ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลากลางจังหวัดปทุมธานี มีตัวแทนกลุ่มภาคประชาชนและภาคเอกชน จากหลายๆฝ่าย อาทิ นายเวนิต วัฒนธำรงค์ (อดีต ปลัด อบจ.ปทุมธานึ) ประธานชมรมคนรักคลองหมายเลข3 นายนพดล ลัดดาแย้ม (อดีต สจ.ปทุมธานี) เลขาธิการ กลุ่มThe Team ปทุมธานี (คนปทุมไม่ทน) ทนายสมนึก จัตตุวัฒนา ที่ปรึกษาชมรมคนรักคลองหมายเลข3 นายบังเอิญ ดีงาม กำนันตำบลเชียงรากใหญ่ นายพินิจ หงษ์สีสกุล กรรมการธรรมาภิบาล (กธจ) สามโคก จ.ปทุมธานี นายสุนันท์ ช่อผกา สท.เทศบาลตำบลเชียงรากใหญ่ นายสมชาย ผดุงนานนท์ สท.เทศบาลตำบลเชียงรากใหญ่ นายรุ่ง ศุภสมภพ กรรมการชมรมคนรักคลองหมายเลข3 นายวิษณุภัฐฌ์ จารุวังสันติ (มะโด่ง) กรรมการชมรมคนรักคลองหมายเลข3 นายพัฒนฐพงษ์ แก้วกัญยา นายเกียรติศักดิ์ ขยัน คณะทำงานกลุ่มThe Team ปทุมธานี นำหนังสือเรื่องการขับเคลื่อนผลักดันและขอให้เปิดประชุมเกี่ยวกับคลองหมายเลข3 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน มายื่นให้กับนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานึ
นายเวนิต วัฒนธำรงค์ ประธานชมรมคนรักคลองหมายเลข3 (อดีต ปลัด อบจ.ปทุมธานี) กล่าวว่า วันนี้ตนมาในฐานะประธาน ชมรมคนรักของหมายเลข 3 วันนี้ก็มาพร้อมด้วย คณะกรรมการชมรมและอีกหลายภาคส่วน โดยมายื่นหนังสือให้กับนายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้ท่านเปิดการประชุมเกี่ยวกับคลองหมายเลข3 เนื่องจากคลองหมายเลข 3 ประกอบด้วย คลองจำนวน 3 คลอง เชื่อมติดต่อกันได้แก่ คลองบ้านพร้าว คลองน้ำอ้อม และคลองบางหลวงเชียงราก ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอเมืองปทุมธานี และ อำเภอสามโคก เป็นคลองที่มีประวัติศาสตร์เก่าแก่ เป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายเก่ามีความยาว 22 กิโลเมตร ซึ่งในอดีตชาวกรุงศรีอยุธยาและชาวบ้านทั่วไป ใช้เป็นเส้นทางเดินเรือทำมาค้าขายออกไปสู่ทะเลปากน้ำและจากทะเลปากน้ำขึ้นสู่กรุงศรีอยุธยา มาจนถึงปัจจุบันนี้ และ ต่อมาในราวปี พ.ศ 2150 – 2151 ในแผ่นดินสมเด็จพระเจ้าทรงธรรมท่านทรงเล็งเห็นว่า ทางกรุงศรีอยุธยาและชาวปากน้ำกับประชาชนทั่วไป เดินทางสัญจรไปทำมาค้าขายขนส่งสินค้าเต็มไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากลำคลองคดเคี้ยวใช้เวลานานในการเดินทาง ท่านถึงได้ทรงมีพระราชดำริให้ดำเนินการขุดคลองขึ้นมาใหม่ จากช่วงปากคลองบ้านพร้าว อำเภอสามโคก บริเวณวัดไก่เตี้ย มาจนถึงปากคลองบางหลวง เชียงราก อำเภอเมืองปทุมธานี บริเวณวัดศาลเจ้า รวมระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเศษ โดยเรียกคลองที่ขุดใหม่นี้ว่า “ลัดเกร็ดใหญ่” หรือ “ลัดเตล็ดใหญ่” จนกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาสายปัจจุบัน มาจนถึงทุกวันนี้

ส่วนแม่น้ำเจ้าพระยาสายเดิม หรือ คลองหมายเลข3 นั้น ก็ทำให้มีเรือสัญจรผ่านไปมาน้อยลง จนกลายเป็นแม่น้ำเจ้าพระยาที่ถูกลืมไปในที่สุด แต่ชาวบ้านและประชาชนที่อยู่ริมคลองดั้งเดิมจำนวน 72,070 คน ก็ยังคงใช้วิถีชีวิตโดยปกติสุขเรื่อยมา มีการอนุรักษ์ประเพณี วัฒนธรรมดั้งเดิม ที่สืบทอดกันมาอย่างเหนียวแน่นและยังทำให้การทำมาหากินทางด้านการเกษตร การประมง การทำอิฐมอญและการทำมาค้าขายอาชีพอื่น ๆ ตลอดมา รวมทั้งยังใช้เรือสัญจรผ่านไปมา เพื่อออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา มาจนถึงทุกวันนี้
ดังนั้นพวกเราทุกคน ซึ่งถือว่าเป็นตัวแทนของภาคประชาชน หรือ ภาคเอกชน จึงได้มายื่นหนังสือเพื่อขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดปทุมธานี ทำการเปิดประชุมเกี่ยวกับแผนนโยบายต่างๆ ของคลองหมายเลข3 ถือเป็นการช่วยกันผลักดันเพื่อให้มีการเร่งรัดในการดำเนินงานหลังจากที่เคยมีการตั้งคณะกรรมการไว้แล้ว จะได้เห็นทุกอย่างเป็นรูปเป็นธรรม รวมทั้งขอให้มีการแก้ไขแบบแผนงานโดยขอให้มีกลุ่มภาคประชาชนหรือภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม จะได้ทำให้คลองหมายเลข3 เกิดขึ้นแบบยั่งยืนและถาวรเพื่อจัดทำคลองหมายเลข3 ให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเพื่อให้ประชาชนทุกคน ได้มา เที่ยวชม จับจ่ายใช้สอย แล้วเป็นการฟื้นฟูคลองที่เก่าแก่ที่สุดของจังหวัดปทุมธานี ถือเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจให้กับจังหวัดปทุมธานี อีกด้วย
สมเกียรติ ทรัพย์เฉลิม / รายงาน
0816235473