้าวหอมมะลิมาปรุงเป็นอาหารให้กับวัว ทั้งฟางข้าวหอมมะลิ รำข้าวหอมมะลิและปลายข้าวหอมมะลิ มาผสมให้กับวัวกิน ตั้งแต่เล็ก เมื่อวัวได้กินอาหารซ้ำๆ ตั้งแต่อายุ 6 เดือนจนถึงเดือนสุดท้าย ทำให้เกิดเป็นเอกลักษณ์ทางด้านกลิ่นของเนื้อจะออกหอมๆเหมือนกลิ่นใบเตยอ่อนๆ จึงทำให้สุรินทร์เราเกิดข้อแตกต่าง
ขั้นตอนหลักเกณฑ์กำหนดที่จะขึ้นทะเบียน GI เนื้อสุรินทร์ ตอนนี้ได้มีการยื่นผ่านไปยังกรวงพานิชย์แล้ว และหากไม่มีผู้คัดค้านภายใน 90 วันนี้ ก็จะสามารถได้รับการจดทะเบียนGI ในชื่อ เนื้อสุรินทร์ ใครจะเข้าไปขอใช้เครื่องหมายนี้ ก็ต้องเป็นไปตามเงื่อนไขที่กำหนด เช่น แม่วัวต้องมีการขึ้นทะเบียน ลูกวัวที่เอามาส่งต้องอายุ 6 เดือน และไม่เกิน 12 เดือน น้ำหนักไม่น้อยกว่า 120 กิโลกรัม การเลี้ยง การขุน ต้องมีฟางข้าวหอมมะลิ รำข้าวและปลายข้าว เป็นตัวหลัก เวลาส่งแปรสภาพไป เนื้อจะมีไขมันแทรกเกรดมากน้อยที่แตกต่าง โดยกำหนดต้องอยู่ที่เกรด 3 ขึ้นไป จากทั้งหมด 6 เกรดระดับของไขมันแทรก
การขึ้นทะเบียนสินค้า GI เนื้อสุรินทร์ เกษตรกรจะได้ประโยชน์ในจุดนี้เป็นอย่างมาก โดยเฉพาะการแข่งขันเรื่องของมูลค่าทางการตลาด การการันตีคุณภาพของเนื้อวัว ที่รับรองโดยตรา GI จากหน่วยงานของรัฐ เป็นตรากลางที่กำหนดมาตรฐาน ก็จะเป็นผลดีต่อสินค้า ได้มูลค่าเพิ่มอย่างแน่นอน ได้ความน่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองมาตรฐานชัดเจน ส่งผลต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพต่อผู้บริโภคเนื้อวัวของเกษตรกรจังหวัดสุรินทร์ …..
จ.สุรินทร์
Discussion about this post