นครพนม, ประเทศไทย – เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2568 เวลา 13.30 น. กองทัพไทยและกองทัพสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ได้จัดการประชุมพบปะแลกเปลี่ยนการปฏิบัติงานร่วมกัน ครั้งที่ 5 ประจำปี 2568 ณ ห้องประชุมแขวงทางหลวงนครพนม บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-ลาว แห่งที่ 3 (นครพนม-คำม่วน) โดยมีเป้าหมายเพื่อกระชับความสัมพันธ์อันดีและเสริมสร้างความร่วมมือในการแก้ไขปัญหาสำคัญตามแนวชายแดน

การประชุมครั้งนี้ นำโดย พันเอกศิวดล ยาคล้าย ผู้บังคับการกองบังคับการควบคุมที่ 1 กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี จากฝ่ายไทย และ พันเอก บุนเลิด บุบผาวัน หัวหน้าการทหารกองบัญชาการทหาร แขวงคำม่วน สปป.ลาว พร้อมคณะเจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงจากทั้งสองประเทศ ลงนาม MOU ตอกย้ำความมุ่งมั่นร่วมปราบปรามยาเสพติด
หัวใจสำคัญของการประชุมในครั้งนี้คือการ ลงนามบันทึกการประชุมว่าด้วยการประสานงาน ระหว่างคณะชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนไทย-ลาว (จังหวัดนครพนม-แขวงคำม่วน) และคณะชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดนลาว-ไทย (แขวงคำม่วน-จังหวัดนครพนม) โดยมีสาระสำคัญมุ่งเน้นที่การ วางแผนการปฏิบัติงานการสกัดกั้นและปราบปรามแก้ไขปัญหายาเสพติด และสิ่งผิดกฎหมายทุกรูปแบบตามแนวชายแดนไทย-ลาว ประจำปี 2568 เดินหน้าพัฒนาคุณภาพชีวิตและเสริมสร้างชุมชนชายแดน
หลังจากการประชุมเสร็จสิ้น คณะทหารทั้งสองฝ่ายได้เดินทางไปยัง วัดพระบาทเวินปลา ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน จังหวัดนครพนม เพื่อร่วมกิจกรรมโครงการหมู่บ้านเข้มแข็งคู่ขนานตามแนวชายแดน โครงการนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ สร้างความสัมพันธ์อันดีกับผู้นำทหารและผู้นำท้องถิ่น ของประเทศเพื่อนบ้านในระดับพื้นที่ ซึ่งจะส่งผลให้เกิดความร่วมมือและความเข้าใจในการทำงาน สอดคล้องกับนโยบายของทั้งสองประเทศที่มุ่งเน้นแก้ไขปัญหาที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของชาติเป็นหลัก
ในกิจกรรมนี้ ได้มีการจัดกิจกรรม CSR โดย มอบพันธุ์ปลานิลจิตรดา 3,000 ตัว และพันธุ์ไม้พยูง, ไม้สัก และไม้มะฮอกกานี 400 ต้น ให้กับผู้เข้าร่วมกิจกรรม เพื่อส่งเสริมการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ชายแดน รวมถึงความร่วมมือในการอนุรักษ์ผืนป่าและเสริมสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงนิเวศ ที่เชื่อมโยงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม นอกจากนี้ยังได้มีการ ปลูกต้นไม้ร่วมกัน เพื่อเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนและพัฒนาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนของทั้งสองประเทศ
แผนปฏิบัติการร่วมมือปี 2568: สกัดกั้นภัยคุกคามทุกรูปแบบ
ที่ประชุมได้สรุปแผนปฏิบัติงานความร่วมมือในปี 2568 โดยมุ่งเน้นประเด็นสำคัญดังนี้:
- เพิ่มมาตรการเฝ้าตรวจอากาศยานไร้คนขับ (โดรน) โดยทั้งสองฝ่ายจะร่วมกันประสานงานและสนับสนุนการปฏิบัติเพื่อเฝ้าระวังโดรนที่อาจถูกใช้โดยขบวนการลำเลียงยาเสพติดหรือกลุ่มผู้กระทำผิดกฎหมายอื่นๆ ตามแนวชายแดน และจะมีการส่งผลการตรวจสอบให้กันและกันทราบ ลาดตระเวนร่วมอย่างเป็นทางการ ทุก 3 เดือน/ครั้ง และ จัดการประชุมพบปะแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ทุก 6 เดือน/ครั้ง โดยผลัดเปลี่ยนกันเป็นเจ้าภาพ
- ประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารเครือข่ายเป้าหมายยาเสพติด อย่างต่อเนื่อง และหากฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งมีแผนติดตามเป้าหมายยาเสพติด อีกฝ่ายหนึ่งจะให้ความร่วมมืออย่างรวดเร็ว
ตรวจสอบกิจการท่าทรายและบริษัทเหมืองแร่ (ดูดทราย) ตามแนวชายแดนแม่น้ำโขง ที่ดำเนินการไม่ถูกต้องตามกฎหมาย และหากพบการละเมิดกฎหมาย จะร่วมกันตรวจสอบพื้นที่จริงและร่วมกันยุติปัญหา ณ แนวชายแดน เพื่อไม่ให้ปัญหามีวงกว้าง ประสานการปฏิบัติผ่านกลไกชุดประสานงานประจำพื้นที่ชายแดน หากมีการส่งตัวผู้ต้องหาข้ามแดน
บันทึกการประชุมฉบับนี้จัดทำขึ้น 4 ฉบับ เป็น 2 ภาษา (ไทยและลาว) แต่ละฝ่ายจัดเก็บไว้ 2 ฉบับ เพื่อเป็นนโยบายในการปฏิบัติต่อไป
ความร่วมมือที่แข็งแกร่งและครอบคลุมนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของกองทัพไทยและลาวในการรักษาความสงบเรียบร้อยตามแนวชายแดน และยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ร่วมกัน
ข่าว/ภาพ ประทีป วชิระธัญญากุลผู้สื่อข่าวภูมิภาคจังหวัดนครพนมโทร084-934075-0
Discussion about this post