
วันที่ 5 มิถุนายน 2568 ที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ นายขจรศักดิ์ เมฆขจร นายกสมาคมพัฒนาชาวไร่ยาสูบบ่มเองเชียงใหม่พร้อมนายอรุณ โปธิตา เลขานุการสมาคมพัฒนาชาวไร่ยาสูบบ่มห้องเชียงใหม่ ได้นำเกษตรกรผู้ปลูกและผู้ผลิตยาสูบเชียงใหม่และลำพูน กว่า 100 คน ยื่นหนังสือถึงนายนิรัตน์ พงษ์สิทธิถาวรผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ผ่านนางศิริน รือเรียง ผู้อำนวยการกลุ่มงานศูนย์ดำรงธรรมจังหวัด สำนักงานจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อขอความช่วยเหลือรับซื้อใบยาสูบในปีการผลิต ปี 2567-2568 พร้อมแนบรายชื่อกลุ่มเกษตรกรใบยาสูบ ที่ได้รับผลกระทบ และความเดือดร้อนดังกล่าว ทั้งนี้นางศิริน ได้รับเรื่องดังกล่าว เพื่อนำเสนอนายนิรันต์ เพื่อรับทราบและลงนามก่อนเสนอไปยังสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวงการคลัง และคณะกรรมการ หรือบอร์ดใบยาสูบแห่งชาติ เพื่อพิจารณาภายใน 1-2 วันนี้ ก่อนกลุ่มเกษตรกรพอใจ และสลายตัว
กลับภูมิลำเนา
นายอรุณ กล่าวว่า ผลผลิตใบยาสูบพันธุ์เวอร์จิเนียพื้นที่ปลูกเชียงใหม่ ลำพูน เชียงรายและแพร่ มีปริมาณปีละ 4.7 ล้านกิโลกรัม แต่มียาสูบตกค้างกว่า 500,000 กิโลกรัม โดยเฉพาะพื้นที่เชียงใหม่ มียาสูบอบแห้งที่ตกค้าง จำนวน 288ราย รวม 347,640 กิโลกรัมแบ่งเป็น พื้นที่สถานีใบยาสูบปากทาง 32 ราย 30,440 กิโลกรัม สถานีสันมหาพน 17 ราย24,850 กิโลกรัม สถานีแม่เลน116 ราย 139,300 กิโลกรัมสถานีห้วยไซ 123 ราย 153,050 กิโลกรัม ซึ่งเกษตรกรที่มีผลผลิตตกค้างเฉลี่ย 1,500-2,000 กิโลกรัม/ราย
“เกษตรกรใบยาสูบภาคเหนือมีกว่า 10,000 ราย ดังนั้นขอเรียกร้องจังหวัดผ่านไปยังรัฐบาล คือ ช่วยรับซื้อยาสูบที่เหลือ หรือตกค้างเป็นเกรดต่ำทั้งหมดในราคา 99 บาท/กิโลกรัม เนื่องจากมีต้นทุนการผลิตเฉลี่ย 80 บาท/กิโลกรัม โดยเป็นการรับซื้อนอกโควต้า และช่วยรับซื้อใบยาสูบที่เหลือตามเกรดชั้นใบยาโดยให้หักโควต้าในฤดูผลิตปี 2568-2569 เพื่อบรรเทาผลกระทบราคาตกต่ำ และความเดือดร้อนเกษตรกรด้วย”นายอรุณ กล่าว
นายขจรศักดิ์ กล่าวว่า ทางสมาคมฯ และตัวแทนกลุ่มเกษตรกร เคยไปยื่นหนังสือถึงข้อเรียกร้องดังกล่าวกับนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะ ส.ส.เชียงใหม่ เขต 5 พรรคเพื่อไทยเพื่อช่วยเหลือเรื่องดังกล่าวโดยด่วนแล้ว พร้อมยื่นหนังสือให้ทางจังหวัด เพื่อขับเคลื่อนและนำเสนอรัฐบาลแบบคู่ขนานเพื่อพิจารณาช่วยเหลืออักทางหนึ่งต่อไป
///////////